ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (16 ธ.ค.) ว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน และอดีต รมช.เกษตรฯ เดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
เพื่อฟังการพิจารณาคดีตกเป็นจำเลยในคดีทุจริตกล้ายางพารา 90 ล้านต้น โดยวันนี้ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน นายเนวินได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงิน 2 ล้านบาท ขอประกันตัว และยื่นคำร้องขอสืบพยานลับหลังจำเลย หลังจากนั้นได้เดินทางกลับทันที ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกระแสข่าวว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร บิดาของนายเนวิน จะขอลาจากตำแหน่งประธานรัฐสภา นั้น นายเนวิน กล่าวเพียงว่า ไม่ใช่เรื่องของตนเอง และไม่เกี่ยวกับตนเอง ยังไม่ได้คุยกับพ่อ
ส่วนกรณีส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เพียง 22 เสียง จากเดิมที่มีการระบุว่า 30 เสียง นั้น นายเนวิน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์และเดินทางขึ้นรถกลับทันที
สำหรับคดีทุจริตจัดซื้อกล้ายางพารา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 16, 17 และ 18 ธ.ค. 51 เวลา 10.00 น.โดยจำเลยอีก 43 คนได้ยื่นสืบพยานลับหลังไว้แล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 ก.ย.51 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายบุญรอด ตันประเสริฐ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เจ้าของสำนวนทุจริตจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น พร้อมองค์คณะจำนวน 9 คน
นัดพิจารณาคดีครั้งแรกในคดีหมายเลขดำที่ อม. 4/2551 ที่ ป.ป.ช.เป็นโจทก์
ฟ้องนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรฯ ในฐานะเป็นผู้ริเริ่มโครงการ นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต รมว.เกษตรฯ และนายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ในฐานะเป็น คชก. กับพวกบริษัทเอกชนและกลุ่มข้าราชการ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-44 ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) มาตรา 4, 10-14 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ มาตรา 11 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ ทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จเพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกง