นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (18 ธ.ค.) ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (อดีต ผบ.ทบ.)
จะตอบรับร่วมรัฐบาลในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากการที่ได้มีการพูดคุยกันมาก่อนหน้านี้ และจะไม่มีปัญหาในเรื่องข้อครหาที่กองทัพ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง เนื่องจากเห็นว่า พล.อ.ประวิตร เป็นนายทหารที่เกษียณอายุราชการแล้ว ส่วนกระแสข่าวยกโควตารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้กับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นการสูญเสียเก้าอี้ของพรรคเพราะทุกคน ต้องร่วมทำงานภายใต้รัฐบาลเดียวกันและเป็นรัฐบาลของประชาชนไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า วันนี้ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้นำตัวแทนจากสมาพันธ์เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจาก จ.น่าน เข้ายื่นหนังสือ ต่อนายกรัฐมนตรี
เพื่อขอให้รัฐบาลชุดใหม่ขยายเวลา และปริมาณในการรับจำนำข้าวโพดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งนายอภิสิทธิ์รับปากที่จะไปดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ไม่ได้คาดคิดคือ ทำไมโควตาการรับจำนำหมดเร็วอย่างไม่หน้าเชื่อ ซึ่งการแก้ปัญหาไม่มีทางเลือกอื่น ต้องขยายโครงการในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่เนื่องจากปริมาณโควตา เงินงบประมาณ และกรอบเวลาการรับจำนำถูกล๊อคโดยมติ ครม. จึงต้องรอให้ ครม.ชุดใหม่เข้ามาพิจารณาหลังจากที่ได้แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาไปแล้ว
โดยในส่วนของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ก็จะไปคิดหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือในช่วงนี้ไปก่อนที่จะมีการแก้มติ คณะรัฐมนตรี (ครม.)
อย่างไรก็ตาม อยากฝากให้เกษตรกรในพื้นที่ไปช่วยกันคิดเพราะคงต้องมีการตรวจสอบว่าโควตาที่หมดไปเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะตนดูแล้วมันผิดธรรมชาติ และต้องไปดูว่ามีการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศหรือไม่ และให้ดูด้วยว่าได้รับราคาตามที่ประกาศไว้จริงหรือไม่ เพราะตนได้ยินว่าบางพื้นที่ไม่ได้ ก็ขอให้ตรวจสอบเพื่อรัฐบาลจะได้แก้ปัญหาได้ถูกจุด ทั้งนี้ไม่อยากให้มีการปิดถนน
“ผมจะไปแก้ปัญหาให้กับประชาชนทุกที่ ทุกภาค แต่ ส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่ก็ต้องช่วยผม แล้วเราก็ทำเพื่อประชาชน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว