ระวัง! พบระเบิดขุดใต้ถนนยาว 4 ม.

โจรใต้จ่อยิงพวกเดียวกันดับ 1 ศพ

ค้นประวัติพบเป็นแนวร่วมกลุ่มจีฮัจเชื่อฆ่าตัดตอนกันเอง จนท.พบหลุมใต้ถนนสาย 410 ลึก 4 เมตร ที่ อ.บันนังสตา เชื่อคนร้ายเตรียมนำระเบิดมาซุกบึ้ม ส่วนเยาวชนกลุ่มเข้ารายงานตัวอีก 65 คน ด้าน "สุรินทร์ พิศสุวรรณ" นำอดีต ส.ส.ใต้ พบ "สนธิ" เสนอแนวทางดับไฟใต้ แนะให้เพิ่มบทบาทกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา มีส่วนร่วมมากขึ้น

ที่กองทัพบกเวลา 09.00 น.


วันที่ 5 ก.ค. นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำอดีต ส.ส. จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของพรรคประชาธิปัตย์ กว่า 10 คน เข้าพบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. หลังได้รับอำนาจให้รับผิดชอบแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เต็มที่ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการให้เป็นไปตามนโยบาย และยุทธศาสตร์เสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กบ.ชต.) เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาภาคใต้ โดยใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง

นายสุรินทร์ เปิดเผยว่า


ได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ให้มาพบ ผบ.ทบ. เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมในการร่วมมือแก้ไขปัญหาในจังหวัดทางภาคใต้ให้เสร็จสิ้น และสงบร่มเย็นโดยเร็วที่สุด ซึ่งหลังจากที่ได้รับฟังแนวความคิด วิสัยทัศน์ และวิธีการมองปัญหาของ ผบ.ทบ. แล้วพวกตนรู้สึกอุ่นใจ มั่นใจ และเชื่อว่าจะร่วมกันแก้ไขปัญหาได้ โดยเฉพาะเรื่องความซับซ้อนละเอียดอ่อนในพื้นที่ อาจจะเกิดความไม่เข้าใจในวิถีชีวิต ก็ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าบางเรื่องในพื้นที่มองปัญหาอีกแบบ แต่คนนอกกลับไปตีเป็นความหมายอย่างอื่น ซึ่ง ตนได้เรียกร้องว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำศาสนา จะต้องมีส่วนรับผิดชอบและส่วนร่วมมากขึ้น

นายสุรินทร์กล่าวว่า


ในเรื่องการปรับเปลี่ยนบุคคลเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ได้ขอว่าอย่าปรับเปลี่ยนในทันที เพราะเป็นห่วงข้าราชการจากนอกพื้นที่ อาจไม่เข้าใจภาษา และขนบธรรมเนียมประเพณีของคนในพื้นที่ ควรปล่อยให้คนที่มีความรู้ มีประสบการณ์ในพื้นที่ คอยแนะนำให้ข้อมูล เพื่อให้เข้าใจวิถีชีวิต และความละเอียดอ่อนในพื้นที่ก่อน และขอให้สนใจการศึกษาของเยาวชน เรื่องการฝึกอาชีพ หรือการฝึกอบรมเพื่อให้มีงานทำ ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้บัญชาการทหารบกรับทราบ และต่างฝ่ายต่างยืนยันจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหา

ด้าน พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คณะของนายสุรินทร์


ได้ให้คำแนะนำในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งทราบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่มีอะไรบ้าง ซึ่งจะได้นำมาเป็นเครื่องมือในการเสริมแนวทางปฏิบัติในส่วนที่ยังไม่ทราบ แต่ส่วนใหญ่คิดตรงกัน และจะต้องหาหนทางแก้ไข และจากนี้ไปจะให้หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ลงไปพบกับ ส.ส. ในพื้นที่ เพื่อพูดคุยและรับข้อมูลในการแก้ไขปัญหา โดยจะกำชับให้รับทุกข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นใคร ส่วน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ให้ความร่วมมืออยู่แล้ว แต่ในพื้นที่ที่วิกฤติ บางทีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่กล้า ดังนั้นตรงนี้เราต้องให้ความมั่นใจกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ต่าง ๆ ให้มีความอุ่นใจในการที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่

ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่เมื่อเวลา 07.50 น.


ร.ต.ท.ชัยฤทธิ์ อินดำ ร้อยเวร สภ.อ. ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งว่าพบศพคนถูกยิงเสียชีวิตอยู่ริมถนนบ้านปาโย หมู่ 8 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ สองข้างทางเป็นป่าละเมาะ เจ้าหน้าที่พบเพียงรอยเลือดบริเวณหน้าปัดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มคว่ำอยู่บริเวณริมถนนข้างทาง ส่วนศพผู้เสียชีวิตทางญาติได้นำกลับไปยังบ้านพักของผู้ตายเพื่อบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนาอิสลาม ทราบชื่อ นายดอรอ แม หรือ รอมือลี มะเซ็ง อายุ 43 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 67 หมู่ 4 ต.กาลิซา อ.ระแงะ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ที่ท้ายทอย และลำตัวหลายนัด โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจาเพื่อให้แพทย์ประจำโรงพยาบาลระแงะ ได้ชันสูตรพลิกศพ แต่ทางญาติผู้เสียชีวิตไม่ยินยอม จึงทำได้แค่ทำการบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.


วันที่ 4 ก.ค. 49 ที่ผ่านมา นายดอรอแม ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเพียงลำพัง เพื่อไปทำธุระในพื้นที่ บ้านบาโย ต.บาโงสะโต มาถึงที่เกิดเหตุนายดอรอ แม ได้แวะพูดคุยกับชายฉกรรจ์จำนวน 2 คน แต่ 1 ใน 2 คนร้าย ได้ชักอาวุธปืนพกสั้นจ่อยิง จากด้านหลังหลายนัด ก่อนหลบหนีไป ซึ่งจากประวัติพบว่าผู้ตายเป็นกลุ่มแนวร่วมในกลุ่มจีฮัจ หรือที่เรียกว่า "กลุ่มต่อสู้เพื่อศาสนาและแผ่นดินเกิด" ปฏิบัติการก่อเหตุป่วนใต้ในพื้นที่ อ.ระแงะ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานเป็นการฆ่าตัดตอนของกลุ่มขบวนการ หลังจากก่อนหน้านี้ผู้ตายพยายามวางมือจากกลุ่มขบวนการ

จากกรณีที่คนร้ายลอบวางระเบิดชุดลาด ตระเวนร่วม ตำรวจทหาร


อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้ ส.อ.ปรีชา โพธิชา ทหารชุด ร้อย ร.ฉก.12 ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือเล็กน้อยเหตุเกิดบนถนนสาย 410 (ยะลา-บันนังสตา) ที่หมู่ 1 บ้านป่าหวัง ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 4 ก.ค. ล่าสุดเมื่อ เวลา 10.00 น. พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ศปก.ตร.สน.ยะลา พ.ต.อ.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง รอง ผบก.น.1 ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนคดีพิเศษ ศปก.ตร.สน.ยะลา พ.ต.อ.อนุรุธ อิ่มอาบ ผกก.สภ.อ.บันนังสตา และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ศปก.ตร.สน.ยะลาพร้อมเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการเขต 45 ยะลาและเจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สนว.จชต.) ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายได้ขุดหลุมเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่กว้างเกือบ 1 เมตร เข้าไปใต้ผิวจราจรจากด้านข้างถนนลึกเข้าไปถึงกลางถนนประมาณ 7 เมตร ภายในหลุมเจ้าหน้าที่พบเศษกล่องเหล็ก และเศษสายไฟ รวมทั้งเศษดินระเบิด ขวดน้ำเปล่า และน้ำหวานยี่ห้อดีโด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายได้ฝังระเบิดชนิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ ลากสายยาวเข้าไปในสวนผลไม้ริมถนนและใช้กระสอบข้าวสารบรรจุดินลูกรังจำนวนกว่า 50 กระสอบอุดรูอุโมงค์ดังกล่าวไว้

วันเดียวกันที่หมู่ 9 บ้านเจาะบันตัง ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ร.ต.ต.ธาม ลอยสะเทื้อน ร้อยเวร สภ.อ.บันนังสตา จ.ยะลา


ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนด้วยเท้า ชุดร้อย ร.ฉก 12 ว่า พบร่องรอยการขุดดินเข้าไปในใต้พื้นผิวถนนสาย 410 (บันนังสตา-ธารโต) จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา รุดไปตรวจสอบพบหลุมดังกล่าวอยู่ริมถนนมีหินขนาดใหญ่ปิดปากรูเอาไว้ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นเส้นทางไม่ให้รถสัญจรผ่านเข้าไปยังจุดดังกล่าวเนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจจะซุกซ่อนระเบิดเอาไว้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด ภ.จว. ยะลา


ได้ตัดสัญญาณมือถือ พร้อมเข้าตรวจสอบพบว่าภายในหลุมมีกระสอบข้าวสารสีเหลืองยี่ห้อแตงโมภายในบรรจุดินลูกรัง มัดปากกระสอบด้วยยางในรถจักรยานยนต์ ปิดที่ปากหลุมเอาไว้และจากการตรวจสอบภายในหลุมไม่พบระเบิดแต่อย่างใด โดยหลุมดังกล่าวมีขนาดกว้าง 50 ซม. ลึกเข้าไปใต้ผิวถนนประมาณ 4 เมตร คาดว่าคนร้ายอาจจะซุกซ่อนระเบิดเอาไว้ เพื่อลอบสังหารเจ้าหน้าที่

จากนั้นเวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส นายประชา เตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส


เป็นประธานในการรับเยาวชนกลุ่มเสี่ยงกลุ่มที่ 4 ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส 65 คน เข้ารายงานตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์โดยเยาวชนทั้ง 65 คน เดินทางมาจาก อ.เมือง 6 คน อ.ยี่งอ 14 คน อ.บาเจาะ 4 คน อ.ศรีสาคร 8 คน อ.ตากใบ 4 คน อ.จะแนะ 22 คน และ อ.เจาะไอร้อง 4 คน ซึ่งหลังจากนี้เยาวชนทั้งหมดจะถูกส่งไปอบรมภายในโรงเรียนเสริมสร้างสันติสุขที่ จ.ราชบุรี จ.จันทบุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 20 กรกฎาคมนี้

ด้าน พล.ต.ต.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบก.จ.นราธิวาส


ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 13 อำเภอของจังหวัด เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ แหล่งชุมชน ตลาดนัด โดยเฉพาะบริเวณศาลากลาง และตรวจสอบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่เข้า-ออก ด้วยการตรวจวัตถุระเบิด อาวุธปืน ทุกคัน เพื่อป้องกัน ลอบก่อวินาศกรรม

รายต่อมาเวลา 17.40 น. ร.ต.ท.ปิยวุฒิ พงษ์ไพบูลย์ ร้อยเวร สภ.อ.ธารโต จ.ยะลา


ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดและยิงถล่มทหารชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ฉก.14 เหตุเกิดบริเวณบ้านซาไก หมู่ 3 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จึงนำกำลังไปช่วยเหลือ ใช้เวลาเดินทางไปที่เกิดเหตุประมาณ 30 นาที พบทหารชุดดังกล่าวนอนจมกองเลือดอยู่บนถนน เนื่องจากถูกยิงและถูกสะเก็ดระเบิด จำนวน 9 นาย จึงรีบลำเลียงส่งโรงพยาบาลธารโต ประกอบด้วย จ.ส.อ.เล็ก สุขพงษ์ จ.ส.อ.เจริญ แก้วสว่าง จ.ส.อ.สุชาติ พึ่งวงศ์ ส.อ.เปรม มีชัย พลทหารอภิรักษ์ ฉิมเหล็ก พลทหารวรวุฒิ ฑะสุนทร พลทหารฤทธิเดช โคกระพัน พลทหารชัยวัฒน์ กุลสุวรรณ และพลทหารสมภาร แป้มปลัด สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุทั้งหมดนั่งรถปิกอัพของทหารออกตรวจเส้นทางตามปกติแต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่ง 2 ข้างทางเป็นป่ารก ทึบคนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่องไว้ได้จุดชนวนระเบิดขึ้น ทำให้รถได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่บางส่วนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงเกิดการยิงปะทะกันประมาณ 20 นาที ก่อนที่คนร้ายได้ล่าถอยไป ขณะนี้กำลังทหารอีกชุดได้ออกติดตามคนร้ายแล้ว.

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์เดลี่นิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์