ทักษิณเปิดใจ"สื่ออาหรับ" ประณามรัฐประหารกลายพันธุ์ เป็นรัฐประหารโดยตุลาการ ยันพร้อมกลับเมืองไทยช่วยคนจน เชื่อมั่น"ต้องมีสักวัน" ได้กลับประเทศ พร้อมทั้งติง รบ.ผู้ดีจะเสียใจถอนวีซ่า เพราะไม่เคารพประชาธิปไตยตัวเอง
เมื่อวันที่ 30 ที่ผ่านมา"Arabian Business"ได้สัมภาษณ์พิเศษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในหัวข้อ"Cath me if you can"หรือ จับให้ได้ หากเก่งจริง ระบุว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองไทยได้ก้าวเข้าสู่ภาวะจลาจลเมื่อผู้ประท้วงนับหมื่นคนได้เข้าล้อมรัฐสภาเพื่อขับไล่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นหุ่นเชิดของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
และนับตั้งแต่ถูกขับจากอำนาจจากทหารเมื่อปี 2549,วีซ่าอังกฤษถูกถอดถอน,ถูกภรรยาหย่าและถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี ในข้อหาคอรับชั่น นับเป็นครั้งแรกที่พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์แก่"Arabian Business"ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา
โดยรายงานชี้ว่า
พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าแน่มาก เพราะหากเขารู้ถึงแรงกดดันรอบตัวที่มีเขา เขาก็คงไม่มานั่งให้สัมภาษณ์แก่สื่ออาหรับฉบับนี้ โดยหลังจากถูกอังกฤษถอดถอนวีซ่า และประเทศตะวันตกบางแห่งซิ่งหนีจากเขา จากที่เคยถูกเชิดชูว่าเป็นพันธมิตรยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย มาวันนี้ สิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ ทำก็คือ ยักไหล่ไม่แยแส
ทักษิณลั่นเชื่อมั่นสักวัน จะต้องกลับมาเป็นนายกฯอีก ซัดประเทศไทยถูกรัฐประหารโดยตุลาการ
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงชะตากรรมไร้บ้านของเขาอย่างไม่แยแสแม้แต่น้อย บอกว่า
"คุณรู้ไหม โลกนี้มีแก่ประเทศ 197 ประเทศ แต่มีแค่ 27 ประเทศเท่านั้นที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย"
เขาพูดพร้อมยิ้มบาง ๆ
"ถึงอย่างนั้น มีแค่ 10 ประเทศที่เอาจริง ดังนั้น อย่าวิตกกับผมเลย ผมยังมีหลายประเทศที่จะอยู่ได้
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังพูดถึง"อนาคต"ของเขา ที่จะกลับไปเล่นการเมืองไทยอีกรอบว่า
"ไม่กี่เดือนมานี่เป็นช่วงเวลาที่ยุ่ง และจะยุ่งมากขึ้น เมื่อเขาเตรียมกลับไปเล่นการเมือง เพื่อจัดการแก้ปัญหาความยากจน"
แต่เมื่อถามว่า เขาคิดอย่างไรที่จะ"กลับเมืองไทย"เมื่อพิจารณาถึงการถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ไม่นับรวมการมีศัตรูอีกเป็นบัญชียาว ซึ่งมันอาจไม่ใช่การตัดสินใจที่ฉลาดนัก พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า เขาไม่มีทางเลือก เพราะเขาถูกขับจากอำนาจตั้งแต่แรก ภรรยาของเขาห้ามเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เธอไม่ชอบการเมือง ส่วนครอบครัวเขาผ่านช่วงเวลาอันลำบากมาแล้ว
แต่อดีตนายกฯผู้นี้บอกว่า
เขาห่วงเมืองไทยที่กำลังจมดิ่งถลำลึก ความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติไม่ได้อยู่ในเมืองไทยอีกแล้ว และคนจนก็กำลังอยู่ในภาวะยากจน และสำหรับเขาถือหางเสือที่สามารถนำความเชื่อมั่นคืนสู่เมืองไทยได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเขาจึงค้นหากลไกลที่จะทำให้เขาเองกลับประเทศได้
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ ภรรยาเขาคิดว่าอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวห้วน ๆ อย่างตัดบท ชนิดไม่ต้องถามต่ออีกว่า"เธอหย่ากับผม"
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อไปว่า เขายอมรับว่า
การกลับไปเล่นการเมืองในประเทศเป็นเรื่อง แต่เขาเชื่อว่า"เวลาอยู่ข้างผม"และว่า เขาสามารถอยู่ที่นี่(สหรัฐอาหรับอิมิเรสต์)เพื่อทำธุรกิจ มีความสุขกับชีวิตได้ แต่ผมต้องกลับประเทศเพื่อประชาชนที่สนับสนุนผม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจนและคนชั้นกลาง
แต่เขาจะสามารถกลับไปเป็นนายกฯได้หรือ เรื่องนี้ทักษิณพูดอย่างคนหัวใจแกร่ง ไม่ไหวหวั่นว่า มันต้องเป็นไปได้
อดีตนายกฯไทยผู้นี้อ้างว่า "รัฐประหารยังคงอยู่ที่นี่ มันกลายรูปจากการรัฐประหารโดยทหาร เป็นการรัฐประหารโดยตุลาการ "
เขาว่า "ผมคิดว่านี่ขึ้นอยู่กับอำนาจของประชาชน หากพวกเขารู้สึกว่า ตัวเองกำลังลำบาก และต้องเขาจะให้ผมช่วยเหลือ ผมก็จะกลับ(ไปเล่นการเมืองใหม่)
"หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคิดว่า ผมยังมีประโยชน์ เขาก็จะกลับ ซึ่งพระองค์อาจจะทรงให้อภัยโทษแก่ผม แต่หากไม่ หากประชาชนไม่ต้องการเขา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคิดว่า เขาไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ผมจะอยู่ทำธุรกิจที่นี่ ใช้ชีวิตกับเพื่อนกับฝูง "
"Arabian Business" บอกว่า
ทุกวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในประเทศอาหรับที่เขามีความสัมพันธ์ใกลชิดด้านธุรกิจและผู้นำการเมือง
เขารู้สึกว่า ตัวเองได้รับการต้อนรับอย่างดี ไม่เหมือนในอังกฤษ ซึ่งหลายคนรู้สึกประหลาดใจว่า ทำไมรัฐบาลอังกฤษถอนวีซ่าเขา แต่ครั้งนี้ เขาพูดถึงอังกฤษอย่างค่อนข้างเลือกสรรคำพูด แต่ก็ยังคงมีท่วงทำนองไม่พอใจต่อการปฎิเสธ
เขา บอกว่า
เขาคิดว่าอังกฤษน่าจะเข้าใจว่าเขาเป็นเหยื่อการรัฐประหาร แม้จะผ่านการตัดสินของศาลก็ตาม และว่าสักวันหนึ่ง อังกฤษจะต้องเข้าใจเรื่องนี้ แต่รู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่ทำกับเขา เพราะอังกฤษไม่ยอมรับหลักประชาธิปไตยของตัวเอง