บทสรุปของ กกต. ในวันนี้

ที่ศาลอาญา วานนี้ (5 ก.ค.) ศาลได้นัดสืบพยานจำเลยคดีที่นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์


ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร กกต. ในความผิดฐานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 จากกรณีที่ กกต.ร่วมกันจัดการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตรอบใหม่ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2549 โดยไม่มีอำนาจ และการออกหนังสือเวียนถึง ผอ.กต.เขต ให้รับผู้สมัครรายเดิมเวียนเทียนสมัครใหม่ โดยนายวีระชัยเบิกความว่า ก่อนที่กกต.จะมีมติและออกประกาศจัดเลือกตั้งรอบใหม่ ได้มีการประชุมกันหลายครั้ง ไม่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงเกณฑ์ที่ผู้สมัครพรรคเดียวในเขตนั้น โดยการประชุมเพื่อมีมติดังกล่าว กกต.ร่วมประชุมครบทั้ง 4 คน และการกำหนดวันเลือกตั้งรอบใหม่กระทำด้วยความบริสุทธิ์ใจที่คำนึงทั้งในเรื่องระยะเวลา และความรู้สึกของประชาชน


พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการ กกต.


กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าไม่ได้รับความร่วมมือในการขอข้อมูลว่า กกต.ไม่เคยไปขัดขวางแต่ทำทุกอย่างตามคำสั่งศาล ทั้งยังอำนวยความสะดวกให้แก่ ผู้ที่มาขอเอกสารด้วย แต่ไม่สามารถให้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีได้ และคำขอของพรรคประชาธิปัตย์ก็กว้างมาก ขอมาถึง 97 เรื่อง และ 45 เรื่องเป็นวาระการพิจารณาเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่เกี่ยวข้องกับคดี จึงไม่มอบเอกสารในวาระนั้นให้ กำลังพิจารณาว่าจะสามารถให้เรื่องใดได้บ้าง คาดว่าจะเสร็จภายในวันที่ 6 ก.ค.นี้ ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง เรื่องจ้างพรรคเล็กลงสมัคร ทาง กกต.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ กกต. ไปแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 ราย คือ นายบุญทวีศักดิ์ อมรสินธุ์ หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย นายอมรวิทย์ สุวรรณผา เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ สำนักงาน กกต. นายสุขสันต์ ชัยเทศ ผอ.พรรคพัฒนาชาติไทย และนายชวการ โตสวัสดิ์ ผู้ประสานงานพรรคพัฒนาชาติไทยแล้ว

ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์


กล่าวว่า กรณีที่ ประธาน กกต. ให้การต่อศาลและให้ข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ได้มาพบกับตนและได้พูดคุยนานกว่า 4 ชั่วโมง เพื่อชักชวนให้พรรค ประชาธิปัตย์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะไม่มีเงินทุนว่า ขอยืนยันว่า พล.ต.อ.วาสนาพูดไม่จริง โดยพยายามบิดเบือนให้ตนและพรรคประชาธิปัตย์เสียหาย ข้อเท็จจริง พล.ต.อ.วาสนาเป็นฝ่ายมาขอติดต่อพบตน โดยพบกันในวันที่ 17 มี.ค.หลังปิดรับสมัครรับเลือกตั้งไปแล้ว 9 วัน และการพูดคุยในวันดังกล่าว พล.ต.อ.วาสนาได้พยายามพูดหว่านล้อม ตั้งคำถามไล่เรียงวกวนต้องการรู้ชื่อเจ้าหน้าที่ กกต. 2 คน ที่ไปช่วยทำเอกสารปลอมให้พรรคการเมืองเล็กพรรคหนึ่ง ที่ยังไม่เคยปรากฏเป็นข่าวมาก่อน และรู้สึกกังวลต่อเรื่องนี้มากเพราะมีข่าวลือว่า พล.ต.อ.วาสนาเป็นคนใช้เจ้าหน้าที่ กกต. 2 คนนี้

นายสุเทพกล่าวว่า


ได้บอก พล.ต.อ.วาสนาไปว่า แม้ได้ข่าวเจ้าหน้าที่ กกต.ไปปลอมแปลงเอกสาร แต่ขอพูดถึงเฉพาะที่มีหลักฐานการแก้ไขข้อมูล กกต. แต่ พล.ต.อ.วาสนายังพยายามถามว่า เจ้าหน้าที่ กกต.ที่ไปช่วยพรรคอื่นมีใครอีกบ้าง เพราะกลัวลูกน้องจะซัดทอดถึงตัวเอง เมื่อตนยืนยันว่าจะพูดเฉพาะที่มีหลักฐาน พล.ต.อ. วาสนาดูจะโล่งใจมาก จากนั้นคุยกันเรื่องสัพเพเหระ เช่น สถานการณ์เลือกตั้ง แต่ พล.ต.อ.วาสนาไม่ใส่ใจที่จะฟัง เพราะได้คำตอบที่ต้องการแล้ว คุยกันได้แค่ 1 ชั่วโมงตนขอลากลับ ไม่ใช่คุยกันนานถึง 4 ชั่วโมงนั้นเป็นเรื่องโม้ทั้งนั้น

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์