สุเทพจวกมีพลังดูดมหาศาลดึงส.ส.กลับเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (9 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 08.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  เดินทางไปศาลอาญา เพื่อเข้าให้ปากคำต่อศาล

ในคดีที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นโจทก์ยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อปี 2548
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ระบุพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า แนวคิดของนายเสนาะ ถือเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเป็นรัฐบาลทุกพรรคเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากพรรคเพื่อไทยหรือพลังประชาชนเดิม กับพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนทางการเมืองหลายเรื่องที่ไม่ตรงกัน แต่ถ้านายเสนาะ อยากเข้าร่วมกับพรรคก็ไม่เป็นปัญหา

ส่วนที่นายเสนาะ เสนอนายกรัฐมนตรีต้องไม่มาจากพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อลดความขัดแย้งนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องหนึ่ง การสังกัดพรรคไม่ใช่เรื่องใหญ่


ถ้าหากเป็นผู้นำประเทศแล้ว จะต้องเป็นผู้นำของคนทั้งประเทศ ซึ่งความตั้งใจของพรรค คือเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เป็นรัฐบาลของคนที่สนับสนุนเท่านั้น และพรรคพร้อมเป็นรัฐบาลที่ใช้ความเป็นธรรมกับคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไร
ต่อข้อถามว่าเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วกลัวหรือไม่ว่าจะเดินทางไปเหนือหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่กลัว ต้องมีการทำความเข้าใจกับประชาชน ที่ผ่านมาไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร ยกเว้นคนที่คิดร้ายกับบ้านเมืองเท่านั้น เพราะต้องทำงานให้กับคนทั้งประเทศ และการทำงานถ้าจะต้องไปที่ไหนก็ต้องไป ไม่มีการเลือกปฏิบัติ



และเมื่อถามว่าการเมืองยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจัดขั้ว กังวลหรือไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนขั้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การประสานงานกับพรรคร่วม และกลุ่มการเมืองต่าง ๆ นายสุเทพ เป็นผู้ดำเนินการอยู่ แต่ไม่ได้บอกว่ามีปัญหาอะไร

และที่พรรคจะต้องไปพบกับทุกกลุ่มและทุกพรรคการเมืองต่าง ๆ ก็เป็นการทำหน้าที่ ตามที่บอกไว้ว่าจะร่วมมือกัน วันนี้เราทราบว่ามีวิธีการหลายวิธี ที่มากดดันหรือล็อบบี้ แต่ยังเชื่อว่าทุกพรรคทุกกลุ่มที่คุยไว้ ยังมองว่าทางออกที่ดีที่สุด คือการให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เข้ามาแก้ไขปัญหาวิกฤติ บริหารบ้านเมืองให้ผ่านพ้นไปได้


ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจว่าพรรคที่มาสนับสนุนจะไม่เปลี่ยนขั้วใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง


เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าประชาธิปัตย์จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจมีความพร้อมในการหาทางออกให้กับประเทศ และพรรคร่วมต่าง ๆ ที่แสดงเจตนารมณ์ยังเชื่อมั่นตรงนี้
วันนี้จะไปพบกับพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ในช่วงเที่ยง ส่วนพรรคเพื่อแผ่นดินต้องรอให้เลือกหัวหน้าพรรคให้ได้ก่อนนายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่า กรณีพรรคเพื่อไทยระบุพรรคประชาธิปัตย์ดูด ส.ส.เพื่อให้เปลี่ยนขั้วทางการเมืองนั้น พรรคไม่เคยหักหลังเพียงแต่เกิดจากความเข้าใจผิด ในการสื่อสาร ซึ่งเรื่องนี้เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ชี้แจงได้ ตนยืนยันเจตนารมณ์ที่ต้องหาทางออกให้กับประเทศ

ด้านนายสุเทพ กล่าวถึงจำนวน ส.ส.ที่รวบรวมจัดตั้งรัฐบาลว่า ตัวเลขขณะนี้ยังไม่แน่นอน เนื่องจากมีการพยายามทุกวิถีทางดึงส.ส.กลับไปร่วมรัฐบาลกลับพรรคเพื่อไทย


ทั้งการเสนอเงิน และตำแหน่ง แต่ตนเชื่อในอุดมการณ์ของเพื่อน ส.ส. ในแต่ละพรรคและกลุ่มต่างๆ เนื่องจากเรื่องนี้มีการหารือกันมานาน ทุกคนต้องการช่วยกันหาทางออกให้บ้านเมือง และหากสมาชิกจะเปลี่ยนใจเพราะสิ่งยั่วยวน ก็ไม่สามารถห้ามได้ ทั้งนี้จากการประเมินพรรคเพื่อไทยหากจัดตั้งรัฐบาลได้ น่าจะรวบรวม ส.ส.สนับสนุนได้ไม่เกิน 225 -226 เสียง เกินกึ่งหนึ่งมา 5-6 เสียง ทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม หากพรรคไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็มั่นใจว่ากลุ่มเพื่อนเนวินจะร่วมเป็นฝ่ายค้านด้วยอย่างแน่นอน


ทางโน้นทั้งดูดทั้งดึง พลังมหาศาล ราคาก็ขึ้นเรื่อย ผมอยู่กันด้วยใจ ด้วยอุดมการณ์ แต่ยังยืนด้วยขาสั่น
นายสุเทพ กล่าว และว่า การเชิญนายเสนาะ มาร่วมรัฐบาลนั้น จากการโทรศัพท์พูดคุยกัน นายเสนาะขออยู่นิ่งๆ สักระยะ ซึ่งคงต้องรอให้ใจเย็นกว่านี้ และตนจะเข้าพบอย่างเป็นทางการ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์