แม้วโฟนอินที่ขอนแก่น โวยถูกปล้นส.ส.เรียกร้องให้รวมกลุ่มกันอีก จตุพรลั่นนำเสื้อแดงบุกสภา29ธ.ค.


"แม้ว"ใช้ยุทธการป่าล้อมเมือง โฟนอินที่ขอนแก่น โวยถูกปล้น ส.ส."จตุพร" นำทีมเสื้อแดงบุกหน้าสภาวันแถลงนโยบาย 29 ธ.ค. ยันไม่ปิดทางเข้า ฉะ"นายกฯสามบาท"เล่นละครอ้อนอีสานไม่เนียน ผบ.สส.เชื่อไม่ซ้ำรอยเหตุ 7 ตุลาฯ อดีตคมช.ซัด"แม้ว" ตัวทำปท.วุ่นวาย ตกเป็นหุ่นเชิดทำลายชาติและสถาบัน เหน็บเมียยังทิ้ง

"แม้ว"โฟนอินไปขอนแก่นโวยถูกปล้นส.ส.-ปลุกชาวบ้านสู้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.30น. วันที่ 20 ธันวาคม ที่จังหวัดขอนแก่น กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น ราว 200คน นำโดยนางซาบินา ชาห์ และนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนเสื้อแดง จ.อุดรธานี ร่วมชุมนุมที่ลานน้ำพุ ริมบึงแก่นนคร อ.เมืองขอนแก่น เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยุบสภาหรือลาออกเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาแกนนำคนเสื้อแดงลุกขึ้นกล่าวโจมตีกลุ่มเพื่อนเนวินทรยศต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และประชาชนที่เลือกตั้งบุคคลเหล่านั้นเข้าไปเป็นส.ส. และยังระบุรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาล"นอมินี"ของทหาร ไม่ได้ทำเพื่อคนรากหญ้า แต่ทำเพื่อกลุ่มศักดินาจึงต้องการให้ยุบสภาหรือลาออก
 
ช่วงเวลา 20.00น.แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม โทรศัพท์ติดต่อพ.ต.ท.ทักษิณ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศพูดผ่านโทรศัพท์ว่า "ผมมีความเป็นห่วงประชาชน แต่ขณะนี้ยังประสบความลำบากกับไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาล อยากจะกลับมาประเทศไทยเพื่อหาโอกาสช่วยเหลือประชาชน แต่ไม่รู้จะได้กลับมาเมื่อไหร่ ฝากความรักความเป็นห่วงประชาชน หากมีโอกาสได้กลับมา ก็จะรับใช้ประชาชนเหมือนที่เคยทำมา คิดว่าจะทำให้ประเทศไทยและคนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น"
 
พ.ต.ท.ทักษิณโจมตี กลุ่มส.ส.และสมาชิกพรรคพลังประชาชนเดิม ที่ผันตัวไปออกเสียงโหวตลงคะแนนเลือกให้พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเป็นแกนนำรัฐบาล โดยเรียกร้องกับกลุ่มผู้สนับสนุนว่า
 
"ขอให้พวกเราร่วมมือช่วยกันต่อสู้ จากเหตุที่ถูกปล้น ส.ส.ไป ต้องพากลับมา แม้ว่าผมจะต้องลำบากระหกระเหินอยู่ต่างประเทศ ไม่มีที่อยู่หลักแหล่งแน่นอน แต่ก็หวังว่า พวกเราจะช่วยกันกลับมาพัฒนาประเทศชาติได้"
 
หลังการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ บรรดาผู้ร่วมชุมนุมโห่ร้องแสดงความยินดี จากนั้นนายขวัญชัยประกาศว่า  กลุ่มคนเสื้อแดงจะนัดเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องรัฐบาลยุบสภาหรือนายอภิสิทธิ์ลาออกคืนความชอบธรรมให้ประชาชน และให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้ามากู้ประเทศ

นายกฯชี้สิทธิเสื้อแดงชุมนุมอย่าผิดกม.
 
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เคารพสิทธิทางการเมืองไม่ขวางกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง นัดชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาลนายอภิสิทธิ์บริเวณท้องสนามหลวง ในวันที่ 28 ธันวาคม แต่ให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 20 ธันวาคม ก่อนเดินทางไปร่วมงานสัมมนาส.ส.พรรคที่อ.เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานีว่า จะไปคาดหวังว่าให้เหตุการณ์ทุกอย่างจบลงไปในทันทีไม่ได้ ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงมีสิทธิที่จะเคลื่อนไหวทางการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญ การจัดเวทีปราศรัยที่สนามหลวงก็เป็นสิทธิที่ทำได้ ขออย่างเดียวคือเจ้าหน้าที่จะต้องดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อย ไม่ให้มีการทำลายทรัพย์สินหรือทำผิดกฎหมาย
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยหรือไม่หากกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนมาที่รัฐสภาในการแถลงนโยบายวันที่ 29 ธันวาคม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องดูแล ต้องป้องกันมากขึ้นคือไม่ให้เกิดความรุนแรงจากกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย ส่วนเหตุการณ์จะซ้ำรอยกับเมื่อการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่กลุ่มพันธมิตรออกมาปิดล้อมหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าจะพยายามให้ราบรื่นที่สุด และหวังว่าทำได้

ตร.เกาะติดระบุเรียบร้อยไม่มีรุนแรง
 
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ  พงษ์เจริญ  ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วยผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้างานประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.)เปิดเผยหลังประชุมศปก.ตร.ว่า  พล.ต.อ.ปทีป  ตันประเสริฐ   จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผบ.ตร.  เน้นย้ำถึงนโยบายของนายอภิสิทธิ์ที่ได้มอบหมายให้ตร.เข้าไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของผู้ชุมนุม  ทั้งในวันก่อนแถลงนโยบายและในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล จากการติดตามสถานการณ์  ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ  อย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องตลอดมา   คาดว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและจะเป็นการชุมนุมโดยสงบไม่น่าจะมีเหตุร้ายใด ๆเกิดขึ้น  ยืนยันว่า ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความละมุนละม่อม  ไม่ใช้ความรุนแรง หลีกเลี่ยงการปะทะและจะไม่ทำร้ายประชาชนโดยเด็ดขาด
 
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน  สรุปความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมาให้กับประชาชน ไปแล้วนั้น พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า  รรท.ผบ.ตร. ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น และเสียใจต่อความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินที่เกิดขึ้น  และจะใช้เป็นทบเรียนอุทาหรณ์ไม่ให้เกิดขึ้น

"จตุพร"ลั่น29ธ.ค.เคลื่อนไปหน้าสภา
 
ขณะที่ นายจตุพร พรมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 28 ธันวาคม ที่สนามหลวงว่าจะเป็นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนอกสภา เพราะเป็นรัฐบาลต่างตอบแทนอย่างชัดเจน ทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของ  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นการตอบแทนทหาร ตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ ของนายกษิต ภิรมย์ เป็นการตอบแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯของ นายวีระชัย วีระเมธีกุล เป็นการตอบแทนกลุ่มทุน นอกจากนี้ตำแหน่งรมว.มหาดไทยของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ก็เป็นการตอบแทนการทำหน้าที่รักษาการนายกฯ 
 
"กระบวนการจัดทำโผครม.เป็นใบเสร็จที่บอกกระทำผิดสำเร็จทั้งหมด  ในวันที่ 28 ธันวาคม จึงมีการชำแหละก่อนการแถลงนโยบาย 1 วัน และเชื่อว่าประชาชนผู้รักประชาธิปไตย จะไปชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภาในวันที่ 29 ธันวาคมนี้ด้วย แต่จะไปชุมนุมกันอย่างสงบ และเปิดให้มีการเข้าไปแถลงนโยบายได้"
 
เมื่อถามกระแสข่าวมีการวางแผนย้อนเกล็ดเหตุการณ์ 7 ตุลาคม นายจตุพรกลาวว่า นปช.ไม่มีท่วงทำนองแบบที่พันธมิตรทำ แต่จะชี้ให้เห็นว่า การได้อำนาจมามิชอบ ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่จะเสวยสุข แล้วมาเรียกร้องความสงบสุข เพราะประชาธิปไตยถูกแทรกแซงอย่างย่อยยับ แล้วยังมาต้องการบริหารโดยความสงบสุข มันไม่ยุติธรรม

ซัด"กษิต"คุมบัวแก้วประจานตัวเอง
 
นายจตุพรกล่าวว่า ปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตลอดช่วงที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น โดยผ่าน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ของพรรคซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรและนายกษิต คนเหล่านี้ร่วมกันยึดทำเนียบรัฐบาล และสนามบิน 2 แห่ง นายกษิต จะตอบเรื่องการยึดสนามบินไม่ได้เลย การไปทำหน้าที่ยังประเทศต่างๆของนายกษิตจะเป็นการไปประจานประเทศและตัวนายกษิตเอง
 
"มีคำถามมากมายเรื่องการยึดทำเนียบและสนามบินของพันธมิตรฯ นายกษิตจะตอบได้หรือ มันไม่ใช่ความน่ากลัวแต่เป็นความน่าเกลียดของประเทศ ไม่ใช่ของควรโชว์ให้ต่างประเทศดู หากจะคิดไปเล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ก็ต้องแก้ปัญหาตัวเองให้ได้ก่อน ความวุ่นวายในวันนั้นเกิดจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทำให้ตัวเองมาเป็นรัฐบาลแทน แล้วยังจะมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ ถือเป็นข้อเรียกร้องที่เห็นแก่ตัว เพราะที่มาด่างพร้อย วันนี้คนในพรรคประชาธิปัตย์เองก็รู้ จึงมีการออกมาแสดงออก"นายจตุพรกล่าว

เชื่อปชช.สั่งสอนนักการเมืองทรยศ
 
นายจตุพร กล่าวอีกว่าขอวิจารณ์ในฐานะคนที่ติดตามกระบวนการล้มรัฐบาลที่ผ่านมาว่าเป็นกระบวนการเดียวกัน รัฐบาลมาจากกระบวนการทำลายล้าง แล้ววันนี้ จะบอกมาให้ดีกัน มันไม่ได้ ตำแหน่งรัฐมนตรีที่ออกมา มันมัวหมอง มีข้อครหาหลายตำแหน่ง ทางที่ดี ให้ทำตามที่นายอภิสิทธิ์บอกไว้ก่อนหน้านี้ คือ ให้ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน
 
เมื่อถามว่าแต่ครั้งนี้มีกุนซือการเมืองที่เพิ่งแยกตัวจากพรรคพลังประชาชนไปช่วยด้วย นายจตุพรกล่าวว่า วันนี้ประชาชนไปไกลกว่านักการเมือง และไม่ได้ติดที่ตัวคน แต่ติดที่พฤติการของนักการเมือง ถ้านักการเมืองมีพฤติการณ์ตรงข้ามกับประชาธิไตย ตรงข้ามกับแนวทางที่เคยประกาศไว้ ประชาชนจะไม่เชื่อ เห็นจากหลายครั้ง นักการเมืองหลายคนที่มีพฤติการทรยศ ประชาชนพื้นที่ก็ไม่ต้อนรับ ครอบครัวไม่สามารถสู้หน้าประชาชนได้ วันนี้ประชาชนจะพิสูจน์ให้นักการเมืองเห็นในวันเลือกตั้ง ถ้าไปทรยศ ประชาชนพร้อมสั่งสอนนักการเมือง

ฉะนายกฯสามบาทเล่นละครไม่เนียน
 
"ที่นายอภิสิทธิ์พยายามเล่นละคร อ้อนคนอีสาน โดยเฉพาะที่ยกเรื่องแหวนยายเนียมขึ้นมานั้น คือการพยายาม แต่ไม่ตรงกับการแสดง เพราะจะได้ใจหรือไม่ได้ใจ มันอยู่ที่จุดยืนในการตั้งใจแก้ปัญหาจริงๆ มากกว่าการลำดับเรื่องให้เห็นใจ กรณีที่ยกมาเป็นละครฉากหนึ่ง ที่ต้องการชี้ให้เห็นว่า ตัวเองให้ความสนใจจากคนอีสาน แต่มันไม่เนียน เหมือนที่ไปกวาดขณะที่ทำเนียบ ดูไม่เนียน เพราะจับไม้กวาดไม่ถูก เนื่องจากไม่เคยกวาดขยะ การพยายามทำกับเนียน เป็นมาร์คออฟเดอะริง การส่งเอสเอ็มเอสสามบาท ในอดีตมีหนังเรื่อง ผีสามบาท วันนี้มี นายกฯสามบาท เพราะมีตัวแทนกลุ่มทุนที่มาเป็นรัฐมนตรี ได้ประโยชน์จากค่าเอสเอ็มเอสนี้ การขึ้นมาของนายอภิสิทธิ์ เป็นภาระให้ประชาชน ในอดีตตอนไปทำวาระประชาชนที่อีสาน นายอภิสิทธิ์ ก็ทำตัวเป็น มาร์คสิงห์คะนองนามาแล้ว ด้วยการสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวไถนา ไม่เนียน"
 
นายจตุพรกล่าวว่า ด้วยปัจจัยต่างๆ รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช มีอายุ 7 เดือน รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มีอายุ 2 เดือนครึ่ง ดังนั้นเชื่อว่าอายุรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่น่าเกินอายุของรัฐบาลนายสมชาย เพราะคนไทยไม่ยอมให้ใครมาปล้นซึ่งหน้า รัฐบาลประชาธิปัตย์จะระเบิดทั้งจากภายใน และภายนอกที่ผู้รักประชาธิปไตยไม่ยอมรับ

เล็งผุดบ้านใหม่"ความจริงวันนี้"
 
นายจตุพรยังกล่าวถึงรายการ "ความจริงวันนี้" อีกครั้งว่า เชื่อว่าคงยากที่จะได้กลับมาออกอากาศกาศทางโทรทัศน์เอ็นบีทีเพราะขนาดสัญญายังไม่หมด ยังมีการใช้วิธีนำรายการอื่นมาแทรก โดยอ้างว่าเป็นรายการที่จำเป็น ซึ่งตรวจสอบเนื้อหาไม่พบว่าจำเป็นแต่อย่างใด แต่เป็นวิธีการของเอ็นบีทีเพื่อหยุดรายการความจริงวันนี้ โดยไม่ต้องยกเลิกสัญญา เป็นวิธีการทางการเมือง ส่วนจะมีการฟ้องร้องเนื่องจากยังไม่ครบกำหนดเวลาตามสัญญาหรือไม่นั้น แม้จะมีกลไกอื่นมาแทรก แต่ไม่อยากเปิดศึกกับเอ็นบีทีโดยตรง เพราะเข้าใจสถานการ์ของการแทรกแซง
 
นายจตุพรกล่าวว่าแม้จะไม่สามารถออกเอ็นบีทีได้ ก็สามารถถ่ายทอดผ่านทางช่อง เอ็มวี 5 เป็นเวลา 5 ชั่วโมงต่อวันเช่นเดิม แต่ผู้ดำเนินรายการก็มีความคิดที่จะทำสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมขึ้นใหม่ในช่องที่มีคนทำอยู่แล้ว โดยจะรูปแบบรายการเดิม ชื่อเดิม ผู้ดำเนินรายการและเนื้อหาเหมือนเดิม เพียงแต่จะขอไปร่วมด้วยคาดว่าจะเริ่มทำได้ในเดือนมกราคม 2552

ผบ.สส.เชื่อไม่ซ้ำรอยเหตุ7ตุลาฯ
 
วันเดียวกัน เวลา 13.00 น. ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) ให้สัมภาษณ์ถึงกลุ่มนปช.ชุมนุมใหญ่วันที่ 28 ธันวาคม และจะเคลื่อนไปปิดล้อมรัฐสภาว่าหากมีการแสดงความคิดเห็นหรือมีการชุมนุม คนไทยทราบอยู่แล้ว ว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาเกิดอะไรบ้างกับบ้านเมือง คงไม่อยากให้เกิดสภาพซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่ออนาคตของประเทศชาติและบ้านเมือง จึงอยากเห็นภาพการปฏิบัติต่างๆที่สมานฉันท์ ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้เริ่มทำงาน หากการเคลื่อนไหวอยู่ในขอบเขตกฎหมาย ในระบอบประชาธิปไตย คิดว่าไม่น่ามีปัญหา
 
เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่น่าจะมี ทหารติดตามตามขั้นตอนและภาระหน้าที่โดยได้มีการประสานกับตำรวจ หากมีการร้องขอสนับสนุน  ซึ่ง ผบ.เหล่าทัพมีการพูดคุยในการประชุมและมีการพบกันตามปกติ

อดีตคมช.สับ"แม้ว"ตัวทำปท.วุ่นวาย
 
ด้าน พล.อ.สมเจตน์  บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ "ลับลวงพราง"ทางสถานีวิทยุ 100.50 เมกกะเฮิร์ตซ ถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ระบุกองทัพเข้าไปแทรกแซงการเมืองในการจัดโผครม."อภิสิทธิ์1" ว่า ไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพ ที่จะเข้าไปแทรกแซงการเมือง แต่วิธีการที่ไม่ให้การเมืองเข้ามาแทรกแซงกองทัพ คือ กองทัพจะต้องเข้าไปแทรกแซงการเมืองก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
 
"ปัญหาทุกวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) คนเดียวที่ทำให้ประเทศวุ่นวาย พ.ต.ท.ทักษิณควรย้อนกลับดูตัวเองใหม่ ว่า ตัวเองเริ่มต้นมาจากอะไร ครอบครัวมาจากไหน เป็นคนไทยหรือเปล่าหรือครอบครัวเป็นคนจีนมาอาศัยแผ่นดินไทย แล้วมาตักตวงผลประโยชน์จากประเทศไทยไป ความดีกับสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณทำลายประเทศ ลบล้างกันได้หรือไม่ การทำให้ประชาชนเกิดความแตกแยก ถือเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นในสมัยใด ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณควรจะหยุด ถ้าหยุดพ.ต.ท.ทักษิณ จะเจอความสุขที่แท้จริง" พล.อ.สมเจตน์กล่าว

ตกเป็นหุ่นเชิดทำลายชาติ-สถาบัน
 
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีแนวคิดถึงขั้นเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองไทย แต่คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะถูกชักใย และถูกใช้เป็นเครื่องมือ เมื่อก่อนพรรคคอมมิวนิสต์อยู่ใต้ดิน ปัจจุบันขึ้นมาอยู่ข้างบน แล้วใช้อำนาจ ส.ส.เข้ามายึดอำนาจรัฐ เปลี่ยนแปลงโดยใช้ทุน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงหุ่นเชิด วันหนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณจะเสียใจ ที่ถูกใช้เป็นหุ่นเชิดให้ทำลายประเทศชาติ
 
"ท่านอาจจะปากไวในความคิด แต่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีความคิดมุ่งทำลายสถาบัน  แต่พ.ต.ท.ทักษิณ หารู้ไม่ว่า ตกเป็นเครื่องมือของบุคคลที่ทำลายสถาบัน ยังมีกลุ่มที่คิดตรงนี้อยู่ ใครที่เป็นที่ปรึกษาของพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในขณะนี้ ถือว่าเป็นตัวอันตราย"

แนะอยู่ตปท.สักระยะคนไทยให้อภัย
 
พล.อ.สมเจตน์กล่าวว่า "ทักษิณ ต้องคิดว่า เป็นนักเรียนเตรียมทหารมาครึ่งชีวิต เอาทุนรัฐบาลไปเรียนต่างประเทศ แล้ววันหนึ่งมีเงินเป็นหมื่นล้านด้วยธุรกิจของตัวเอง แต่วันนี้ถูกยึดทรัพย์ไปหลายหมื่นล้าน หากคุณเป็นคนดี ไม่ได้โกงกิน แต่ถูกใส่ร้าย คุณยอมเสียสละให้สังคมตราหน้าไประยะเวลาหนึ่งได้หรือไม่ แล้ววันเวลาจะพิสูจน์ได้เองว่า คุณเป็นคนดี และเมื่อกาลเวลาพิสูจน์ เขาจะยกย่องคุณ และคุณจะเป็นรัฐบุรุษ เหมือนกับนายปรีดี  พนมยง ที่เคยพิสูจน์ตัวเองมาแล้ว"
 
"พ.ต.ท.ทักษิณ ควรอยู่ต่างประเทศสักระยะ เดี๋ยวคนไทยก็ให้อภัย จากนั้นก็เข้ามาต่อสู้ตามหลักฐาน วันหนึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ขนาดคุณหญิงพจมาน ชินวัตร อดีตภรรยายังทิ้ง พ.ต.ท.ทักษิณต้องกลับมาคิดใหม่ และหากละกิเลสได้เมื่อไรจะมีความสุข แต่หากคิดไม่ได้อาจจะตายเพราะความทุกข์”พล.อ.สมเจตน์ กล่าว

เสื้อแดงเชียงใหม่บุกบ้านส.ส.พผ.เผาโลง
 
วันเดียวกัน เวลา 15.30 น. ที่จ.เชียงใหม่  น.ส.กัญญาภัค มณีจันทร์ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ พร้อมชาวบ้าน อ.สันป่าตอง จอมทอง ดอยหล่อ และดอยเต่า จำนวน 200 คน ชุมนุมประท้วงหน้า บจก.ปุ๋ยอินทรีย์ฟอสเฟส ตราฉัตรทอง เลขที่ 99 หมู่ที่13 ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ บ้านพักของนายนรพล ตันติมนตรี ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อแผ่นดิน กรณีสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และเรียกร้องลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินและย้ายไปสมัครเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ภายใน7วัน จากนั้นร่วมกันเผาโลงศพที่เขียนชื่อ ส.ส.และคำว่า "ไอ้ชาติ..ไม่รู้จักบุญคุณ และมอบพวงหรีดเขียนข้อความ ขอประณาม ส.ส.ขายตัว ทั้งนี้นายพรชัย ชาติบุรุษ ผู้ช่วยนายนรพลเป็นตัวแทนออกมารับคำประท้วงจากนั้นสลายตัวโดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ ท่ามกลางตำรวจกว่า 60 นาย มาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์