แก๊งไอ้โม่งทมิฬ บุกสังหารโหด หัวหน้า รปภ.บริษัทผลิตคอนกรีตชื่อดังย่านพัทยาเหนือ
ใช้ท่อนไม้รุมกระหน่ำตีหัวหน้ายามอย่างไม่ยั้ง จนแขนหัก กะโหลกแตก อ่วมอรทัยไปทั้งร่าง สิ้นใจอนาถ ขณะที่ ตร.พุ่งเป้า ฝีมือจอมโจร เพิ่งพ้นโทษมาหมาด ๆ บุกมาทำร้าย ระบายแค้น
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.ท.ชัยพร ทองนาเพียง พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งจาก รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ว่า
มีคนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสและทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงนำกำลังตำรวจไปตรวจสอบภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล พบศพนายเนียม รังผึ้ง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/43 หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สภาพศพแขนซ้ายหัก กะโหลกศีรษะแตกและตามร่างกายมีรอยบอบช้ำหลายแห่ง จึงมอบศพให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวนนายณรงค์ รังผึ้ง อายุ 29 ปี ลูกชายผู้ตาย ให้การด้วยความโศกเศร้าว่า
บิดามีอาชีพเป็นหัวหน้า รปภ. บริษัทพรอพเพอร์ตี้ แคร์ เซอร์วิสเซส ประเทศไทย จำกัด มีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับบริษัท เอส.พี.ซี. คอนกรีตผสมเสร็จ ตั้งอยู่เลขที่ 10/4 พัทยาเหนือ หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และเป็นสถานที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุที่พ่อถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตนั้น ตนไม่ทราบแน่ชัด เนื่องจากเพิ่งทราบเหตุว่าพ่อเสียชีวิต จึงเดินทางมาดูศพ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหาร่องรอยของคนร้าย พบว่า
บริเวณหน้าป้อมยามมีกองเลือดและเศษท่อนไม้หักตกอยู่หลายท่อน ส่วนภายในป้อมยามพบมีร่องรอยการต่อสู้ จนกระจกหน้าต่างแตก ข้าวของกระจัดกระจาย ขณะที่นายชูชาติ ผิวมา อายุ 48 ปี รปภ.ที่เข้าเวรอยู่เวลาเดียวกันกับผู้ตาย ให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ได้ยินเสียงผู้ตายร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งไปดูและพบว่ามีคนร้าย 3 คน ใส่เสื้อผ้าสีทึบ สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า กำลังช่วยกันใช้ท่อนไม้กระหน่ำตีผู้ตาย จนล้มฟุบจมกองเลือด ก่อนพากันวิ่งไปขึ้นรถ จยย.แบบผู้หญิง ไม่ทราบสี ยี่ห้อและทะเบียน หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนและเพื่อน ๆ รปภ. จึงรีบช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า
กลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นนักโทษและเพิ่งจะพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน แต่ยังเจ็บแค้นผู้ตายที่ถูกจับจนติดคุกตะรางและเก็บฝังใจมานานนับปี จนกระทั่งพ้นโทษ จึงยกพวกใช้ท่อนไม้รุมตีจนเสียชีวิต เพื่อแก้แค้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุที่แน่ชัด ไว้ใช้เป็นแนวทางติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.