"สุขุมพันธุ์"หาเสียงตลาดเมืองทอง "แก้วสรร"เผยนโยบายชุมชน ตั้งมูลนิธิบริหาร ลดขั้นตอนยุ่งยาก เร่งสร้างกิจกรรมวัยโจ๋ สร้างมูลนิธิชุมชน เพื่อลดขั้นตอนการดำเนินงาน กทม. เน้นให้ชุมชนบริหารงานเองโดยสร้างการมีส่วนร่วมคนในชุมชน นำไปสู่การพัฒนาชุมชน เยาวชนมีกิจกรรมสร้างสรรค์ ไม่มั่วสุม
นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายขวัญสรวง อติโพธิ น้องชาย และบุตรชายบุตรสาว เดินหาเสียงย่านฝั่งธนบุรี ประกาศขออาสาดูแลพัฒนาเมืองธนบุรี เน้นนโยบายเชื่อมโยงระบบขนส่ง เพื่อเปิดทางให้คนฝั่งธนฯ สามารถเข้าเมืองสะดวกขึ้น พร้อมรับฟังปัญหา ความต้องการของผู้ประกอบการค้าขาย ในตลาดสดวงเวียนใหญ่
"แก้วสรร"เผยตั้งมูลนิธิบริหาร ลดขั้นตอนยุ่งยาก เมื่อเวลา 12.00น. วันที่ 13 ธันวาคม หลังจากที่ลงพื้นทีพบปะประชาชนในเขตต่างๆ นายแก้วสรร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายด้านชุมชนว่า สิ่งที่คิดว่าคนในชุมชนจะต้องได้คือการประเมินชุมชนทั้งหมดเพื่อความสุขในชุมชน เรื่องไฟไม่สว่างหรือ เรื่องการระบายน้ำนั้นเป็นแค่เรื่องน่ารำคาญแต่สิ่งสำคัญคือ เรื่องกิจกรรมที่คน กทม.ทุกคน จะต้องได้ แต่กทม.ไม่เคยดูแล แต่ตนกำลังจะคิดว่าทำอย่างไรให้กรรมการชุมชนมีส่วนร่วม เช่นถ้าต้องการสวนสาธารณะก็ต้องมองว่าตรงไหนที่ชุมชนต้องการจะสร้าง เช่นใต้ทางด่วน ใต้ทางรถไฟ กทม.ก็ไปสร้าง อาจจะมีศูนย์สุขภาพ ศูนย์กีฬา และจ้าคนมาดูแล อาจจะสร้างศูนย์อาหารเพื่อสุขภาพ เก็บเงินก็แล้วนำเงินมาดูแลเรื่องความสะอาดตรงนี้ ฉะนั้นต้องสร้างมูลนิธิชุมชนโดยให้ ผู้อำนวยการเขตหรือตัวแทนโดยตำแหน่ง เป็นกรรมการด้วยเพราะฉะนั้นชุมชนจะสามารถทำนิติกรรมสัญญาจ้างคนหรืออะไรต่างๆ เมื่อมีมูลนิธิในทางกฎหมาย ทางสังคมแล้ว กระบวนการที่จะค้นหาความต้องการแล้วเกิดมาเป็นรูปธรรมและส่งมายังเขตก็จะเกิดขึ้นทำให้งบจ่ายตรงตามความต้องการ และสก. สข.ก็เป็นเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือในกระบวนการ ก็จะเกิดสวนสาธารณะใกล้ตัว และก่อให้เกิดการเล่นกีฬาตรงนี้มีความสำคัญมาก พอตกวันเสาร์ทำให้เด็กมาตั้งทีมเล่นฟุตซอในสนามนี้ชิงรางวัลผู้ว่า แก้วสรร กลุ่มชุมชนนี้ชนะมาแข่งกับกลุ่มชุมชนนี้ จนกระทั่งเกิดแชมป์ฟุตซอของเขตและไปชิงกับอีกเขตจนได้แชมป์ กทม. เพราะฉะนั้นเด็กเล็กๆไม่ต้องห่วงวินัยจะกลับมา สุขภาพจะกลับมา เกมส์จะถูกลืมมอเตอร์ไซด์ที่วิ่งกันเป็นกลุ่มก็จะหายไป พวกเราอย่าไปมองเด็กอย่างรังเกียจ เพราะยังไม่ให้โอกาสขาเลยแม้กระทั่ง เวลาและเงินทุน ที่ผ่านมา กทม.ใช้เงินเป็นค่าโฆษณาผลงานของผู้ว่าปีที่ผ่านมา 1 พันล้านบาทแต่ชุมชนมีความเละเทะถ้าไม่ทำให้เด็กของเราแข็งแรง เพราะฉะนั้นต้องทุ่มทั้งความฉลาดความเอื้อเฝื้อลงไปให้เด็กได้รับ แล้วผู้ปกครองก็มีความสุข จะพากันออกจากบ้านไปเชียร์ลูกตัวเอง หิ้วข้าวหม้อแกงหม้อไปเจอพ่อแม่คนอื่น ที่พูดไม่ได้ฝอยแต่ที่อื่นเค้าทำกันแล้วเพียงแต่ กทม.ไม่เริ่มเสียที เมื่อถามว่าที่ผ่านมา กทม.มีการทำโครงการเหล่านี้บ้างแล้วแต่ก็ปล่อยให้เป็นสถานที่รกร้างนายแก้วสรรเห็นว่าควรทำอย่างไร นายแก้วสรร ระบุว่า เนื่องจากโครงการเหล่านี้ไม่มีตัวตนของคนดูแล และไม่มีคนสร้างกิจกรรม หลังจากที่มีมูลนิธิชุมชนต่างๆเกิดขึ้นเพื่อดูแลโครงสร้างต่างๆเกิดขึ้นแล้ว อีก 2 มูลนิธิที่จะต้องเกิดขึ้นมูลนิธิแรกคือมูลนิธิกีฬาเพื่อชุมชนและเยาวชนมูลนิธินี้จะมีหน้าที่โปรโมทการแข่งขัน จัดหาผู้ฝึกซ้อม หารางวัลหาผู้สนับสนุน ส่งไปยังมูลนิธิชุมชนเพื่อและมูลนิธิดนตรีเพื่อเยาวชนของกรุงเทพ
การสร้างการทำงานที่ไม่ต้องผ่านช้างผ่านครุฑให้พลเมืองทำมันขึ้นมาเรียกว่าความสุขใกล้ตัวและจะทำให้การมั่วสุมในทางที่ไม่ดีหายไป การเล่นกีฬาจะทำให้ทุกคนเป็นเพื่อนกันได้ เด็กที่อยู่แต่หน้าเกมส์ก็จะมีชีวิตเปลี่ยน และจะเกิดชุมชนใหม่จะนำไปสู่กรุงเทพฯใหม่ ถ้าเกิดความสามัคคีของคนในชุมชนขึ้นมาแล้วระหว่างคนในชุมชนก็สามารถนำกำลังเหล่านี้ไปสร้างอะไรที่เป็นประโยชน์ได้อีกมากมาย นายแก้วสรร ถ่ายทอดนโยบายด้วยความมุ่งมั่น "ปลื้ม"ขายตลาดน่าเดิน ม.ล.ณัฐกรณ์ เทวกุล หาเสียงที่ตลาด อ.ต.ก. รับฟังปัญหาพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่มาใช้บริการ ซึ่งจะนำแบบอย่างของตลาด อ.ต.ก.ที่สะอาด สว่าง น่าเดิน ไปปรับใช้กับตลาดนัดของ กทม. ส่วนกรณีตลาดนัดจตุจักร ที่จะมีการต่อสัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย ในปี 2554 เชื่อว่าอัตราค่าเช่าแผงจะเป็นธรรม นอกจากนี้ยังมั่นใจว่าจะสามารถทำงานร่วมกับข้าราชการ กทม.ได้ เพราะได้คัดเลือกทีมรองผู้ว่าฯ ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการบริหาร และเข้าใจการทำงานของระบบข้าราชการ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใคร
"สุขุมพันธุ์"หาเสียงตลาดเมืองทอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 2 จากพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่หาเสียงที่ย่านตลาดสดเมืองทองธานี เขตหลักสี่ ด้วยการรับปากกับพ่อค้าแม่ค้าว่าจะดูแลให้สถานที่สำหรับซื้อขายสินค้าประเภทอาหารสดต่างๆ มีความสะอาด สวยงาม น่าซื้อขาย โดยจะทำการจัดระเบียบตลาดสดเช่นเดียวกับตลาดสด อ.ต.ก.หรือตลาดสดอื่นๆ ที่มีการพัฒนาไปแล้ว นอกจากนี้จะเร่งพัฒนาให้สภาพแวดล้อมของพื้นที่กรุงเทพมหานครกลายเป็นพื้นที่สีเขียว มีบรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่อาศัยและปราศจากมลพิษด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับโพลล์ต่างๆ ที่ออกมาว่าตนเองมีคะแนนนำเหนือคู่แข่งทุกคนนั้น ไม่ได้สนใจมากนัก แต่สิ่งที่ต้องทำคือ การเดินหน้าเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนชาว กทม.โดยเฉพาะทำอย่างไรให้เมืองหลวงเกิดการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง