นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เช็กอินที่ศูนย์ไบเทค บางนาเพียบ หลัง ทอท.เปิดให้บริการได้แล้วตั้งแต่เช้าวันที่ 1 ธ.ค. การบินไทยเปิด 32 เที่ยวบินทั้งขาออก-ขาเข้า คาดวันแรกส่งกลับนักท่องเที่ยวได้ 4-5 พันคน ด้านสายการบินต่างชาติส่งเครื่องลงที่ภูเก็ต รับคนของตัวเองกลับบ้าน
หลังจากปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้โดยสารชาวต่างชาติตกค้างไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้จำนวนมาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พยายามประสานไปยังทุกหน่วยงาน ทั้งสายการบินต่างๆ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อแก้ปัญหาเป็นการชั่วคราว โดยขณะนี้ ทอท.สามารถเปิดเช็กอินสำหรับชาวต่างชาติ เพื่อไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินอู่ตะเภาได้แล้ว
ทอท.ได้ใช้ศูนย์แสดงสินค้า นิทรรศการ และการประชุมไบเทค บางนา เพื่อให้บริการเช็กอิน โดยเริ่มเปิดบริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคการให้บริการที่ล่าช้าของสนามบินอู่ตะเภา ที่มีผู้โดยสารหนาแน่นได้ในระดับหนึ่ง โดยที่ไบเทคจะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ผู้โดยสารชาวต่างชาติสามารถตรวจสอบเส้นทางและการเดินทางได้ที่ไบเทค หรือโทร.0-2749-3974, 0-2749-3982
รายละเอียดของจุดเช็กอินที่ไบเทคนั้น ทอท.และการบินไทยได้จัดเคาน์เตอร์เช็กอิน 37 เคาน์เตอร์ ทีจี 20 เคาน์เตอร์ บางกอกไฟลท์เซอร์วิส 7 เคาน์เตอร์ การบินกรุงเทพ 4 เคาน์เตอร์ เคาน์เตอร์ทั่วไป 6 เคาน์เตอร์ นอกจากนี้ยังมีเคาน์เตอร์ตรวจหนังสือเดินทาง 20 เคาน์เตอร์ 40 ช่องตรวจ และจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่สายการบินเป็นสำนักงานให้บริการแก่สายการบินต่างๆ จัดเตรียมเอกสารปฏิบัติการมีจุดตรวจค้นผู้โดยสาร 2 จุด จุดละ 2 เครื่อง รวมทั้งจุดอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารรองรับได้ครั้งละ 300 คน เช่น ร้านค้า เคาน์เตอร์บัตรโดยสาร เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เคาน์เตอร์ศุลกากร และบริการทางการแพทย์ ที่ผ่านมา ทอท.ได้นำเครื่องเอกซเรย์สัมภาระ 4 เครื่อง มาเปิดบริการที่ไบเทค รวมทั้งนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาให้บริการ เช่น เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายพานลำเลียงแล้วจำนวนหนึ่ง
ส่วนบรรยากาศหลังเปิดให้บริการตั้งแต่ 07.00 น. พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจุดเช็กอินที่ไบเทคจะเป็นจุดสุดท้าย หลังจากผู้โดยสารเช็กอินแล้วเสร็จก็จะมีรถโดยสารรับส่งไปขึ้นเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภา ตลอดวันนี้จะมีเที่ยวบินให้บริการทั้งสิ้นรวม 17 เที่ยวบิน แบ่งเป็นการบินไทย 8 เที่ยวบิน อีวีเอ แอร์เวย์ส 3 เที่ยวบิน บางกอก แอร์เวย์ส 1 เที่ยวบิน แอร์เอเชีย 1 เที่ยวบิน นกแอร์ 2 เที่ยวบิน ไชน่า เซาเทิร์นแอร์ไลน์ 1 เที่ยวบิน ดรุค แอร์ไลน์ 1 เที่ยวบิน รวมทั้งสิ้น 17 เที่ยวบิน
ประกาศงดใช้สุวรรณภูมิต่อ
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงการเคลื่อนย้ายเครื่องบินที่ตกค้างอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิจำนวน 88 ลำ ว่า ตั้งแต่เวลา 24.00 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน มีเครื่องบินทยอยบินออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วกว่า 30 ลำ โดยจะเคลื่อนย้ายเครื่องบินทั้งหมดออกภายในวันที่ 1 ธันวาคม แต่ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของเครื่องบิน นักบิน และสายการบินด้วย อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะระบุว่าสามารถใช้สนามบินได้ปกติก็มองว่ายังจำเป็นต้องประกาศงดการให้บริการจนถึงเวลา 18.00 น. เนื่องจากมีการชุมนุมทำให้การทำงานลำบาก และอาจเกิดความไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาดังกล่าวจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งร่วมกับสายการบินต่างๆ และจะประกาศให้ผู้ปฏิบัติงานทางอากาศทราบต่อไป
นอกจากนี้ คงต้องพิจารณาความเสียหายภายในอาคารผู้โดยสาร ต้องเข้าไปตรวจสอบก่อน หากจะเปิดให้บริการใหม่ต้องมีการเตรียมการในลักษณะเดียวกันกับการเปิดสนามบินใหม่ เพราะที่ผ่านมาทุกระบบสนามบินถูกหยุด เพื่อความปลอดภัย เครื่องไม้เครื่องมือ ระบบต่างๆ ต้องได้รับการตรวจสอบและทดสอบ เนื่องจากหากเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้วจะไม่สามารถหยุดให้บริการได้
รายงานแจ้งว่า เครื่องบินที่ค้างอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมด 88 ลำ เป็นเครื่องของสายการบินต่างประเทศ 12 ลำ และเครื่องของการบินไทย 26 ลำ สายการบินแอร์เอเชีย 16 ลำ ขณะนี้ทุกสายการบินเริ่มนำเครื่องออกแล้ว ล่าสุดสามารถนำเครื่องบินขึ้นจากสุวรรณภูมิกว่า 40-50 ลำแล้ว
ส่งนักท่องเที่ยวกลับ4-5พันคน
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้มาตรวจจุดเช็กอินที่ไบเทค บางนา กล่าวว่า การดำเนินการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่ช่วงเช้า รวมทั้งหมด 17 เที่ยวบิน มั่นใจว่าจะสามารถส่งนักท่องเที่ยวเดินทางกลับประเทศได้ไม่น้อยกว่า 4-5 พันคน และจำนวนการรองรับผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณในแต่ละวัน ตามเที่ยวบินที่เพิ่มสูงขึ้น โดยศูนย์ที่ไบเทคจะให้บริการอย่างน้อย 10 วัน เพื่อส่งนักท่องเที่ยวจนหมด และจากสถานการณ์ขณะนี้น่าจะส่งนักท่องเที่ยวได้หมดก่อน 10 วัน
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการบินไทยและ ทอท. ในการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวขึ้นเครื่อง โดยหลังจากเช็กอินที่ไบเทค บางนาแล้ว จะมีรถนำส่งถึงตัวเครื่องได้เลย ไม่ต้องผ่านขั้นตอนเอกสารอีก
นายวีระศักดิ์กล่าวต่อว่า คนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศและตกค้างไม่สามารถกลับประเทศได้ จากการประเมินเชื่อว่าจะมีมากกว่า 1 หมื่นคน หลังจากนี้เครื่องบินของการบินไทยที่บินไปยังประเทศต่างๆ จะไม่บินเครื่องเปล่ากลับ แต่จะทยอยรับคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวจึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ญาติของผู้โดยสารที่ตกค้างในต่างประเทศติดต่อขอให้คนไทยในต่างประเทศแจ้งที่อยู่และรายงานตัวต่อสถานทูต สถานกงสุล และสายการบินที่ตนเองถือตั๋วโดยสารอยู่ เพื่อเตรียมการเดินทางกลับ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า สำหรับคนไทยที่ตกค้างในต่างประทศรัฐบาลจะดูแลค่าใช้จ่ายให้วันละ 2,000 บาทเช่นเดียวกัน
บินไทยให้บริการ32เที่ยวบิน
ด้าน บมจ.การบินไทย ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม บริษัทได้จัดเที่ยวบินพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่ได้รับการยืนยันการเดินทางจากกองสำรองที่นั่ง จำนวนทั้งสิ้น 32 เที่ยวบิน เช่น เที่ยวบินขาออก จากท่าอากาศยานอู่ตะเภา 13 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ 1 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออกจากท่าอากาศยานหาดใหญ่ 2 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออกจากท่าอากาศยานภูเก็ต 1 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาเข้า ท่าอากาศยานอู่ตะเภา 14 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาเข้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ต 1 เที่ยวบิน
สำหรับผู้โดยสาร (เฉพาะที่ได้รับการยืนยันการเดินทาง) ที่จะเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาขอความกรุณาให้ผู้โดยสารเดินทางไปขึ้นรถและตรวจสอบเอกสารการเดินทาง (พรีเช็ก) ณ บริเวณล็อบบี้โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ (สี่แยกราชประสงค์) ก่อนเวลาเครื่องบินออกอย่างน้อย 5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาในการเดินทางไปยังสนามบินอู่ตะเภา ผู้โดยสารที่ต้องการสอบถามข้อมูลด้านบัตรโดยสารหรือสำรองที่นั่งหรือเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2356-1111 หรือสอบถามข้อมูลทั่วไป ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2545-4000 หรือ www.thaiairways.com
นอกจากนั้น การบินไทยยังประกาศให้ผู้โดยสารที่จองตั๋วก่อนวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และเดินทางระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน-31 ธันวาคม 2551 ให้มาติดต่อสำนักงานจำหน่ายบัตรโดยสารของการบินไทยทั้ง 3 แห่ง คือ สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต สำนักงานเขตหลานหลวง และอาคารบียูไอ สีลม ซึ่งอยู่เยื้องกับอาคารเอไอเอ ถนนสุรวงศ์ หากมีข้อสงสัยติดต่อได้ที่หมายเลข 0-2356-1111 หรือ 0-2545-4000
บางกอก แอร์เวย์สเพิ่มเที่ยวบิน
สายการบินบางกอก แอร์เวย์สเปิดให้บริการเที่ยวบินพิเศษหลายเส้นทางระหว่างวันที่ 1 และ 2 ธันวาคมนี้ โดยมีเที่ยวบินออกจากท่าอากาศยานหัวหินวันละ 2 เที่ยว ไปยังท่าอากาศยานสมุย เพื่อเชื่อมต่อกับเที่ยวบินสู่สิงคโปร์หรือฮ่องกง สำหรับเที่ยวบินทั้ง 2 เที่ยวจะออกจากท่าอากาศยานหัวหินเวลา 14.00 น. และเวลา 17.00 น. โดยผู้โดยสารสามารถต่อเครื่องบินไปสิงคโปร์ในเที่ยวบินปกติเวลา 16.35 น. หรือเที่ยวบินเสริมเวลา 20.30 น.ได้
ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารที่ต้องการจะต่อเครื่องไปฮ่องกงก็สามารถเดินทางได้ในเที่ยวบินเสริมเวลา 22.00 น. หรือในเที่ยวบินปกติเวลา 11.35 น.ของวันถัดไป ส่วนผู้โดยสารจากสิงคโปร์ก็สามารถเดินทางเข้ามายังท่าอากาศยานสมุยได้ด้วยเที่ยวบินปกติเวลา 20.10 น. หรือเที่ยวบินเสริมเวลา 01.30 น. และผู้โดยสารจากฮ่องกงก็สามารถเดินทางมายังท่าอากาศยานสมุยกับเที่ยวบินปกติเวลา 17.05 น. หรือเที่ยวบินเสริมเวลา 04.00 น. เพื่อมาต่อเครื่องเวลา 15.30 น. หรือ 18.30 น. เข้าสู่หัวหิน
ทั้งนี้ สายการบินบางกอก แอร์เวย์สได้จัดรถไว้บริการผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางในเที่ยวบินดังกล่าว โดยรถจะออกจากอาคารสำนักงานใหญ่ เลขที่ 99 อาคารทับวิภา ถนนวิภาวดีรังสิต 4 ชั่วโมงก่อนเวลาของเที่ยวบิน นอกจากนี้ ทางสายการบินยังจัดให้มีเที่ยวบินระหว่างอู่ตะเภา-เสียมราฐ อู่ตะเภา-มัลดีฟส์ อู่ตะเภา-กุ้ยหลิน อู่ตะเภา-สมุย และอู่ตะเภา-ภูเก็ตด้วย สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.1771 หรือ 0-2265-8777 หรือเว็บไซต์ www.bangkokair.com
ขณะที่สายการบินไทยแอร์เอเชียยังคงยกเลิกเที่ยวบินที่จะขึ้น-ลงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศทุกเที่ยวบิน รวม 106 เที่ยว ผู้โดยสารตรวจข้อมูลตารางการบินล่าสุดได้ที่ www.airasia.com และขอเลื่อนกำหนดการเดินทางโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลข 0-2515-9999 ตลอด 24 ชั่วโมง
ร้อง ตร.เร่งคลี่คลายสถานการณ์
ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำนวนกว่า 200 คน นำโดย น.ส.ฤทัย คำหอม อายุ 25 ปี พนักงานบริษัทไทยจัดการลองสเตย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้นำน้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มามอบให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อไปแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลการชุมนุม
น.ส.ฤทัย กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมออกจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยเร็ว เนื่องจากพนักงานที่ทำงานในสนามบิน ทั้งแม่บ้าน พนักงานทำความสะอาด พนักงานขับรถ บริษัทต่างๆ พนักงานร้านขายของภายใน หลายพันคนได้รับความเดือดร้อน หลายคนมีครอบครัวต้องเลี้ยงดู ไม่ได้ทำงานก็ไม่มีรายได้ และหลายคนอาจต้องตกงาน อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้ตำรวจและคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว
ขณะที่กลุ่มตัวแทนพนักงานขับรถในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดพวกตนเดือดร้อนมาก บางคนมีรายได้รายวันหายไปวันละประมาณ 700 บาท ตอนนี้หยุดงานไป 7 วันแล้วรายได้ไม่มี ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน
ส่งเครื่องรับคนฝรั่งเศส-ดัตช์ที่ภูเก็ต
ส่วนความเคลื่อนไหวของประเทศต่างๆ ในการช่วยเหลือคนของตัวเองที่ตกค้างอยู่ในประเทศไทยนั้น ล่าสุด หลายประเทศได้ส่งเครื่องบินมารับคนของตัวเองมากขึ้น โดยขยายไปใช้ท่าอากาศยานภูเก็ต นอกเหนือจากที่อู่ตะเภา ซึ่งมีขนาดเล็ก และไม่สามารถรองรับคนเป็นจำนวนมากได้
ทั้งนี้ สายการบินแอร์ฟรานซ์ ของฝรั่งเศส และสายการบินเคแอลเอ็ม ของเนเธอร์แลนด์ เป็น 2 สายการบินที่นำเครื่องมารับนักท่องเที่ยวที่ตกค้างในไทยออกจากท่าอากาศยานภูเก็ต โดยเที่ยวบินแรกของเคแอลเอ็มเดินทางออกจากภูเก็ตสู่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันจันทร์ ส่วนเครื่องบินของแอร์ฟรานซ์เดินทางจากภูเก็ตสู่กรุงปารีสช่วงค่ำวันอังคาร
นอกเหนือจากเครื่องบินของแอร์ฟรานซ์แล้ว ทางการฝรั่งเศสยังส่งเครื่องบินลำเลียงมารับคนของตัวเองกลับด้วย นอกจากนี้ยังส่งคณะจัดการวิกฤติมาช่วยเจ้าหน้าที่สถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยทำงาน รวมถึงคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมากับเที่ยวบินนี้ด้วย
คนฮ่องกงกลับบ้านแล้วกว่าพัน
ส่วนนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงที่ติดค้างในไทยได้ทยอยเดินทางกลับบ้านด้วยเที่ยวบินพิเศษแล้ว หลังติดอยู่ในประเทศไทยหลายวัน โดยเที่ยวบินพิเศษของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ออกเดินทางออกจากฮ่องกงมารับผู้โดยสารชาวฮ่องกง 380 คน กลับตั้งแต่ช่วงเย็นวันอาทิตย์ พร้อมเพิ่มเที่ยวบินพิเศษกลับไปยังสนามบินอู่ตะเภาอีกในวันจันทร์ ขณะที่สายการบินดรากอนแอร์ก็เพิ่มเที่ยวบินพิเศษจากภูเก็ตไปยังฮ่องกง เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเช่นกัน ทำให้มีชาวฮ่องกงเดินทางกลับบ้านด้วยเที่ยวบินพิเศษจากสนามบินอู่ตะเภาแล้วมากกว่า 1,100 คน
ส่วนสายการบินแควนตัสของออสเตรเลีย ก็จัดเที่ยวบินพิเศษอีกลำมารับนักท่องเที่ยวกลับในวันจันทร์ โดยนำเครื่องลงจอดที่ภูเก็ตแทน แล้วบินผ่านทางสิงคโปร์ เพราะสถานการณ์ที่อู่ตะเภาเต็มไปด้วยความโกลาหล นอกจากนี้ นายสตีเฟน สมิธ รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย ยังกล่าวด้วยว่าจะกดดันเจ้าหน้าที่สายการบินไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยต่อไปให้ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการปิดสนามบินทั้งสองแห่ง
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศรัสเซียแนะนำคนรัสเซียที่เดินทางมาไทยให้แจ้งข้อมูลที่อยู่ต่อสถานทูตรัสเซียในกรุงเทพฯ โดยระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์ที่วุ่นวายในไทย ประกอบกับการที่นักท่องเที่ยวรัสเซียยังเดินทางมาไทยอย่างต่อเนื่อง กระทรวงต่างประเทศจึงแนะนำให้ชาวรัสเซียรายงานข้อมูลที่อยู่ในไทยต่อแผนกกงสุลของสถานทูตรัสเซียในกรุงเทพฯ
นักจักรยานชื่อดังติดค้างในไทย
ด้านหนังสือพิมพ์สกอตส์แมนในอังกฤษ รายงานการเปิดเผยของนายริกกี้ โคแวน ตัวแทนของนายคริส ฮอย นักปั่นจักรยานชื่อดังของสหราชอาณาจักรที่ระบุว่า นายฮอย และแฟนสาวคือหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทยจากการประท้วงปิดสนามบิน โดยหลังจากได้รับการติดต่อจากบริษัทขนส่งชื่อดังอย่างดีเอชแอล โลจิสติกส์ หนึ่งในสปอนเซอร์ของนายฮอย นักปั่นจักรยานชื่อดังจึงสามารถบินออกจากเกาะภูเก็ตไปยังสิงคโปร์ได้
บนเว็บไซต์ส่วนตัวของนายเดวิด ฮอย บิดานักของนักปั่นชื่อดังเจ้าของ 4 เหรียญทองโอลิมปิกเผยว่า หลังจากชัดเจนว่าไม่มีเที่ยวบินออกจากกรุงเทพฯ จึงมองหาทางเลือกซึ่งรวมถึงการเดินทางด้วยรถไฟเป็นเวลา 2 วัน หรือขับรถเป็นระยะทาง 1,900 กิโลเมตร เพื่อหาทางออกจากประเทศไทย ซึ่งขณะนั้นเที่ยวบินท้องถิ่นของไทยถูกจองเต็มนานเป็นสัปดาห์แล้ว โชคดีที่นายกาย เอลเลียต ประธานบริหารดีเอชแอลทราบเรื่อง จึงติดต่อบริษัทท้องถิ่นที่สามารถนำนายฮอยเดินทางไปสิงคโปร์ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนจะต่อเครื่องไปยังนครแฟรงก์เฟิร์ตในเยอรมนีและไปยังเกาะมายอร์กาในสเปน เพื่อพบกับสปอนเซอร์อีกรายหนึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา