ถือฤกษ์ดีวันพ่อ สนามบิน"สุวรรณภูมิ"เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ แสดงหุ่นละครเล็กแจกปฏิทิน-ของว่างเรียกลูกค้า สายการบินมะกันประเดิมเที่ยวแรก "สันติ"ย้ำไม่ชี้นำฟ้องพันธมิตรฯ คาดอีก1สัปดาห์เข้าสู่ภาวะปกติทุกอย่าง บอร์ดบินไทยคาดค่าเสียหายอย่างน้อย4,500ล้าน
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว ตั้งแต่เวลา 11.00 น. วันที่ 5 ธันวาคม ภายหลัง กรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน ฯลฯ เข้าตรวจสอบความพร้อมด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของสนามบิน ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจัดพิธีต้อนรับเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เดินทางทั้งขาเข้าและออก ในวันแรกที่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ หลังจากต้องปิดไปชั่วคราวเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่ค่ำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 จนถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2551
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เป็นประธานการเปิดใช้บริการเต็มรูปแบบ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารจากกระทรวงคมนาคม บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ฯลฯ กล่าวว่า ขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความพร้อมทั้งระบบการบินและระบบรักษาความปลอดภัยเต็ม 100% แล้ว หลังจากที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้เวลา 48 ชั่วโมง ตรวจสอบและเตรียมความพร้อม
สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเที่ยวแรกที่จะออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ คือ สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ (ยูเอ) ของสหรัฐอเมริกา ที่จะเปิดให้บริการในช่วงเช้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความพร้อมตามระบบมาตรฐานความปลอดภัยสากล 100% และพร้อมที่จะเปิดให้บริการตามปกติตั้งแต่ วันที่ 5 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป
นายสันติกล่าวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ปิดล้อมสนามบินครั้งนี้ว่า แต่ละหน่วยงานคงต้องไปดำเนินการตรวจสอบอย่างรอบคอบอีกครั้ง เพื่อนำเสนอรายงานเข้ามาที่กระทรวงคมนาคม ส่วนเรื่องของการฟ้องร้องขอให้เป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานไป กระทรวงไม่ต้องการชี้นำและสั่งการใดๆ แต่จะนำเสนอรายงานที่รวบรวมต่อรัฐบาลต่อไป ส่วนการชดเชยค่าเสียหายภาครัฐจะต้องเข้ามาช่วยเหลือและดูแลในระดับหนึ่งอย่างสมเหตุสมผล
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นบทเรียนของพี่น้องชาวไทย พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย กระทรวงคมนาคมจึงมีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก"
นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาการอธิบดี ขอ.กล่าวว่า หลังจากนี้คงจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ กว่าที่ตารางการบินของแต่ละสายการบินจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยมีจำนวนเที่ยวบินเข้า-ออกสุวรรณภูมิ ที่ 700 เที่ยวต่อวัน นอกจากนี้ ขอ.ยังคงอนุญาตให้แต่ละสายการบินกลับมาใช้ตารางการบินช่วงฤดูหนาวที่ได้อนุมัติไปก่อนแล้วได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใหม่
ทั้งนี้ ขอ.ได้เข้าตรวจสอบระบบของเครื่องบินและสนามบินทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ พบว่าพร้อมแล้ว 100% รวมถึง หอบังคับการบินที่สามารถสื่อสารได้เรียบร้อยสมบูรณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการปิดล้อมสนามบินโดยประชาชน ซึ่งจะเป็นบทเรียนอย่างดีสำหรับคนไทย ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ถือเป็นเหตุการณ์แรกของโลกขึ้นอีก ดังนั้น ในส่วนของมาตรการรักษาความปลอดภัยต่อจากนี้จะดูเรื่องวิธีการป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาโดยง่าย โดยอาจต้องพิจารณาการตั้งด่านเข้าออกสุวรรณภูมิจำนวน 5 จุด ก่อนที่จะเข้าถึงบริเวณอาคารสนามบิน
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ในวันที่ 5 ธันวาคม 2551 จะมีจำนวนเที่ยวบินขึ้นลงทั้งสิ้น 547 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้า 290 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออก 257 เที่ยวบิน และเชื่อว่าหลังจากนี้ 1 สัปดาห์ ตารางการบินจะกลับสู่ภาวะปกติ
สำหรับอุปสรรคของการเปิดบินในวันแรก นายเสรีรัตน์กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กน้อยที่เกิดขึ้นเป็นปกติของการบริหารการบิน ดังนั้น ในภาพรวมความพร้อมทุกอย่างสามารถดำเนินงานได้โดยไม่มีอุปสรรคใหญ่ และหลังจากวันที่ 5 ธันวาคม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็จะจัดกิจกรรมสร้างความอบอุ่นให้กับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้ดำเนินการตามปกติอยู่แล้ว นอกจากนี้ เตรียมที่จะทำกิจกรรมวันคริสต์มาสและวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เที่ยวบินที่ทำการบินในวันแรกมีจำนวน 91 เที่ยวบิน แบ่งเป็น เที่ยวบินต่างประเทศ 61 เที่ยว เที่ยวบินในประเทศ 30 เที่ยว จากเดิมที่การบินไทยทำการบินออกจากสุวรรณภูมิ 130-140 เที่ยวต่อวัน อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้โดยสารในวันแรกที่เปิดบินลดลงไป 50% ทำให้คาดการณ์ว่า ผู้โดยสารจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 6 เดือน
พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์กล่าวถึงการฟ้องร้องค่าเสียหายจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ขณะนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายเข้าไปดูในรายละเอียดของความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นประเมินความเสียหายเฉพาะในส่วนของรายได้ของการบินไทย พบว่า สูญเสียวันละ 519 ล้านบาท หรือรวม 9 วัน คิดเป็นวงเงินประมาณ 4,500 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการคืนตั๋ว การจองโรงแรมให้กับผู้โดยสาร ค่าชดเชยให้กับลูกเรือ เป็นต้น
นายพุทธิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ผู้บริหารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า การเปิดสนามบินสุวรรณภูมิในครั้งนี้บริษัทสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติในทุกเส้นทางบิน แต่เที่ยวบินยังไม่ครบตามตารางบินปกติ ที่จะออกจากสุวรรณภูมิมีอยู่ 80 เที่ยวบินต่อวัน โดยสามารถเปิดได้ 55 เที่ยวบินต่อวัน และจะกลับมาเปิดให้บริการจนครบได้ภายในวันที่ 8-9 ธันวาคม 2551 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้โดยสารมีจำนวนลดลงถึง 50% ดังนั้น บริษัทจึงคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5-6 เดือน สำหรับกลุ่มผู้โดยสารที่ลดลงในส่วนของเที่ยวบินต่างประเทศ เป็นกลุ่มผู้โดยสารจากจีน ญี่ปุ่น และกัมพูชา
ทั้งนี้ บริษัทได้ประเมินความเสียหายเบื้องต้นที่รวมทั้งรายได้ ค่าคืนตั๋วโดยสาร และธุรกิจขนส่ง (คาร์โก้) ตลอด 7-8 วันที่ผ่านมา พบว่า อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ของบริษัทในเดือนธันวาคม 2551 จะต้องสูญเสียไป 50% หรือคิดเป็นมูลค่า 300-400 ล้านบาท
"ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้คิดถึงเรื่องฟ้องร้องจากผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ยังส่งผลให้บริษัทต้องเลื่อนแผนการดำเนินงานออกไปหลายส่วน เช่น การเปิดเส้นทางบินใหม่ไปยังประเทศอินเดีย ในเดือนมีนาคม 2552 ออกไปอีก 6 เดือน รวมถึงจะต้องชะลอการเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินโฮจิมินห์ ในช่วงฤดูหนาว เป็น 10 เที่ยวต่อสัปดาห์ออกไปไม่มีกำหนด เนื่องจากกำลังจะหมดช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว อย่างไรก็ตาม ปีนี้ถือเป็นปีที่หนักที่สุด เนื่องจากเราเจอผลกระทบหลายอย่าง" นายพุทธิพงศ์กล่าว
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า เที่ยวบินของแอร์เอเชียเปิดบินในวันแรกมีจำนวนลดลงจากเดิม 10 เที่ยวบิน จากเดิมที่เปิดทำการบินวันละ 106 เที่ยว แบ่งเป็น เที่ยวบินไปต่างประเทศ 50% และเที่ยวบินภายในประเทศ 50% โดยเที่ยวบินที่หายไปเป็นการลดความถี่ของการบินในบางเส้นทาง เช่น มาเก๊า แต่ยังคงเปิดให้บริการครบทุกเส้นทางบิน ทั้งนี้ บริษัทได้ประเมินตัวเลขความเสียหายในเบื้องต้น พบว่า จะสูญเสียรายได้ไปวันละ 350 ล้านบาท โดยยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เช่น การขนย้ายอุปกรณ์ไปอู่ตะเภา ซึ่งยังไม่ได้ประเมินความเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดให้มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น การแสดงหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ การแสดงดนตรีและรำไทย ของนักเรียนโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตลอดจนยังจัดให้มีเครื่องดื่ม ของว่าง ของที่ระลึก เช่น ปฏิทินปีใหม่ แจกให้กับผู้โดยสารที่เดินทางมาขึ้นเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม การเช็คอินของผู้โดยสารส่วนใหญ่จะได้รับแจ้งจากสายการบินให้เดินทางมาเช็คอินก่อนเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง จากปกติที่จะต้องเดินทางมาเช็คอินล่วงหน้า 1-2 ชั่วโมง
ส่วนที่ท่าอากาศยาน จ.สุราษฎร์ธานี มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำสายการบินทุยฟลาย นอร์ดิค (Tui Fly Nordic) ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 763 นำนักท่องเที่ยวกลุ่มสแกนดิเนเวีย ประกอบด้วย สวีเดน ฟินแลนด์ เดนมาร์กและนอร์เวย์ 279 คน จากกรุงสตอกโฮล์มประเทศสวีเดน บินตรงมาลงที่ท่าอากาศยาน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 11.00 น. โดยมีนายบุญส่ง เตชะมณีสถิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการ ททท. และสมาคมการท่องเที่ยว, ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ร่วมให้การต้อนรับ เที่ยวบินท่องเที่ยวเช่าเหมาลำเที่ยวแรกที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย หลังการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวเข้ามาท่องเที่ยวแบบคู่รักและครอบครัว มีเป้าหมายไปท่องเที่ยวเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ชุมพร เป็นเวลา 15 วัน
ส่วนสนามบินตราดเปิดเป็นวันแรกเพื่อรองรับการเปิดใช้สนามบินหลักใน กทม.เช่นกัน โดยเปิดรับเครื่องบินเที่ยวแรกที่บินมาจากสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 15.45 น. เป็นเครื่องบินจากบริษัท บางกอก แอร์เวย์ส จำกัด
นายปิติกานติ์ พ่วงรอด ผู้จัดการสนามบินตราด กล่าวว่า ผลการตอบรับยังถือว่าดี แม้ผู้โดยสารเดินทางมา จ.ตราด อาจจะน้อยลงไปบ้าง คงเป็นเพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ โดยในช่วงวันที่ 5-8 ธันวาคมนี้จะเปิดบริการเพียง 2 เที่ยวบิน (ไป-กลับ) เท่านั้น หลังวันที่ 8 ธันวาคมไปแล้วจะเปิดให้บริการเที่ยวบินปกติ คือ 6 เที่ยวบิน ไป-กลับ เหมือนเดิม
ถือฤกษ์วันพ่อ สุวรรณภูมิ ส่งเครื่องเหินฟ้าเต็มรูปแบบอีกครั้ง สันติ คาดทุกอย่างเข้าที่สัปดาห์หน้า
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ถือฤกษ์วันพ่อ สุวรรณภูมิ ส่งเครื่องเหินฟ้าเต็มรูปแบบอีกครั้ง สันติ คาดทุกอย่างเข้าที่สัปดาห์หน้า