สื่อตปท.วิเคราะห์เมืองไทยจ่อสงครามกลางเมือง หลังคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพปช.

สื่อตปท.ประโคมข่าวศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพปช.และ 2 พรรคร่วมรบ. เชื่อฉุดเมืองไทยสู่สงครามกลางเมือง สถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น เกิดการเผชิญหน้าขึ้นระหว่างกลุ่มเสื้อแดงและเสื้อเหลือง

สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ได้แก่ เอพี เอเอฟพี รอยเตอร์ ซินหัว ซีเอ็นเอ็น และอื่น ๆ ต่างประโคมข่าวศาลรัฐธรรมนูญไทยได้มีคำพิพากษายุบพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรบ.คือ พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ท่ามกลางกระแสการชุมนุมประท้วงของกลุ่มเสื้อแดงนอกศาลปกครองที่ถูกใช้เป็นสถานที่พิพากษาคดียุบพรรคทั้งสาม ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่าต้องการให้คำตัดสินครั้งนี้เป็นมาตรฐานทางการเมือง ด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ประกาศจะก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ซีเอ็นเอ็นระบุว่า นับเป็นครั้งที่สองในรอบสามเดือนที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินยุบพรรครัฐบาล โดยก่อนหน้านี้ได้มีคำพิพากษายุบพรรคไทยรักไทยไปแล้ว
 
บีบีซีระบุว่า คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญจะกระตุ้นให้เกิดกระแสโกรธแค้นทั่วพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งสนับสนุนรัฐบาล ทั้งในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่ไทมส์ ออนไลน์ รายงานว่า คำตัดสินยุบพรรคของศาลรัฐธรรมนูญต่อพรรครัฐบาล ได้ส่งผลให้การเมืองไทยดำดิ่งสู่ภาวะจลาจลและกระตุ้นให้เกิดความกระแสวิตกว่า จะทำให้เกิดสงครามกลางเมืองในเมืองไทย โดยแม้ว่าคำพิพากษาดังกล่าวจะเป็นที่คาดหมายกันมาแล้ว ทว่า คำตัดสินเช่นนี้จะฟื้นกระแสความรู้สึกวิตกต่อสถานการณ์รุนแรงที่จะเกิดขึ้นในเมืองไทย และก่อให้เกิดคำถามว่า เมืองไทยจะสามารถมีรัฐบาลที่สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้หรือไม่ แม้ว่าคำพิพากษาดังกล่าวจะสร้างความพอใจให้แก่กลุ่มม็อบพันธมิตร จนอาจนำไปสู่การเลิกยึดสนามบินสุวรรณภูมิได้ก็ตาม
 
ไทมส์ ออนไลน์ ระบุว่า คำตัดสินดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางการชุมนุมประท้วงของกลุ่มเสื้อแดงจำนวนหลายร้อยคนนอกบริเวณศาลปกครอง โดยกลุ่มได้ประนามคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นเหมือนการ"ปฎิวัติรัฐประหารบังหน้า" อย่างไรก็ตาม ไทมส์ ออนไลน์ ระบุว่า คำตัดสินดังกล่าวขณะนี้ถือว่าได้สร้างความวิตกว่าจะทำให้เกิดการปะทะที่รุนแรงเพิ่มขึ้น และเป็นสิ่งที่ไม่หลีกเลี่ยงได้ ขณะที่บางรายมองด้วยว่า คำพิพากษาครั้งนี้ยังไม่ทำให้การเมืองไทยเกิดการเลือกตั้งใหม่ที่จำเป็นด้วย เนื่องจากสมาชิกของพรรคพลังประชาชนได้ตั้งพรรคใหม่รออยู่แล้ว
 
ทั้งนี้ บีบีซี รายงานอ้างคำกล่าวของนายจักรภพ เพ็ญแข ว่า คำพิพากษาครั้งนี้ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้แก่สมาชิกพรรคพปช.ทุกคน และสมาชิกพรรคพปช.ตัดสินใจจะเดินหน้าต่อไป โดยจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่จากเสียงส่วนใหญ่ที่เราเชื่อว่าจะมีเสียงเพียงพอ