นายกฯ ระบุ หมดหน้าที่แล้ว ย้ำทำเพื่อประเทศชาติดีที่สุด ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ด้าน“อุดมเดช”` เคว้ง ยังไม่รู้ไปอยู่ไหน หลังพปช.ถูกยุบ เหตุเชื่อพรรคไม่ผิดจึงไม่เตรียมการรองรับ ขอหารือมิตรสหายร่วมชะตากรรมก่อนตัดสินใจไปพรรคใหม่
(2ธ.ค.) เวลา 13.10 น.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม.ที่ศาลากลางจ.เชียงใหม่
โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าต่อจากนี้ไปจะทำอย่างไร นายสมชายกล่าวติดตลกว่าจากนี้ไปจะไปกินข้าว ต่อข้อถามที่ว่าคิดหรือไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนี้นายกฯกล่าวว่าไม่ได้คาดการณ์เลยส่วนพรรคจะดำเนินการอย่างไรต่อไปก็เป็นเรื่องของคนที่เขายังอยู่ต่อไปที่จะหารือกันซึ่งตนหมดหน้าที่ไปแล้ว ถามว่ายังยิ้มได้แสดงว่ายังโอเคอยู่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่าใช่ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ทำเพื่อตัวเองอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ทำดีที่สุดแล้วถือว่าทำเพื่อประเทศชาติดีที่สุดจากนี้ไป ก็เป็นประชาชนเต็มขั้น
ต่อข้อถามที่ว่าเบาใจหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า มันไม่มีเบาหรือไม่เบาเพราะชาติบ้านเมืองเป็นของเราทุกคน
ถามว่าคิดว่สถานการณ์ควมขัดแย้งจะคลี่คลายหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะคลี่คลายหรือไม่ เพราะตนไม่มีหน้าที่ทำงานแล้วก์ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างให้สัมภาษณ์ทีมรักษาความปลอดภัยพยายามกันสื่อไม่ให้สัมภาษณ์ซึ่งบรรยากาศโกลาหลเล็กน้อย และเมื่อมาถึงบริเวณทางขึ้นศาลากลางนายกฯได้ทักทายประชาชนเสื้อแดงและข้าราชการที่มาให้กำลังใจ บางคนร่ำไห้ที่นายกฯต้องยุติการทำหน้าที่นายกฯก็หน้าแดงและกล่าวว่า ขอขอบคุณทุกท่านด้วยความจริงใจตนประทับใจมากพวกเราให้กำลังใจ แม้จะอยู่ในตำแหน่งไหน แต่ประเทศชาติบ้านเมืองก็เป็นของเราต้องช่วยกันดูแล
จากนั้นนายกฯได้ขึ้นรถกลับมาที่บ้านพักหมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่ โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ นายบุญทรง เตริยาภิรย์ เลขาส่วนตัว เข้าหารือที่บ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศาลากลางจว.เชียงใหม่ว่าหลังมีมติของศาลรับธรรมนูญการประชุมได้ยุติลงทันทีรมต.ต่างทยอยเดินทางกลับทันที ด้านนายอุดมเดช รัตนเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันทร์ให้ยุบพรรคพลังประชาชน(พปช.)และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี ว่า ขณะนี้ตนยังอยู่ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่จ.เชียงใหม่ ได้รับทราบข่าวดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว แต่ตนไม่ได้เป็นหนึ่งในกรรมการบริการพรรค จึงยังมีสิทธิความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ที่กฎหมายเปิดช่องให้ไปหาพรรคสังกัดใหม่ได้
“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคไหน เพราะคิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิดจึงไม่ได้เตรียมการเรื่องการย้ายพรรคไว้ แต่หากจะดำเนินการเช่นไรคงจะต้องหารือร่วมกันกับส.ส.ของพรรคคนอื่นๆก่อนถึงข้อดีข้อเสียของการย้ายไปสังกัดพรรคใหม่พรรคใดพรรคหนึ่ง ส่วนจะย้ายพรรคไปอยู่ร่วมกันในพรรคใหม่เดียวกันทั้งหมดหรือไม่ ยังต้องหารือแต่เชื่อว่าความเป็นพวกพ้องยังมีอยู่เหนียวแน่น”
นายอุดมเดช กล่าวถึงกรณีที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนรวบรวมรายชื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีปลดพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พ้นจากตำแหน่งผบ.ทบ.ว่า ตนไม่ได้เป็นหนึ่งในส.ส.ที่ร่วมลงชื่อ เพราะเข้าใจบทบาทและสถานะของแต่บุคคลดี เชื่อว่ากาทำงานของผบ.ทบ.ขณะนี้ก็คงถูกกดดันจากหลายฝ่ายเช่นกัน