พธม.ลั่นฟื้นม็อบใหม่ ถ้ายังดื้อฟอกผิดแม้ว-แก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมคุยนายกฯใหม่ หลังยุติการชุมนุม


พันธมิตรประกาศชัยชนะ แถลงยุติการชุมนุมทั้งหมด 3 ธ.ค. แต่จะกลับมารวมตัวอีกครั้ง หากรัฐบาลใหม่หวังแก้ รธน. ฟอกผิด "แม้ว" ระบุพร้อมคุยนายกฯคนใหม่ ตร.-สปน.-พันธมิตรเริ่มสำรวจทำเนียบ-งาช้า-ห้องนายกฯ ยังอยู่ ภายในตึกไทยคู่ฟ้า-สันติไมตรี ส่วนใหญ่ปกติ

 
พันธมิตรแถลงยุติชุมนุมทั้งหมด
 
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกแถลงการณ์ยุติการชุมนุมทั้งหมด หลังชุมนุมติดต่อกันนานถึง 192 วัน พร้อมประกาศว่าเป็นชัยชนะของพันธมิตร
 
ทั้งนี้แกนนำพันธมิตร ทั้ง 5 คน คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ร่วมแถลงเรื่องยุติการชุมนุม เวลา 18.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่บ้านพระอาทิตย์
 
นายสนธิ อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 27/2551 ว่า จากผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้พันธมิตรบรรลุเงื่อนไข 2 ประการ คือ 1.ได้รับชัยชนะในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และได้รับชัยชนะในการไล่รัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้ได้เป็นผลสำเร็จ

"พันธมิตรจึงขอประกาศยุติการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองในวันที่ 3 ธันวาคม  ในช่วงเวลาที่เป็นสุญญากาศนี้ ไม่มีรัฐบาลบริหารประเทศตามกฎหมาย จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายใดก็ตามที่เข้าสู่อำนาจในการบริหารประเทศ หาทางออกให้ประเทศ และขอให้หยุดยั้งอย่าให้มีนายกรัฐมนตรีรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณเข้ามาอีก และขอให้ร่วมกับประชาชนสร้างการเมืองใหม่ หากรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณกลับมาอีก หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย เพื่อฟอกความผิดให้คนในระบอบทักษิณ หรือลดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ พันธมิตรฯก็จะกลับมาอีก หลังจากนี้รัฐบาลชุดใดๆ ก็ตามเข้ามาบริหารประเทศ ไม่มีความจริงใจในการปฏิรูปการเมืองใหม่ร่วมกับประชาชน พันธมิตรฯก็จะกลับมาอีกทันที
 
(คลิกอ่านฉบับเต็ม)

พร้อมพูดคุยนายกฯคนใหม่
 
หลังการอ่านแถลงการณ์ นายสนธิตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เมื่อมีการเสนอตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทางพันธมิตรก็พร้อมพูดคุย แม้ว่ายุติการชุมนุมไปแล้ว โดยเวลา 192 วัน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเมืองภาคประชาชนมีความเป็นไปได้และเป็นไปแล้ว แม้ว่าภาคประชาชนจะต้องสูญเสียชีวิตจนถึงวันนี้กว่า 10 คน การถูกโจมตีด้วยอาวุธสงคราม ชี้ให้เห็นว่ารัฐยังใช้อำนาจ ส่วนภาคประชาชนแม้ถูกรังแก อย่างไรก็ตาม ยังยึดถือธรรมนำหน้าและสันติ อหิงสาโดยตลอด ด้วยสันติอหิงสาอย่างแท้จริง กระบวนการยุติธรรมจึงสามารถทำงานได้โดยไม่ถูกแทรกแซง ผู้ที่ตายไปทำเพื่อประโยชน์ของระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ในขณะที่เราต่อสู้อย่างอหิงสา เรายืนอยู่ท่ามกลางแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กลุ่มเสื้อแดง ที่เอาของไปขว้างข่มขู่ศาล ซึ่งเราไม่เคยข่มขู่ศาลแม้แต่นิดเดียว
 
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ  มีการถ่ายทอดสดจากสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ที่นายสนธิ แถลงประกาศชัยชนะและยุติการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม ทำให้ผู้ชุมนุมโห่ร้องไชโย กระโดดโลดเต้น พร้อมโบกธงชาติและชูพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
ขณะที่ก่อนหน้านั้นหน่วยตระเวนระงับเหตุในสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 60 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองทัพบก 11 นายเข้าตรวจพื้นที่ภายในสนามบินเพื่อดูความพร้อมและความปลอดภัยในการเปิดใช้สนามบิน โดยผู้ชุมนุมใช้มือตบให้การต้อนรับ

หนุ่มที่โดนพธม.รุมถูกยิง-ทิ้งเปลือย
 
เมื่อกลางดึกวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนพรัตน์ ย่านมีนบุรี มีพลเมืองดีนำผู้บาดเจ็บถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืนและมีดอาการสาหัสมารักษาตัว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าผู้บาดเจ็บคือนายชัยวัฒน์ มาลีรัตน์ อายุ 24 ปี ชาว จ.พิษณุโลก มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาดทะลุลำคอ ตามลำตัวมีบาดแผลจากของมีคมหลายแห่ง แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 3
 
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ช่วงสายนายชัยวัฒน์ เดินทางไปเข้าร่วมฟังการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตร ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ระหว่างที่นายชัยวัฒน์ เดินผ่านชั้น 1 ประตู 1 พบกับการ์ดพันธมิตร ซึ่งขอตรวจค้น แต่เกิดการกระทบกระทั่ง จากนั้นการ์ดคนหนึ่งร้องขึ้นว่าเป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) แฝงตัวมา ทำให้เพื่อนการ์ดที่เหลือนับสิบคนต่างกรูเข้ามา ทำให้นายชัยวัฒน์ต้องวิ่งหนี โดยมีกลุ่มการ์ดพันธมิตร ถือไม้วิ่งไล่ จนไปทันที่บริเวณสนามหญ้า ใกล้อาคารจอดรถโซน B ต่อมามีผู้พบนายชัยวัฒน์ถูกทิ้งย่านมีนบุรี โดยอยู่ในสภาพเปลือยและถูกทำร้ายดังกล่าว
 
พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ  ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ภาพข่าวที่การ์ดพันธมิตรซ้อมชายคนหนึ่งนั้น เป็นการ์ดซ้อมกันเองเพราะเกิดจากความขัดแย้งกัน

ตำรวจแจงความถูกการ์ดพันธมิตรฯรุม
 
เวลา 12.30 น.วันเดียวกัน จ.ส.ต.เกรียงศักดิ์ คุณธรรม ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอุบลราชธานี พาร่างกายที่มีรอยฟกช้ำเข้าแจ้งความ พ.ต.ท.คุณากร หอมจันทร์ พนักงานสอบสวน สภ.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยให้การว่าไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบที่สนามบินสุวรรณภูมิ และมีการสับเปลี่ยนกำลัง จึงนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านเพื่อนำเสื้อที่ซื้อไว้ไปให้ลูกสาว แต่ขณะผ่านจุดตรวจของการ์ดอาสา ที่เห็นตนแต่งเครื่องแบบตำรวจครึ่งท่อน การ์ดเหล่านั้นใช้รถยนต์ตู้และกระบะรวม 3 คันไล่ติดตามรถแท็กซี่จนทันบริเวณหน้าที่ทำการหน้าไปรษณีย์ สาขาสนามบินสุวรรณภูมิ
 
จ.ส.ต.เกรียงศักดิ์ ระบุว่า จากนั้นกลุ่มการ์ดอาสาได้รุมทำร้ายร่างกายตนจนฟกช้ำ อีกทั้งยังนำตัวไปสอบสวนที่เต็นท์ของการ์ดพันธมิตร โดยระหว่างที่ถูกสอบมีการ์ดคนหนึ่งใช้อาวุธปืนจ่อศีรษะตนตลอดเวลา กระทั่งมีหัวหน้าการ์ดเข้ามาสั่งให้หยุด พร้อมพูดเกลี้ยกล่อมให้ตนเข้าเป็นพวกเดียวกับกลุ่มพันธมิตร โดยให้หาข่าวจากฝ่ายตำรวจ ตนจึงร้องขอชีวิตเพราะต้องการกลับบ้านไปพบลูกสาว ในที่สุดหัวหน้าการ์ดจึงยอมปล่อยตัวออกมา

โยน ครม.ตัดสินเงื่อนไขพันธมิตร
 
เช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ยังคงมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน และมีการ์ดพันธมิตรตรวจทางเข้าออกอย่างเข้มงวด ภายในยังคงมีเต็นท์กางอยู่บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ส่วนภายนอกทำเนียบ ยังไม่มีการเปิดให้รถยนต์สัญจรไปมา อีกทั้งบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ สะพานมัฆวาน สะพานอรทัย และบริเวณแยกมิสกวัน ยังคงมียางรถยนต์ รถโดยสารขนาดใหญ่และลวดหนามขวางอยู่ตามเดิม ส่วนบริเวณถนนด้านข้างทำเนียบเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ยังคงมีตาข่ายกัน ซึ่งยังไม่มีการเคลื่อนย้ายใดๆ ตามที่พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ระบุให้ย้ายออกจากทำเนียบ
 
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งประสานไปยังรัฐมนตรี 22 คนให้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 3 ธันวาคม โดยนายนัที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะเสนอให้ครม. ชี้ขาดกรณีพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรยื่น 2 เงื่อนไข คือ 1.ให้ทางการถอนแจ้งความในทุกคดี และ 2.ให้งดเว้นการดำเนินคดีแพ่งและอาญากับกลุ่มพันธมิตรทุกคดี


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์