มาร์คบอกใครเป็นรัฐบาลก็เหนื่อยไม่กังวลโฟนอินแม้ว

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เชื่อว่าภายในสัปดาห์หน้า การจัดตั้งรัฐบาลน่าจะมีความชัดเจน

แต่ยอมรับไม่มีอะไรแน่นอนจนกว่าจะมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี แม้จะมีความพยายามใช้เงินซื้อตัวส.ส.กลับหรือล็อบบี้ แต่เชื่อว่ากลุ่มและพรรคการเมืองที่ได้คุยกับพรรคประชาธิปัตย์ จะมีความหนักแน่นมากพอ ส่วนกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ยังพยายามเดินหน้ารัฐบาลเพื่อชาตินั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายเสนาะก็มีสิทธิเสนอความเห็น และเชื่อว่าทุกพรรคจะรับฟังแล้วไตร่ตรอง

“ใครเข้ามาเป็นรัฐบาลในภาวะอย่างนี้เหนื่อยแน่นอน และโอกาสที่จะกำไรทางการเมืองนั้นมีน้อย แต่วันนี้ต้องมาช่วยกันแก้ปัญหา ใครทำอะไรได้ก็ต้องทำ ผมก็ยังถูกถามอยู่เลยว่าอายุ 44 ปี เอาตัวเองมาเสี่ยงทำไม คนที่เป็นอาสาสมัครเข้ามาทำงานการเมืองจะเลือกตามใจชอบไม่ได้ เรามีหน้าที่ความรับผิดชอบ ถ้าผมประสบความสำเร็จหรือไม่ในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องยอมรับตามกระบวนการ แต่ถ้าได้รับโอกาสให้เป็นรัฐบาล ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด  ถ้าทำดีแล้วแต่ผลในทางการเมือง ก็ต้องยอมรับ มันมีเท่านี้สำหรับนักการเมือง”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสต่อต้านค่อนข้างมากจากการที่พรรคประชาธิปัตย์ไปพูดคุยกับกลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนน้อมรับความไม่สบายใจ และความรู้สึกคิดเห็นที่แตกต่าง

แต่สิ่งที่คุยกับนายเนวินและกลุ่มเพื่อนเนวินเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทิศทางของอนาคตประเทศล้วนๆ ไม่มีเรื่องอื่น เป็นการช่วยกันหาทางออก ที่จริงนายเนวินก็บอกว่าถ้าตนไปพบเขา ก็คงจะมีเสียงต่อต้านอย่างนี้ แต่คิดว่าในเมื่อเขาตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์และอยู่ภายใต้แรงกดดันที่สูงมาก ตนก็ควรไปจบและพูดคุยกันให้ตรงไปตรงมาจะดีกว่า

เมื่อถามว่าตอนนี้เริ่มมีกระแสต่อต้านพรรคประชาธิปัตย์ เช่น การขึ้นป้ายเขตปลอดประชาธิปัตย์ที่ จ.อุดรธานี หากนายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ จะไปทำงานได้หรือไม่

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ว่าใครที่เป็นรัฐบาล ต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าเป็นรัฐบาลที่ใส่ใจคนทั้งประเทศและเข้าใจปัญหาแล้วพยายามยื่นมือเข้าไปแก้ไขปัญหาของทุกคน แม้กระทั่งคนที่แสดงตัวว่าไม่เป็นมิตรกับเรา เพื่อทำความเข้าใจกันและกัน ที่จริงแล้ว ปัญหาของประชาชนในแต่ละภาคไม่ได้แตกต่างกันมาก เช่น ชาวอีสานและขาวใต้ก็มีปัญหาราคายางพาราตกต่ำเหมือนกัน ปัญหาของคนยากจนและปัญหาของเกษตรกรมีหลักคิดและวิธีการในการแก้ปัญหาไม่ต่างกันแต่ต้องปฏิบัติให้ครอบคุลม ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวว่า ไม่กังวลต่อกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโทรศัพท์สายตรงจากต่างประเทศเข้ามาในรายการความจริงวันนี้สัญจร ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้

ว่าอาจทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมืองต่อการสลับขั้วหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณก็ได้โทรศัพท์ไปหาตัวส.ส.อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ประชาชนได้คิดว่าวันนี้เราต้องการความสงบหรือไม่ เมื่อถามว่าขณะนี้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ลาสิกขาบทจากภิกษุสงฆ์และพร้อมเป็นที่ปรึกษาให้รัฐบาลชุดใหม่ พรรคประชาธิปัตย์จะไปขอคำแนะนำหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯควรเดินสายพบปะผู้ใหญ่ในวงการ ไม่ใช่เฉพาะแวดวงการเมือง เพื่อระดมทุกภาคส่วนจริงๆเข้ามารวมพลังให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า

เมื่อถามว่าหลังการลงมติเลือกนายกฯจะมีการนัดพรรคร่วมหารืออีกครั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค เป็นผู้ประสานอยู่ตลอด คิดว่าถ้ามีความจำเป็นก็คงต้องพูดคุยกัน ไม่มีปัญหา