แอ๊ดหวั่นคะแนนแก้วสรรตก ออกแถลงการณ์ไม่รับตำแหน่ง ปลื้ม-สุขุมพันธุ์ ลุยพท.หาเสียงหนักชูไฟแรง

"แอ๊ด คาราบาว"แถลงยันไม่รับตำแหน่ง หาก"แก้วสรร"นั่งผู้ว่าฯกทม. "ปลื้ม"ชูคนรุ่นใหม่ไฟแรง กระตุ้นพลังเงียบใช้สิทธิ เผยทุ่มแค่ 10 ล.ด้าน"สุขุมพันธุ์" ดันพัฒนาเขตบางขุนเทียนครบวงจร หนุนวิธีชาวบ้านป้องกันชายฝั่ง

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นายยืนยง โอภากุล หรือ "แอ๊ด คาราบาว" นักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง ได้ออกแถลงการณ์ส่งไปตามสื่อต่างๆ เพื่อชี้แจงกรณีที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่พอใจที่นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 12 ในนามผู้สมัครอิสระ และดึง "แอ๊ด คาราบาว" มาร่วมทีมงานด้วย

ทั้งนี้ เนื้อหาในแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า "ตามที่มีการเปิดตัวผมเป็นคณะช่วยทำงานด้านศิลปวัฒนธรรมให้ทีมอาจารย์แก้วสรร ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. และต่อมามีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มออกมาให้ข่าวในลักษณะจะไม่สนับสนุน (เทคะแนน) อาจารย์แก้วสรร เพราะมีผมอยู่ในทีมงานด้วย ขอเรียนชี้แจงให้พี่น้องประชาชนใน กทม.ได้ทราบข้อเท็จจริง ดังนี้

1.ผมสนับสนุนอาจารย์แก้วสรร ให้เป็นผู้ว่าฯกทม.เพราะเห็นว่าท่านเป็นคนจริงคนกล้าที่จะต่อสู้กับความอยุติธรรมและทุจริตทั้งหลายใน กทม. ซึ่งผลงานที่ผ่านมาของท่านเป็นที่ประจักษ์รับรู้กันทั่วไป

2.ผมตอบรับคำชวนให้ช่วยทำงานด้านศิลปวัฒนธรรมให้กับชาว กทม. ถ้าหากอาจารย์แก้วสรรได้รับการเลือกตั้ง เพราะจะเป็นการสนับสนุนและช่วยคนดีได้บริหาร กทม. และเป็นการตอบแทน กทม.ที่ผมอยู่อาศัยมามากกว่า 30 ปี อย่างไรก็ตาม หากภายหลังอาจารย์แก้วสรรเป็นผู้ว่าฯกทม.แล้ว จะเลือกใช้ผมหรือไม่ ผมก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างไร ถือว่าเป็นสิทธิของอาจารย์แก้วสรรในการเลือกคนมาช่วยทำงาน

3.ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าในชีวิตผมไม่เคยต้องการเป็นนักการเมืองหรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้น หากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดอยากสนับสนุนอาจารย์แก้วสรรให้เป็นผู้ว่าฯกทม. แต่ติดขัดที่จะเป็นการสนับสนุนให้ผมได้รับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ หรือตำแหน่งอื่นใด ขอให้สบายใจได้เพราะผมจะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ท่านช่วยเลือกอาจารย์แก้วสรร ให้เป็นผู้ว่าฯกทม. ตามที่ได้ตั้งใจไว้เถิด
สำหรับท่านที่ตั้งใจจะเลือกอาจารย์แก้วสรร ให้เป็นผู้ว่าฯกทม.อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีผมหรือไม่มีผมช่วยงานอยู่ด้วยก็ตาม ผมขอขอบพระคุณแทนอาจารย์แก้วสรรมาในโอกาสนี้ด้วย ส่วนท่านที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกใคร ขอให้พิจารณาอาจารย์แก้วสรร เป็นผู้ว่าฯกทม.ด้วยเถอะครับ รับรองท่านจะไม่ผิดหวัง" ลงชื่อ นายยืนยง โอภากุล

ส่วนบรรยากาศการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.นั้น เมื่อเวลา 07.30 น. วันเดียวกัน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือคุณปลื้ม ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 8 ผู้สมัครอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณซอยสุขุมวิท 55 จากนั้นขึ้นรถโดยสารประจำทางไปลงที่ซอยสุขุมวิท 77/1 ตระเวนเดินหาเสียงในตลาดรุ่นอรุณ พร้อมทั้งไปตัดผมของร้านบุญรับ บาร์เบอร์ ใต้สะพานพระโขนงซึ่งเป็นร้านที่เคยใช้บริการในสมัยเป็นเด็ก โดยตลอดการหาเสียงมีกลุ่มแม่ยกจากชุมชนคลองเตย 70 ไร่ ราว 30 คน ร่วมเป็นกองเชียร์ไปตลอดการลงพื้นที่ของ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ลงคะแนนให้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เรียกความสนใจจากกลุ่มผู้ค้าในตลาดอย่างมาก

ทั้งนี้ ม.ล.ณัฏฐกรณ์กล่าวภายหลังว่า กลยุทธ์ในการหาเสียงจะเน้นที่การลงพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนจดจำได้ว่าเป็นผู้สมัครหมายเลข 8 ซึ่งในวันธรรมดาช่วงเย็นๆ จะลงพื้นที่หาเสียงตามถนนสายสำคัญ สี่แยกสำคัญในกรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบการจราจร และการเดินทางของประชาชนว่าเป็นอย่างไร ส่วนวันหยุดจะเน้นลงพื้นที่ตามตลาดสดต่างๆ ในกรุงเทพฯ นอกจากนี้จะใช้ป้ายรณรงค์ประชาสัมพันธ์ติดตั้งตามถนนต่างๆ และรณรงค์ผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว และไฮไฟว์

ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า สำหรับป้ายรณรงค์หาเสียงเริ่มมีให้เห็นบ้างแล้ว เช่น ถนนเพชรบุรี ถนนสุขุมวิท โดยตนจัดทำป้าย  4 รูปแบบ มีคอนเซ็ปท์คือ คนรุ่นใหม่ไฟแรง ซึ่งคิดรูปแบบเอง ไม่ได้ว่าจ้างทีมงานประชาสัมพันธ์ ไม่มีหัวคะแนนช่วยหาเสียง เนื่องจากมีงบประมาณจำกัด โดยกำหนดไว้ว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะใช้เงินไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จากการขายรถยนต์ 2 คัน ก็นำไปทำป้ายหาเสียงไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจจะชนะการเลือกตั้งแค่ไหน ม.ล.ณัฏฐกรณ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่ามั่นใจเท่าใด เพราะยังเร็วเกินไป สิ่งที่เร่งทำคือรณรงค์กระตุ้นให้คนที่นอนหลับทับสิทธิกว่า 70% ออกมาเลือกตั้งก็จะมีโอกาสชนะมากขึ้น คนกลุ่มนี้คือคนที่เบื่อการเมือง ไม่ศรัทธาการเมือง และพรรคการเมืองต่างๆ ต้องการเปลี่ยนการเมืองใหม่ ถ้าหันมาเลือกตนก็เป็นการเมืองใหม่ที่แท้จริง ส่วนคนซึ่งครั้งที่แล้วเลือกนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. ที่จริงไม่ได้พิศวาสอะไรนัก แต่ที่เลือกเพราะต้องการให้สานต่อนโยบายที่ทำไว้ ซึ่งตนจะสานต่อนโยบายของนายอภิรักษ์ให้เสร็จได้เหมือนกัน

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 2 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่เขตบางขุนเทียน และลงเรือเพื่อสำรวจพื้นที่ริมฝั่งที่ประสบปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง และแถลงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม โดยกล่าวว่า นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมจะสานต่อนโยบายของนายอภิรักษ์ คือเพิ่มพื้นที่สีเขียว 5,000 ไร่ ส่วนพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เขตบางขุนทียนนั้น คิดว่าเป็นเสมือนพื้นที่ยุทธศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง เพราะมีศักยภาพสูงทั้งด้านการท่องเที่ยวและเกษตรกรรม คือการทำนากุ้ง นาหอย และเลี้ยงปลา อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ป้องกันน้ำท่วมที่สำคัญของ กทม. จึงต้องมีการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

"หากผมได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯกทม.จะเร่งพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว โดยจะเร่งก่อสร้างแนวถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว จะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศใกล้เมือง เนื่องจากยังเป็นพื้นที่ที่มีความสมบูรณ์ในด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้งจะผลักดันให้มีสถานบริการแก่ผู้สูงอายุ โดยเน้นเป็นจุดพักฟื้นเนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่ดี ห่างไกลจากเมือง ซึ่งปัจจุบัน กทม.ก็กำลังจะดำเนินการในส่วนของโรงพยาบาลบางขุนเทียนอยู่แล้ว" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง โดยการสร้างแนวกันเขื่อนหรือทีกรอยน์ ที่ กทม.ยังไม่สามารถดำเนินได้ในขณะนี้นั้น เห็นด้วยกับแนวทางการแก้ปัญหาของนายอภิรักษ์แต่หากตนเข้ามาเป็นผู้ว่าฯกทม.จะแก้ไขปัญหา โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยจะมีการพูดคุยหารือกับชาวบ้านและอาจารย์ในพื้นที่ เพื่อร่วมศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่จะรู้จักสภาพพื้นที่เป็นอย่างดี อีกทั้งจะแก้ไขปัญหาโดยไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ หากได้เป็นผู้ว่าฯกทม.จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมได้ภายใน 6 เดือน