สุเทพขาไม่สั่น20พผ.เทให้ เสนาะยันประชาพลิกสู้อภิสิทธิ์

20 ส.ส.เพื่อแผ่นดินแถลงจับขั้ว ปชป.ชี้มาไกลเกินกว่าจะหักหลังเพื่อน ด้าน ปชป.เลิกขาสั่นแต่ยังผวา ส.ส.ถูกอุ้มวันโหวตเลือกนายกฯ "แม้ว" เกหมดหน้าตักช่วงโค้งสุดท้ายหวังขั้วสวิงกลับ งัดไพ่ใบสุดท้ายยุบสภาหากแพ้โหวต "ชวรัตน์" ยันไม่ยุบสภา "เสนาะ" อ้าง "ประชา" ตอบรับชิงเก้าอี้นายกฯ แล้ว ชี้ถ้าต้องโหวตให้ "อภิสิทธิ์" ก็ยิ่งกว่าหมา

 เกมจับขั้วการเมืองเริ่มชัดเจนมากขึ้น เมื่อ 10 ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน นำโดยนายไชยยศ จิรเมธากร รักษาการโฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มวังพญานาค ตัวแทนกลุ่มบ้านริมน้ำ ตัวแทนกลุ่มโคราช และอดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชนที่มาร่วมกับพรรคเพื่อแผ่นดิน ร่วมกันแถลงจุดยืนทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งนำรายชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน รวม 20 คน มาแจกจ่ายแก่สื่อมวลชน

 นายไชยยศกล่าวว่า จากการที่มีข่าวออกสู่สาธารณะจนก่อให้เกิดความสับสนแก่ประชาชน และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อแผ่นดินนั้น ในนาม 20 ส.ส. ได้แก่ ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายพลพีร์ สุวรรณฉวี นายประนอม โพธิ์คำ นางจิตวรรณ หวังศุภกิจโกศล นายอนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ ส.ส.นครราชสีมา นายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.อุดรธานี นายสุชาติ ตันติวณิชชานนท์ ส.ส.อุบลราชธานี นายวิทยา บุตรดีวงค์ ส.ส.มุกดาหาร นพ.อลงกต มณีกาศ ส.ส.นครพนม นายนรพล ตันติมนตรี ส.ส.เชียงใหม่ ม.ร.ว.กิติวัฒนา ปกมนตรี ส.ส.สัดส่วน นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร นายพิกิฏ ศรีชนะ ส.ส.ยโสธร นายคงกฤช หงษ์วิไล ส.ส.ปราจีนบุรี อดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชน นายกิตติศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ นายสาทิตย์ เทพวงศ์ศิริรัตน์ นายธีรทัศน์ เตียวเจริญโสภา นางมะลิวัลย์ ธัญญสกุลกิจ และนางฟารีดา สุไลมาน ส.ส.สุรินทร์ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชน มีมติเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์

 นายไชยยศกล่าวอีกว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อแผ่นดินทุกคนพร้อมสนับสนุน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานที่ปรึกษาพรรค เป็นหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่เมื่อ พล.ต.อ.ประชา ได้ออกมาปฏิเสธต่อสาธารณชนแล้วว่าจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ประกอบกับเสียง ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคได้ตกลงและมอบให้แกนนำของพรรคไปร่วมให้สัตยาบันกับ 4 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ว่าจะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองร่วมกัน โดยจะร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเดินมาไกลเกินกว่าจะหักหลังเพื่อนได้อีกแล้ว ในฐานะ ส.ส.เสียงข้างมากของพรรคเพื่อแผ่นดิน จึงขอแสดงจุดยืนว่าพวกตนจำนวน 20 คน จากที่พรรคมี ส.ส.ขณะนี้ 27 คน ขอยืนยันที่จะสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์

 ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่มโคราช กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่จะเสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นนายกรัฐมนตรี และไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอะไรด้วย หากเสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชา สมาชิกพรรคก็จะเลือกนายอภิสิทธิ์ ส่วนที่คาดการณ์ว่าพรรคจะได้รับตำแหน่งในการจัดสรร 4-5 ตำแหน่งนั้น ไม่ทราบ ตอนนี้ขอให้ผ่านการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ก่อนจะดีกว่า

"หมอแว"โวยเล่นเป็นเด็กขายของ

 นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส พรรคเพื่อแผ่นดิน กลุ่มสัจจานุภาพ ที่ไม่ได้อยู่ร่วมในกลุ่ม 20 ส.ส.ที่มาแถลงจับขั้วพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่ายังยืนยันจุดเดิมว่าการแถลงข่าวของกลุ่ม 20 ส.ส.ไม่ถือว่าเป็นมติพรรค การแถลงรายวันเช่นนี้ เสมือนเด็กเล่นขายของกัน ซึ่งการจะแถลงทุกครั้งควรต้องมีหลักการหรือมติพรรครองรับ ส่วนรายชื่อสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ก็ขอให้ตรวจสอบดีๆ เพราะที่ผ่านมาเกิดการปลอมลายเซ็นกันบ่อยครั้ง ซึ่งครั้งนี้จะเป็นแบบเดิมหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจ

 ส่วนแนวทางของกลุ่มสัจจานุภาพที่ประกอบด้วย ตนและนายมานพ ปัตนวงศ์ ส.ส.สัดส่วน ซึ่งมีสิทธิโหวตนายกฯ ในขณะนี้ ยังไม่มีท่าทีที่จะสนับสนุนขั้วใด เพราะยังต้องรอมติของพรรคก่อน โดยเฉพาะการตัดสินใจของ พล.ต.อ.ประชา ในฐานะหัวหน้าพรรค ว่าจะตัดสินใจไปในทิศทางใด คาดว่าจะมีการประชุมพรรคอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ธันวาคมนี้

พท.ยกขบวนล็อบบี้"ประชา"กลางดึก

 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อแผ่นดินว่า เมื่อคืนพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย อาทิ นายพีระพันธุ์ พาลุสุข นายวิทยา บุรณศิริ ได้ยกขบวนเข้าล็อบบี้ พล.ต.อ.ประชา อีกครั้งถึงโรงพยาบาลกรุงเทพ และมีรายงานว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้ต่อสายไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และนายวัฒนา อัศวเหม อดีตประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งหนีคดีอยู่ในประเทศกัมพูชา เพื่อเจรจาร่วมกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง  

 มีรายงานแจ้งว่า ในการเจรจามีการเสนอสิ่งแลกเปลี่ยนและเหตุผลต่างๆ มาประกอบเป็นทุนทรัพย์จำนวนหนึ่งด้วย เพื่อให้ ส.ส.ในกลุ่มของ พล.ต.อ.ประชาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และขอร้องให้ พล.ต.อ.ประชาออกมาแสดงจุดยืนต่อสาธารณชนอีกครั้งว่า พร้อมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากได้รับการเสนอชื่อ

 ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังเสร็จสิ้นการเจรจา พล.ต.อ.ประชา ได้ออกจากโรงพยาบาลทันที ในช่วงกลางดึกวันเดียวกัน และหลบไปพักยังสถานที่แห่งหนึ่ง โดยไม่มีการเปิดเผย ขณะเดียวกันมีการวิเคราะห์ตัวเลขเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ไว้เช่นกันว่า ตัวเลขจะไม่ห่างกันเท่าใดนัก และยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยยังตกเป็นรองพรรคประชาธิปัตย์อยู่ แต่ก็ยังมีเวลาที่สถานการณ์การเมืองอาจจะสวิงกลับได้เช่นกัน

"สุเทพ"ย้ำชัดประชาราชไม่ร่วมรัฐบาล

 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่าได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เพื่อสอบถามท่าทีเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งนายเสนาะยืนยันว่า ยังยึดแนวทางรัฐบาลเพื่อชาติ ซึ่งถือว่าเป็นคนละแนวทางกับพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น จึงชัดเจนว่า พรรคใดได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะไม่มีพรรคประชาราชเข้าร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน 

 ส่วนกระแสข่าวกลุ่มเสื้อแดงจะมีการปิดล้อมสภาไม่ให้มีการประชุมโหวตนายกฯ นั้น ไม่น่าเป็นปัญหาอะไร เชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะใส่เสื้อสีอะไรต้องมีเหตุผล ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นความเสียหายเขาก็คงไม่มีเหตุผลที่จะมาชุมนุมต่อต้านอะไรมากมาย

 นายสุเทพกล่าวอีกว่า หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ได้รับการเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี จะรีบแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ และจะแถลงนโยบายภายใน 2 สัปดาห์ แต่ยอมรับว่า ยังห่วงเรื่องการวางตัวรัฐมนตรีของพรรคที่ยังไม่ลงตัว

เลิกขาสั่นยันตัวเลข 260 ไม่เปลี่ยนแปลง

 ส่วนกระแสข่าวการล็อบบี้ หรืออุ้มตัว ส.ส. จะส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าไม่มีผล ยังมั่นใจว่าเราสามารถจัดรัฐบาลได้ เรามีเสียงมากพอ ตัวเลขตอนนี้ก็ยังนับได้อยู่ที่ 260 เสียง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าได้ยินข่าวมาว่าเขาพยายามทำทุกอย่างตั้งแต่ซื้อเสียงจนกระทั่งกันไม่ให้มาลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนการดูด ส.ส.ชลบุรี ของพรรคไป 2 คนนั้น เชื่อว่าไม่มีใครไป เพราะคนในพรรคไม่มีใครที่จะทำอย่างนั้นได้ เขาก็คงทำให้ตกอกตกใจไปเท่านั้นเอง

 “ขณะนี้เบาใจได้ วันนี้ผมขาไม่สั่นแล้ว แต่ก็ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ และไม่หนักใจอะไรแล้ว เพราะเราทำดีที่สุดแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง” นายสุเทพกล่าว

 เมื่อถามย้ำว่า สุดท้ายแล้วการลาป่วย และการขาดประชุมของ ส.ส.จะเกิดขึ้นในวันโหวตนายกฯ หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ต้องดูกันต่อไป แต่ตอนนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น

ผวา ส.ส.ถูกอุ้มวันโหวตร้องขอคุ้มครอง

 ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวระบุว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่ามีการเตรียมการอุ้มและคุกคาม ส.ส.ด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อขัดขวางการลงคะแนนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธันวาคม รวมถึงการกล่าวหาว่ามีการทรยศหักหลัง หรือมีกลุ่มงูเห่า จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายความมั่นคงออกมาคุ้มครองการทำหน้าที่ของ ส.ส.ที่กำลังถูกคุกคาม เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาเปิดโอกาสให้ตั้งรัฐบาลหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงควรเปิดโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์บริหารบ้านเมือง เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป

แม้วทุ่มสุดตัวงัดไพ่ใบสุดท้ายยุบสภา

 รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่พรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคเพื่อแผ่นดินและพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ปฏิเสธร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ ทำให้ล่าสุดพรรคเพื่อไทยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบพรรคประชาธิปัตย์นั้น ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์สั่งการผ่านมายังแกนนำสายตรงที่เป็นน้องสาวทั้งสองคน คือนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้งสายตรงผ่านนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในการแก้เกมการจัดตั้งรัฐบาลในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันที่ 15 ธันวาคม ที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

 เบื้องต้นมีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณประเมินว่า หลังจากโฟนอินผ่านเวทีความจริงวันนี้ในวันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม ซึ่งจะพูดเพื่อเรียกคะแนนสงสารและปลุกระดมให้มวลชนที่เป็นฐานเสียงของพรรค ออกมาช่วยกันต่อต้านพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะทำให้มี ส.ส.ซึ่งคาดว่าเป็น ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินและกลุ่มเพื่อนเนวิน กลับมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยประมาณ 8-10 คนเป็นอย่างต่ำ 

 ขณะเดียวกันก็ได้สั่งการให้แกนนำพยายามติดต่อ ส.ส.กลุ่มดังกล่าว ในช่วงวันสุกดิบก่อนที่จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 13-14 ธันวาคม เพื่อเสนอเงื่อนไขสุดท้ายคือ การจ่ายปัจจัยท่อน้ำเลี้ยงในอัตราส่วนที่มากกว่าเงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์ 1 เท่า โดยจ่ายงวดแรกร้อยละ 60-70 ของจำนวนที่ได้ทั้งหมด เพื่อดึง ส.ส.กลับมาให้มากที่สุด หากในที่สุดพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ก็ให้ใช้วิธียุบสภา แม้ว่าวิธีดังกล่าวจะยังอยู่ในระหว่างการตีความทางข้อกฎหมาย แต่ก็จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์หยุดชะงัก เพื่อนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 ไปเลย

 มีรายงานด้วยว่า พรรคเพื่อไทยได้เจรจาประสานไปยังพรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อขอให้มาเป็นแนวร่วมสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาล โดยล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์ยื่นข้อเสนอตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้แก่ พล.ต.อ.ประชา และจะให้โควตารัฐมนตรี 7-8 ตำแหน่งแก่พรรคเพื่อแผ่นดิน แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากพล.ต.อ.ประชาในขณะนี้

ขุนค้อนยันรักษาการนายกฯยุบสภาได้

 นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รักษาการ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงรายงานข่าวที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาไว้แล้วว่า ยังไม่ทราบเรื่อง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีไปแล้วก็ตาม แต่ตามกฎหมายแล้ว รักษาการนายกรัฐมนตรียังสามารถยุบสภาได้ โดยการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีเอง หรือจะขอความเห็นจากมติของคณะรัฐมนตรีในการยุบสภาก็ได้ ซึ่งตราบใดที่นายกฯ คนใหม่ที่ได้รับเลือกจากสภายังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ลงมา ก็ถือว่ายังไม่มีนายกรัฐมนตรี ดังนั้น รักษาการนายกรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่อยู่ในขณะนี้สามารถยุบสภาได้

เพื่อไทยคุมเข้มวันโหวตนายกฯ

 นายอิทธิเดช แก้วหลวง ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมวอร์รูมของพรรคเพื่อไทยวันนี้ มีการหารือถึงการเตรียมความพร้อมในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธันวาคม โดยให้วิปรัฐบาลประสานไปยัง ส.ส.ทุกคน เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยเรานั้นจะโหวตสนับสนุน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ผู้ที่จะเสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชาในสภานั้น ตามมารยาทคงต้องเป็นพรรคเพื่อแผ่นดิน ยืนยันว่าในหลักการพวกเราหนุน พล.ต.อ.ประชา แต่หลังจากนี้ก็ต้องหารือเพื่อให้เกิดความชัดเจนที่สุดแล้วจะแถลงข่าวอีกครั้ง ถึงตอนนี้เรามั่นใจมากขึ้นว่าการโหวตเลือกนายกฯ ในสภา เราจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะเราได้รับการประสานจากกลุ่ม ส.ส.ที่จะเข้ามาสนับสนุนเราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดย ส.ส.กลุ่มที่เป็นตัวแปรในการโหวตที่จะทำให้เราชนะครั้งนี้มีไม่น้อยกว่า 20 คน

 นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ล่าสุด ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน 17 คน ยืนยันว่าจะจับขั้วรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเชื่อว่าพรรคอื่นก็จะตามมาสมทบอย่างแน่นอน

"พายัพ" มั่นใจเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้

 วันเดียวกันนี้ ที่อาคารชินวัตรไหมไทย ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมายังที่ทำการพรรค และให้สัมภาษณ์โดยยังแสดงความมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยยังสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ก็ต้องไปดูในวันโหวตเลือกนายกฯ

 “คำว่าขั้วแปลว่าอะไรรู้ไหม ขั้วแปลว่าต้องหล่น หล่นแล้วก็ต้องตก มีขึ้นสูงสุดได้ก็ตกลงมาได้ ขั้วประชาธิปัตย์ก็หล่นได้ ดังนั้นไม่มีอะไรที่แน่นอน และถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็ไม่กลัว ไม่หวั่นไหว ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็ขอให้เป็นคนดี” นายพายัพกล่าว

 เมื่อถามว่าการจัดตั้งรัฐบาลรู้สึกอย่างไร เพราะมีแนวโน้มพรรคประชาธิปัตย์จะได้จัดตั้งรัฐบาล นายพายัพกล่าวว่า ไม่กลัว ใจนี่ไม่กลัว ไม่หวั่นไหว ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล และระหว่างกล่าว นายพายัพได้กำกำปั้นทุบอกตัวเองเบาๆ

"ชวรัตน์"ปัดมีกฤษฎีกายุบสภา

 นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนว่า ไม่ทราบ เพราะมีหน้าที่ดูแลรัฐบาลรักษาการให้ไปตลอดรอดฝั่ง และเท่าที่ทราบขณะนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธันวาคมนี้แล้ว ไม่ได้มีการหารือเรื่องร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาแต่อย่างใด เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีการลงนามในพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้ว นายชวรัตน์กล่าวว่า คงไม่มีอะไร ขณะนี้ทุกอย่างก็ไปได้ดี

 ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ในขณะนี้หรือไม่ เพราะนายอนุทิน ชาญวีรกูล บุตรชาย ไปอยู่ข้างกลุ่มเพื่อนเนวิน รวมถึงมีข่าวว่านายชวรัตน์ถูกเก็บตัวอยู่ที่ภาคใต้ นายชวรัตน์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน การเดินทางไปภาคใต้ของตนเป็นหน้าที่ และเดินทางไปหลายพื้นที่  

 ต่อข้อถามว่า มีข่าวว่าจะให้ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี มาทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีแทนนั้น นายชวรัตน์ปฏิเสธว่า ไม่มี ตนก็ไม่ได้ป่วย คงไม่ต้องวางตัวอะไรเป็นพิเศษ

 เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่คนกันเองระแวงกันเอง นายชวรัตน์กล่าวว่า ก็ไม่ควรระแวงกันเอง

"เสนาะ"ชี้โหวตให้อภิสิทธิ์ก็ยิ่งกว่าหมา

 นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงกระแสข่าวการพบกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อต่อรองตำแหน่งในการเข้าร่วมรัฐบาลว่า ถ้าปล่อยข่าวกันอย่างนี้ก็คงต้องย้อนอดีต เพราะเหตุการณ์นี้ซ้ำรอยกับเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ครั้งนั้น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ (บิ๊กจิ๋ว) ลาออกจากนายกฯ และมอบหมายให้ตนเสนอชื่อ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกฯ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนายสมัคร สุนทรเวช นายมนตรี พงษ์พานิช และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ต่อมา พล.อ.ชวลิตก็โทรศัพท์มาบอกว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อยากพบ เมื่อไปพบ ก็พบว่ามีการพิมพ์เอกสารเพื่อตั้งรัฐบาล 2 พรรครอไว้แล้ว แต่ตนไม่เอาด้วย เพราะไม่ต้องการหักหลังพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ต่อมามีการนำเอกสารดังกล่าวไปแถลงข่าวว่าตนยอมต่อรองตำแหน่งจนทำให้เกิดรัฐบาลงูเห่าขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่คิดจะเปิดเผย เพราะอยากรักษาหน้าตากันเอาไว้บ้าง แต่วันนี้เมื่อมีการปล่อยข่าวเหมือนในอดีตจึงต้องออกมาพูดให้ประชาชนได้รับรู้ความจริง

 นายเสนาะกล่าวอีกว่า เมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ยอมรับว่านายสุเทพโทรศัพท์นัดออกไปพบในสถานที่แห่งหนึ่ง แต่ตนไม่ไป เพราะถ้าไปก็คงมีข่าวบอกว่าตนยอมแล้ว และเมื่อไม่ไปพบนายสุเทพก็โทรศัพท์มาหาในเวลาประมาณ 22.00 น. และแจ้งให้ทราบว่า ทุกคนอยากให้มาร่วมรัฐบาล เมื่อปฏิเสธไป นายสุเทพก็ถามว่าจะโหวตให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ หรือไม่ ไม่เข้าใจว่านายสุเทพสติยังดีอยู่หรือไม่ เพราะตนได้แถลงความชัดเจนไปหมดแล้ว ถ้าโหวตให้นายอภิสิทธิ์ ก็ยิ่งกว่าหมา

 “ผมไม่ใช่คนโง่ แต่พยายามหาทางออกให้ประเทศ สุเทพน้องรักอย่าเอาตำราอย่างนี้มาใช้ และอย่าได้คิดว่าผมกระสันจะร่วมรัฐบาล นักการเมืองถูกประณามเพราะจัดตั้งรัฐบาลงูเห่า ต่อไปนี้ถ้าใครจะด่านักการเมืองก็อย่าเหมาเข่ง ผมเคยโดยหลอกให้ช้ำใจมาแล้ว แต่ครั้งนี้จะไม่ยอมให้ใครมาต้มได้” นายเสนาะกล่าว

อ้าง"ประชา"ตอบรับพร้อมชิงนายกฯ

 ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงขณะนี้ได้ติดต่อกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินหรือไม่ นายเสนาะกล่าวว่า คุยกันเรียบร้อย พล.ต.อ.ประชายืดอกอย่างลูกผู้ชายว่า จะรับตำแหน่งเพื่อบ้านเมือง ดังนั้นจึงขอให้ดูผลในวันโหวตเลือกนายกฯ 15 ธันวาคมนี้ นอกจากนี้ได้คุยกับทุกกลุ่มแล้ว รวมถึงนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งสาเหตุที่เขาเผ่นไปก็เพราะพรรคเพื่อไทยจะเอา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นนายกฯ แต่ตอนนี้เขาได้คิดแล้ว จึงไม่กลัวเสียหน้า พวกเราหน้าแตกเพื่อชาติได้ ถึงตอนนี้จึงไม่ต้องให้ใครมาพบตนที่บ้านอีกแล้ว ส่วน พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ก็โทรศัพท์มาขอโทษ และยืนยันว่าจะร่วมทำในสิ่งที่ถูกต้อง

 นายเสนาะกล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจรว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินก็คงพูดประเด็นที่สร้างสรรค์ คงไม่พูดปลุกประเด็นอะไร แต่เชื่อว่าจะไม่มีการโฟนอิน เพราะบอกไปแล้ว แต่เขาจะฟังหรือไม่ ไม่ทราบ

"เติ้ง"ชี้ การเมืองระทึกจนวินาทีโหวต

 แหล่งข่าวจากพรรคชาติไทยเดิมแจ้งว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรค ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในช่วงจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ ว่า ยังเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และที่สำคัญคือยังไม่นิ่ง ยังมีความล่อแหลมอยู่มาก แต่ละขั้วยังพยายามดูด ส.ส.เข้ามาเป็นคะแนนฝ่ายตัวเองให้ได้มากที่สุด และเชื่อว่ายังจะมีการดูดจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนการโหวตในสภา ขณะนี้เสียงของทั้งสองข้างยังก้ำกึ่งกันอยู่ หากไม่สามารถดึง ส.ส.เข้ามาเป็นพวกตัวเองให้ได้มากที่สุดแล้ว เสียงในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอาจมีโอกาสพลิกผันได้ และถ้าชนะกันก็คงชนะไม่ขาด แต่จะชนะแบบปริ่มๆ เท่านั้น ซึ่งทำให้สถานการณ์บ้านเมืองยังจะคงวุ่นวายอยู่เหมือนเดิม

 แหล่งข่าวระบุอีกว่า สถานการณ์ขณะนี้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาลก็ลำบาก และอยู่ได้ไม่นาน เพราะยังจะมีเสื้อเหลือง เสื้อแดง ต่างออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้าน และสุดท้ายอาจบานปลายไปสู่วิกฤติได้อีกครั้ง ถ้าถึงเวลานั้นการเมืองก็จะกลับไปสู่ทางตันอีกเช่นเดิม

"ชัย"ฟันธงนายกฯใหม่อยู่ไม่ยืด

 นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ถ้าใครได้รับเสียงข้างมาก ตั้งแต่ 220 เสียงขึ้นไป ก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้คงอยู่ได้ไม่นาน เพราะวุ่นกันแบบนี้จะอยู่ได้อย่างไร แต่อย่างน้อยน่าจะเกิน 3 เดือน เพราะแค่ตั้ง ครม. แถลงนโยบายรัฐบาลก็กินเวลาเป็นเดือน คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีความอดทน อดกลั้น ไม่ทะเลาะกับ ส.ส. ประชาชนก็จะเห็นใจ และจะอยู่ได้นาน

 ส่วนที่มีข่าวว่านายชัยจะลาออกจากประธานสภาเพื่อไปรับตำแหน่ง รมว.คมนาคมนั้น นายชัยกล่าวว่า ไม่เคยพูดว่าจะลาออก ขนาดพรรคเพื่อไทยจะให้เป็นนายกรัฐมนตรียังไม่อยากเป็นเลย แล้วจะไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีทำไม

กกต.ชี้รักษาการนายกฯมีสิทธิยุบสภา

 นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึง กรณีที่กรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลและมีบทบาททางการเมืองว่า จะทำให้คำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็ถือเป็นหน้าที่ของนายทะเบียนพรรคการเมืองที่จะต้องเข้าไปดูแล โดยเฉพาะในส่วนของพรรคการเมืองที่เข้าไปดึงอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ยื่นคำร้องเข้ามาให้ตรวจสอบ กกต.จึงจะสามารถใช้อำนาจเข้าไปตรวจสอบได้ 

 นายสมชัยกล่าวถึงกระแสข่าวการยุบสภาว่า ตามกฎหมาย แม้จะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เปิดประชุมสภา เพื่อเลือกนายกฯ แล้ว ก็สามารถยุบสภาได้ หรือยุบในระหว่างการประชุม โดยอ้างเหตุความวุ่นวายได้เช่นกัน

"จิ๋ว"ไม่สบายใจกองทัพแทรกการเมือง

 ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านพักในซอยปิ่นประภาคมของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ภายหลังจาก พล.อ.ชวลิตลาสิกขา ได้มีบรรดานักการเมืองเดินทางมาพบ และพูดคุยถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ ซึ่ง พล.อ.ชวลิตรู้สึกไม่สบายใจและเป็นห่วงประเทศชาติว่าจะไม่สามารถเดินต่อไปได้ โดยเฉพาะบทบาทของกองทัพที่เข้าไปแทรกแซงการเมือง ยิ่งทำให้ พล.อ.ชวลิตเป็นห่วงภาพลักษณ์ของกองทัพว่าจะเสื่อมเสียต่อสายตาประชาชน เพราะกองทัพต้องมีจุดยืนที่เข้มแข็งและเป็นกลาง รวมถึงเป็นสถาบันเดียวที่จะต้องประคับประคองประเทศชาติให้อยู่รอดปลอดภัย

 พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ นายทหารคนสนิทของ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า จากการติดตามข่าวการจัดตั้งรัฐบาลที่กองทัพเข้าไปมีบทบาท โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.นั้น ตนรู้สึกเสียใจ เพราะกองทัพถือเป็นเสาหลักของประเทศชาติ และราชบัลลังก์ กองทัพต้องใสสะอาด ไม่มีเรื่องมัวหมองใดๆ การที่ ผบ.ทบ.เข้าไปยุ่งถึงขั้นช่วยจัดตั้งรัฐบาลหนักหนาสาหัสเกินไป เพราะวิธีการเช่นนี้ทำให้กองทัพหมดศักดิ์ศรี ไม่เป็นเสาหลักของชาติอีกต่อไป หนำซ้ำยังเป็นผู้ที่ทำลายความน่าเชื่อถือ และทำให้กองทัพตกต่ำจากศรัทธาของประชาชน

ผบ.ทอ.เตือนแม้วโฟนอินในกรอบกม.

 พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากประเทศสิงคโปร์ ถึงกรณีที่ถูกพรรคเพื่อไทยโจมตีว่าให้สัมภาษณ์สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า “ให้ไปดูเทปคำสัมภาษณ์ ผมระวังคำพูดอยู่ตลอด ไม่เคยเอ่ยชื่อพรรคการเมืองไหนเลย และการให้สัมภาษณ์วันนั้น พูดในฐานะเป็นประชาชนคนหนึ่ง ดังนั้น ไม่อยากให้ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่นำคำพูด ไปโยงอะไรต่างๆ ยืนยันว่าทหารเป็นกลาง”

 เมื่อถามว่า ส่วนตัวอยากได้นายกรัฐมนตรีแบบไหน พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า คงเป็นนายกฯ ที่มีความมุ่งมั่นที่จะบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีความมุ่งมั่นแก้ปัญหาแท้จริง ไม่มีกลุ่มหรือก๊วน หรือผลประโยชน์แอบแฝง เพื่อให้ประเทศไทยผ่านวิกฤติไปได้

 ต่อข้อถามถึงความพร้อมดูแลความปลอดภัยกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะโฟนอินเข้ามาในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า คงไม่ได้เตรียมอะไร เพราะสถานการณ์ดีขึ้นและเป็นปกติ ซึ่งที่ผ่านมกองทัพวางตัวเป็นกลางและพร้อมที่จะสนับสนุนตำรวจ หากมีการร้องขอมา 

 เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพรกล่าวว่า “ที่ผ่านมา ทำอะไรขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย เราคงไปห้ามไปดำเนินการไม่ได้ หากดำเนินการไปตามระบอบประชาธิปไตยหรือกฎหมาย ก็โอเค”


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์