นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ถึงกรณี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ระบุภายในพรรคประชาธิปัตย์ มีแก๊งออฟโฟร์ ประกอบด้วย นายสาทิตย์ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู รองเลขาธิการพรรค และนางอัญชลี วานิช เทพบุตร เหรัญญิกพรรค ว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้คุยกับนายเฉลิม แต่ทำงานด้วยกันมาตลอด ประเด็นดังกล่าวทำให้สาธารณะเข้าใจว่า มีใครเป็นไอ้โม่งจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นายสาทิตย์ กล่าวยืนยันว่า กระบวนการจัดโผคณะรัฐมนตรี ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ก่อตั้งมายาวนานถึง 62 ปี เป็นประชาธิปไตยมีขั้นตอนมากที่สุดพรรคหนึ่ง
พรรคดำเนินการจัดคณะรัฐมนตรีแบบนี้มานานแล้ว เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค จัดทำรายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จแล้ว ต้องได้รับการอนุมัติ โดยกรรมการบริหารพรรค ที่เดิมมี 49 คน ปัจจุบันมี 19 คน รวมทั้งต้องผ่านความเห็นชอบของ ส.ส.อีก 166 คน รายชื่อใดที่ได้รับการอนุมัติ ถือว่าผ่าน หากไม่ได้รับการอนุมัติ ต้องจัดทำใหม่
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า การจัดโผครม. ที่ผ่านมา มีการอนุมัติ โดยเอกฉันท์ ยืนยันว่า พรรคมีแก๊งมีกลุ่มไม่ได้
ส่วนกรณี นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ระบุว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เป็น รัฐบาลไฮแจ๊ค - ปล้นกลางอากาศ นั้น ต้องให้โอกาส ฝ่ายค้านได้อภิปรายเต็มที่ในการแถลงนโยบายขอรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ธ.ค. อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การตั้งรัฐบาล เลือกนายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลต้องชี้แจงข้อเท็จจริง ว่า รัฐบาลที่มาโดยความชอบธรรม จะทำอะไรให้ประเทศชาติ-ประชาชน ได้บ้าง
"อภิสิทธิ์"ยันไม่ได้ปล้นตำแหน่ง ไม่หวั่นถูก"เสนาะ"แฉ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ว่า ไม่ได้ปล้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราชกล่าวหา และไม่ทราบว่านายเสนาะมีข้อมูลที่จะเปิดเผยในวันที่แถลงนโยบายอย่างไร แต่การเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา เป็นเรื่องของเสียงข้างมากในรัฐสภาที่จะลงคะแนน พร้อมชี้แจงว่าไม่ได้รู้สึกกังวลต่อกรณีดังกล่าว เนื่องจากการดำเนินการมีความชัดเจน และเปิดเผย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าขณะนี้มีความพยายามทำให้ความขัดแย้งภายในพรรคทุกอย่างราบรื่น โดยในวันนี้ จะเริ่มต้นทำงาน และนำผลงานมาช่วยในการสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาล ภายใน 2-3 เดือน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้ต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ เพื่อเปิดทางให้มีการปฏิรูปการเมือง ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่จะนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมือง