หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าช่วงเย็นถึงค่ำวันที่ 1 ธ.ค. เกิดปรากฏการณ์พระจันทร์ยิ้มหรือ Earth shine
มีดาวศุกร์ อยู่เคียงกับดาวพฤหัสบดีและมีดวงจันทร์เสี้ยวอยู่ด้านล่าง มองเห็นด้วยตาเปล่าบนท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกค่อนไปทางใต้ เมื่อมองดูในภาพรวมแล้วดูเหมือนหน้าคนยิ้ม เกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต นักดาราศาสตร์หอดูดาวบัณฑิต จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ดาวพฤหัสบดีกับดาวศุกร์โคจรเข้ามาใกล้กันมาก อยู่ห่างกันเป็นระยะเชิงมุมเพียง 2 องศา และมีดวงจันทร์เสี้ยวขึ้น 3 ค่ำ อยู่ข้างล่างดาวทั้ง 2 เมื่อมองขึ้นไปแล้วจะดูเหมือนหน้าคนยิ้ม สำหรับปรากฏการณ์Earth shine คือปรากฏการณ์แสงอาทิตย์ส่องมายังโลก สะท้อนไปยังดวงจันทร์ ทำให้ดวงจันทร์ขึ้น 3 ค่ำ เห็นเป็น เสี้ยวกับเห็นเต็มดวง สามารถถ่ายภาพได้ด้วยกล้องถ่ายภาพทุกชนิด ปรากฏการณ์นี้มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าตั้งแต่เวลา 17.40 น. จนถึง 20.30 น.
ส่วนคนในวงการโหราศาสตร์คือนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์กล่าวว่า ดาวพฤหัสฯและดาวศุกร์เคียงคู่กับพระจันทร์
ขณะที่ดาวพุธขนาบข้างกัน ถือว่าเป็นการรวมตัวของดาวพระเคราะห์ให้คุณ ตีความหมายได้ว่าเหมือนดาวฝ่ายดีมาชุมนุมอย่างพร้อมเพรียงกันในช่วงต้นราศีมังกร ราศีธนูและราศีพิจิกซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนานๆครั้ง เป็นการรวมตัวของคนดีมีความรู้ ซึ่งเดิมคนกลุ่มนี้เก็บตัวเงียบ แต่จะมีการแสดงบทบาทออกมาให้เห็นมากขึ้น และการมาเคียงคู่กับดาวจันทร์จะเป็นตัวกระตุ้นเร่งทำให้ดาวพฤหัสฯกับดาวศุกร์ ซึ่งเป็นดาวฝ่ายดีเร่งให้คุณประโยชน์มากขึ้น
นายภิญโญกล่าวต่อว่านอกจากดาวฝ่ายดีจะมารวมตัวกันแล้ว ยังมีดาวบาปพระเคราะห์อีกหลายดวงเช่นดาวมฤตยูและราหูขนาบดาวพระเคราะห์
ในลักษณะบีบหน้าบีบหลัง จะส่งผลให้ดาวศุภเคราะห์ที่ให้คุณแสดงบทบาทได้ยาก จะทำให้อึดอัดถูกขัดขวาง นอกจากนี้ดาวพระเสาร์ที่ให้โทษอยู่ในราศีสิงห์อย่างโดดเดี่ยว แสดงถึงปัญหาอุปสรรคยังมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้ ความทุกข์ยาก อุบัติเหตุ ภัยพิบัติจะยังมีเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในวัน 4 ธ.ค. ดาวพฤหัสฯในราศีธนูจะยกเข้าราศีมังกร จะทำให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองออกมาแสดงบทบาท ห้ามปรามชี้แนะ เปรียบได้เหมือนกับพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ออกมาห้ามความยุ่งเหยิงให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่นายลักษณ์ เรขานิเทศ หรือหมอดูฟันธง เลขาธิการสถาบันพยากรณ์ศาสตร์ กล่าวว่า ได้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐหน้าความรู้การศึกษาทราบว่าเป็นปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือน
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พ.ย. เป็นวันจันทร์ดับ พระจันทร์โคจรทันพระอาทิตย์ ในราศีพิจิก ทำให้คนเกิดความหดหู่เศร้าใจ เมื่อตรวจสอบมาถึงวันที่ 1 ธ.ค. มีดาว 3 ดวง โคจรสัมพันธ์กันคือดาวจันทร์ ดาวพฤหัสฯและดาวศุกร์ โคจรร่วมกันในราศีธนู ทางดาราศาสตร์เห็นว่าอยู่ใกล้กันมากที่สุดซึ่งเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมาเคยโคจรใกล้กันมาแล้วและจะมีอีกครั้งในเดือน พ.ค.2554 โดยดูตามปฏิทินดาราศาสตร์ของ พล.ต.บุนนาค ทองเนียม นักคำนวณปฏิทินซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการโหร
สำหรับปรากฏการณ์ครั้งนี้มีจุดที่น่าสังเกตทางโหราศาสตร์คือเป็นจุดศุภฤกษ์หรือจุดมงคลของดวงเมืองประเทศไทย
ถ้าวิเคราะห์ว่าดาวพฤหัสฯ คือ พระ นักปราชญ์ ครู บัณฑิต กลุ่มนักกฎหมาย ตุลาการ เป็นบุคคลที่สังคมเชื่อถือยอมรับ ดาวศุกร์เป็นตัวแทนของบ้านเมืองเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การคลังและปากท้องชาวบ้าน ส่วนพระจันทร์คืออารมณ์ ความรู้สึกประชาชนหรือตัวแทนคนไทย ดาว 3 ดวง โคจรมาเจอกันและใกล้กันมากตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. เวลา 07.25 น. จนถึงเวลา 19.06 น. วันที่ 1 ธ.ค. และจะคงสภาพอิทธิพลนี้ไปข้างหน้าอีก 7 วัน
สภาพดังกล่าวจะส่งผลกับประเทศไทยคือ จะมีทาง ออกของปัญหาภายใน 7 วันนี้แน่นอนขอฟันธง คนไทยจะมีความหวัง สบายใจ เห็นทางออก ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับดิน มีแต่บรรยากาศความขัดแย้ง การล่มสลาย การนองเลือด การจ้องทำลายกัน แต่เมื่อเกิดปรากฏการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีน่าชื่นใจ ขณะเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชคือสมเด็จพระพุฒาจารย์ นำพระสงฆ์ ทั่วประเทศสวดชัยมงคลคาถาที่พุทธมณฑลและให้ พระสงฆ์ทุกวัดสวดพร้อมกันจนถึงวันที่ 7 ธ.ค. โดยเฉพาะวันที่ 4 ธ.ค. สมเด็จเกี่ยวจะนำสวดที่วัดพระแก้ว
“ขอให้คนไทยทุกคนสวดมนต์ไปพร้อมๆกันทุกวัน และคิดดี ทำดี พูดดี อโหสิกรรม ที่ประเทศเราเป็นเช่นนี้เพราะกรรมเก่าของชะตาเมืองที่ในอดีตเคยไปทำสงคราม เกิดการบาดเจ็บล้มตายพลัดพรากทั้งของเราและของศัตรูทำให้คนไทยแตกแยกทางอารมณ์ อยากให้ ฉวยโอกาสดวงดาวและฟ้าเปิด อโหสิกรรมแผ่เมตตา รับรองว่าจะพลิกวิกฤติเป็นโอกาสจากร้ายเป็นดี ให้เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระ นักปราชญ์ ตุลาการ ศาล แล้วบ้านเมืองจะไปดีสงบสุข ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ฟันธง ผมดูตามดวงดาว ไม่เข้าข้างใคร” หมอลักษณ์กล่าวในท้ายสุด