จัดโผครม.สะตอร้าว สุเทพ ประเคน(เก้าอี้)พรรคร่วม

"ผมได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของใคร ไม่ว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือแม้แต่เพื่อนเนวิน จะเป็นเบี้ยล่างของประชาชนเท่านั้น" คำคมของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย ที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่ครั้งยังไม่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง

ใครได้ฟังก็ต้องดีใจและชื่นชมไปกับคำพูดนี้ ยิ่งมาได้ยินคำพูดของ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทำหน้าที่ "ผู้จัดการรัฐบาล" พูดสำทับว่า ไม่มีใครจะมาครอบงำใครได้ก็ยิ่งรู้สึกสบายใจ

เพราะภาพการกอดกันกลมระหว่าง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" กับ "เนวิน ชิดชอบ" แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่เป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 โดยมี "สุเทพ เทือกสุบรรณ" กำกับอยู่ข้างหลัง เป็นใครก็ต้องหวาดหวั่น

ถ้าจะหาไม้บรรทัดวัดว่าใครมี "อิทธิพล" เหนือใครนั้น คงไม่มีกฎเกณฑ์ชี้วัดตายตัว แต่หากจับสัญญาณการเคลื่อนแต่ละช็อต เห็นทีว่า "นายกฯมาร์ค" อาจจะต้องกลืนน้ำลาย ..?

แรกเริ่มของการแบ่งสันปันส่วนเก้าอี้ ครม. "อภิสิทธิ์ 1" ซึ่งต้องบันทึกสถิติว่า "ราบรื่น" ที่สุดเท่าที่ตั้งรัฐบาลมา

ไม่ใช่เรื่องอื่นไกล แต่เป็นเพราะ "เทพเทือก" ไปตกปากรับคำ สัญญาว่าจะให้เก้าอี้ รมต.เกรดเอแก่พรรคร่วมไปหมด ขนาดกระทรวงสำคัญอย่างกระทรวงพาณิชย์ยังยกให้ "กลุ่มมัชฌิมาฯ" ขณะที่ตัวเองรับคืนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคืนมา เพราะสัญญาลูกผู้ชายแท้ๆ ทำให้ "สุเทพ" ขยับอะไรมากไม่ได้

ช็อตแรกก็ทำให้พลพรรคสะตอช้ำใจ และภาวะแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรี ทำให้อุณหภูมิในพรรคแกนปรอทแทบแตก

ตามมาด้วยช็อตสอง ที่หมายมั่นปั้นมือว่ากระทรวงใหญ่อย่าง "มหาดไทย" จะอาศัยปูฐานปูทางให้พรรคพวกสะตอสร้างเครือข่ายไว้ใช้งานในการเลือกตั้งครั้งหน้าบ้าง ก็มีอันต้องฝันค้าง เพราะ "พี่เทพ" บอกเสียงแผ่วว่า "เก้าอี้ รมว.มหาดไทยไม่ใช่คนประชาธิปัตย์ ตกลงให้พรรคร่วมแล้ว"

ภาษาวัยรุ่นต้องบอก "เซ็งเป็ด" เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เป็นเพราะ "สุเทพ" ยื่นแพคเกจ "มหาดไทย+คมนาคม" ให้กลุ่มเพื่อนเนวินเอง ภายใต้เงื่อนไขหากสามารถผลักดันให้เกิดการพลิกขั้วการเมืองได้สำเร็จ ...เมื่อทำงานสำเร็จก็ต้องมีการตกรางวัลให้เป็นธรรมดา !!

"ขอปฏิเสธว่าไม่มีปัญหาความขัดแย้งในพรรค เนื่องจากการจัดตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ลงตัว สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ที่ 15 ตำแหน่งเท่าเดิม" เป็นคำยืนยันของผู้จัดการรัฐบาล ที่พอจะมองออกแล้วว่า "ส่อเค้าป่วน" ไม่เช่นนั้น "สุเทพ" คงไม่จำเป็นต้องออกมา "ปราม" ลูกทีมด้วยตัวเองที่อยู่ในอารมณ์พลาดเก้าอี้รัฐมนตรีและเสียดายกระทรวงชั้นดีที่ตกไปอยู่ในมือพรรคร่วม

เมื่อดีล "วิน-วิน โซลูชั่น" ชนะทุกฝ่าย-ได้ทุกคน เกมนี้ฝ่ายตั้งรับอย่างประชาธิปัตย์อาจดูเหมือนว่า "ชนะน้อย (กว่า)"

อาจเป็นเพราะกว่า 10 ปีที่ถูกดองเค็มในบ็อกซ์ฝ่ายค้าน พอขยับมาเป็นรัฐบาลได้ก็เพราะ "คีย์แมน" ที่เล่นบทฝ่ายบริหารมาตลอด จึงตก "เป็นรอง" ฝ่ายพรรคร่วมอยู่หลายขุม

ยิ่งถ้ามาเจอช็อตต่อเนื่องของ "การแถลงนโยบายต่อรัฐสภา" ซึ่งเป็นเกมต่อเนื่องพ่วงต่อกับ "การจัดโผ ครม." ยิ่งน่าระทึกใจ ..??

จากตัวเลขคณิตศาสตร์วันเลือกนายกรัฐมนตรี "อภิสิทธิ์" ได้รับเลือกมี 235 เสียง หากพรรคร่วมงอแงไม่มาร่วมลงชื่อร่วมเปิดประชุม ไปยืนอยู่ฝั่ง "เพื่อไทย" วันนั้นคงต้องยกเลิกการประชุม เพราะประชาธิปัตย์ต้องไประดมเสียง ส.ว.เกือบทั้งสภามาร่วมลงชื่อถึงจะครบองค์ประชุม

หรือหากเป็นวาระการประชุมเฉพาะสภาผู้แทนราษฎรที่ใช้องค์ประชุมแค่ 219 เสียง เฉพาะกลุ่มเพื่อนเนวิน 21 เสียง มาร่วมประชุมสาย ฝ่ายค้านไม่ยอมเซ็นชื่อ การประชุมสภาก็คงไม่ราบรื่น ดัชนีความรื่นของการตั้ง ครม.อาจบ่งชี้วัดอายุของรัฐบาลได้

วิเคราะห์กันง่ายว่า สมัยประชุมหน้า พรรคฝ่ายค้านแทบจะไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ "ประชาธิปัตย์" ดูแลจิตใจพรรคร่วมไม่ดีหรือให้ไม่เต็มที่ เวทีสภาก็มีสิทธิล่มได้ทุกเมื่อ ...อย่างนี้แล้ว ใครถือไพ่เหนือกว่ากัน ?!





เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์