นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สดรายการจมูกมดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 วันนี้ (18 ธ.ค.)
ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ปัญหาพัฒนามาตลอดและมารุนแรงขึ้นช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมทั้งต้องยอมรับว่า มีทั้งปัจจัยไม่เฉพาะภายในประเทศ แต่ว่า ปัญหาเรื่องของการก่อการร้ายสากลที่เกิดขึ้นก็มีอิทธิพลมีผลเข้ามาด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า
แนวทางที่ทำกันมาในส่วนของทหารตำรวจการปฏิบัติการณ์ระยะหลังถือว่า มี ประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่า กำลังอยู่ในพื้นที่เยอะมาก และยังไม่สามารถจะทำอะไรได้ทั้งหมด คือ ตรึงสถานการณ์ได้และลดปริมาณเหตุการณ์ได้ แต่ประเด็นปัญหาใหญ่กว่านั้น ที่จะต้องแก้ คือ มีเรื่องด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการศึกษา ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ทหารตำรวจจะทำได้ ตรงนี้ คือ สิ่งที่ขาดไป ดังนั้น จึงต้องการเติมเต็มในจุดนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า
พรรคประชาธิปัตย์เคยเสนอกฎหมายเอาไว้ว่าถ้าวันนี้ จะแก้ไขปัญหานี้ จะต้องมีองค์กรที่สามารถดูแลทุกหน่วยงานราชการ ไม่ใช่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ครู และสาธารณสุขเข้าไปทำหน้าที่ แต่ไม่มียุทธศาสตร์รวม และหัวใจสำคัญไม่ต่างจากเรื่องการสมานฉันท์ที่พูดกันเรื่องทางการเมือง เพราะหัวใจ คือ ความยุติธรรม
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า
ถ้าไปฟังความอึดอัดใจของคนที่ยอมพูดคือ ยังรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ถ้ามีแผนไปพัฒนาเศรษฐกิจ แต่พัฒนาในลักษณะที่เคารพเอกลักษณ์ วิถีชีวิต วัฒนธรรมและความเชื่อของคนในพื้นที่ แต่ให้โอกาสตามแนวทางที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตดั่งเดิมสำคัญที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่มีทางจบถ้าไม่ชนะใจมวลชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า
ได้เตรียมจัดรายการโทรทัศน์เพื่อชี้แจงผลงานของรัฐบาล เนื่องจากเคยกล่าวไว้ เมื่อครั้งหาเสียงเลือกตั้ง แต่ขณะนี้ ยังไม่มีข้อสรุปและรายละเอียด อย่างไรก็ตาม จะจัดสรรเวลาให้กับฝ่ายค้านด้วยเนื่องจากเคยเป็นฝ่ายค้านมา 2 สมัย แต่อาจจะมีสัดส่วนเวลาไม่เท่ากัน โดยต้องการให้ฝ่ายค้านใช้สำหรับชี้แจงผลงาน แต่ไม่ใช่ใช้ตอบโต้กันทางการเมือง เพราะการตอบโต้กันทางการเมืองประชาชนรับ รู้อยู่แล้ว