ยันตุลาการฯ ไม่มีการแบ่งขั้ว เกือบครึ่งไม่ได้ทำคดีซุกหุ้น

นายมานิต วิทยาเต็ม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์วันนี้ (3 ก.ค.)

ถึงการออกเสียงในการวินิจฉัยคดีต่างๆ ที่ผ่านมา โดยบางคนมองว่าการลงมติยังมีการเกาะกลุ่มกันอยู่ ว่า ความจริงไม่ใช่ มีการเสนอข่าวจนคนเข้าใจไปอย่างนั้น ขอให้มาเทียบกันจริง ๆ จะมีการออกเสียงปนกันไปกันมาเสมอ บางครั้งกล่าวถึงขนาดว่า กลุ่มนี้วินิจฉัยคดีซุกหุ้น ซึ่งความจริงหลายคนในกลุ่มยังไม่ได้เข้ามาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเลย แต่เขาไม่ได้คิดให้เป็นวิทยาศาสตร์ ใช้อารมณ์เป็นหลัก

น่าเสียดาย หากคิดเป็นวิทยาศาสตร์จริงต้องไปหาตัวเลขมาเทียบ มีสถิติที่มาจากคดีต่างๆ อยู่ตรงหน้า อย่าใช้ความรู้สึก จำได้เพียง 1-2 คน ก็บอกว่ากลุ่มนี้เป็นอย่างนั้นไปแล้ว อยู่กลุ่มเดียวกับคดีซุกหุ้น ไม่ใช่อย่างนั้นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าว และว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่มีการแบ่งขั้ว หรือแบ่งซีก บางทีการออกเสียงก็ข้ามไปข้ามมา แต่เรื่องคดีบางอย่าง บางประเภท อาจมีแนวการวินิจฉัยแนวเดียวกันได้ หมายความว่าอุดมคติอยู่ในลักษณะเดียวกัน ฉะนั้นคดีบางอย่าง อาจมีการคิดเหมือนกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องบังเอิญ แต่ไม่ใช่มีการตกลงมาอยู่ข้างเดียวกันด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง ขอยืนยันว่า เกือบครึ่งของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่เคยอยู่ในสมัยวินิจฉัยคดีซุกหุ้น ยังมีการโยง อ้างอย่างนั้นอยู่ ตนมองเป็นเรื่องน่าหัวเราะ อ้างอะไรประหลาด ๆ

นายมานิต กล่าวถึงคดียุบพรรคการเมืองที่จะมาถึงศาลรัฐธรรมนูญ ว่า

กระแสจะไม่มีส่วนมากำหนดการวินิจฉัย เพราะเราทำงานตามหลักการ หากใช้ตามกระแส จะทำให้การวินิจฉัยคดีไม่อยู่กับร่องกับรอย ซึ่งคดียุบพรรคไม่มีธงตั้งไว้ ได้ติดตามมาตลอด ไม่เห็นสำนวน อย่าไปตั้งธง

ต้องรู้ว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกคน มีชีวิต 2 ส่วน หนึ่งเป็นประชาชนคนไทย และอีกส่วนคือเป็นตุลาการฯ นึกถึงตัวบทกฎหมายเป็นหลัก ปรับข้อเท็จจริงให้เข้ากับกฎหมาย ใช้ความรู้สึกเฉพาะตัวเฉพาะรายไม่ได้ แต่ใครจะแยกได้ชัดเจนมากกว่ากันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน นายมานิต กล่าว

เมื่อถามว่า หากวันหนึ่งต้องวินิจฉัยคดีที่ต้องว่าตามกฎหมายแล้วมีผลต่อความวุ่นวายของประเทศชาติหลังคำวินิจฉัย จะเลือกอย่างไร

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ความเคลื่อนไหวของมวลชน บางครั้งก็ไม่ทราบว่าเป็นความเคลื่อนไหวของคนทั้งประเทศหรือไม่ คนที่มีความรู้สึกรุนแรงอาจแสดงตัวออกมาชัดเจน ทำให้ดูเหมือนว่าเป็นกระแส แต่ความจริงแล้วเป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ เป็นประโยชน์หรือไม่ ก็ไม่ทราบ เหมือนเด็กไม่สบายถูกหมอจับฉีดยา ต้องต่อสู้ร้องเอะอะ แต่ผู้ปกครองก็จับฉีดยาจนได้

ส่วนที่มีภาคเอกชนมองกันว่า

ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นสถาบันเดียวที่ทำให้การเมืองหายอึมครึมได้นั้น นายมานิต กล่าวว่า ถ้ามีการตัดสินแล้วก็หายอึมครึม แต่ว่าจะถูกทิศทาง หรือไม่ ยืนยันว่า ตนก็เป็นฝีพายคนหนึ่ง จะพายอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้เรือลำนี้แล่นไปตรงทิศตรงทาง และเชื่อว่าคนอื่นก็คิดแบบเดียวกัน

ส่วนที่มีการแฉตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนต่อไป ก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร ให้เกิดก่อน แต่ขอเรียนว่า ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ใช้กฎกติกา ต้องยอมรับกฎกติกา หากทำให้เกิดอะไรแก่ใคร เราก็ต้องยอมรับ นายมานิต กล่าว

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์