ท่องเที่ยวพัง ล้านคนตกงาน ต่างชาติวูบ7ล.คน

ความโกลาหลยังคงเกิดขึ้นกับการคมนาคมทางอากาศของไทยไม่หยุด หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงยึดท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และคนไทยตกค้างไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้ ขณะที่คนที่จะเดินทางเข้าประเทศก็มาไม่ได้ เพราะไม่มีสนามบินให้นำเครื่องลง

 

รัฐถกหาทางเยียวยานักท่องเที่ยว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ และนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางเยียวยาช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ตกค้างอยู่ในประเทศไทย และกรณีของคนไทยที่ไม่ สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ในช่วงที่สนามบินสุวรรณภูมิถูกผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯบุกยึดปิดล้อมพื้นที่สนามบินตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา การหารือครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

 

คนไทยนับหมื่นกลับบ้านไม่ได้

 

นายสมพงษ์กล่าวว่า ที่ประชุมได้เชิญตัวแทนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือว่าจะเยียวยาชาวต่างชาติที่ตกค้างในไทยอย่างไร และหาแนวทางในการขนถ่ายคนเหล่านี้เดินทางกลับสู่ประเทศมาตุภูมิได้อย่างไร รวมทั้งหาทางช่วยเหลือคนไทยจำนวนหลายหมื่นคนที่ตกค้างในต่างประเทศ เนื่องจากหลายสายการบินงดเที่ยวบินเดินทางเข้าประเทศไทย ขอยืนยันว่าเราจะพยายามแก้ ปัญหานำนักท่องเที่ยวให้สามารถออกจากประเทศไทยไปได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มีปัญหาเรื่องอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกที่ต้องใช้รองรับด้านการบิน

 

ชดเชยเบื้องต้น 1 พันล้านบาท

 

นายโอฬารกล่าวว่า การเยียวยาเฉพาะหน้า 1 เดือนข้างหน้า รัฐบาลจะอนุมัติความช่วยเหลือแก่คนทั้ง 2 กลุ่ม คือ ผู้โดยสารชาวต่างชาติที่ตกค้างในไทย และคนไทยที่ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ อาจเป็นการช่วยเหลือประมาณ 1 เดือน คาดว่าต้องใช้งบประมาณในการชดเชยเยียวยานักท่องเที่ยวประมาณ 1,000 ล้านบาท

 

ช็อก! ปีหน้าคนตกงาน 1 ล้านคน

 

นายโอฬารกล่าวด้วยว่า สำหรับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปิดสนามบินสุวรรณภูมินั้น ประมาณการได้ว่าจะทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวในปีหน้าลดลงกว่าครึ่ง คือเหลือประมาณ 7 ล้านคน เมื่อเทียบกับปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ที่คาดว่ามีจำนวน 13.5 ล้านคน และจะส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้รับผลกระทบ คาดว่าจะมีผู้ตกงานประมาณ 1 ล้านคน ถือเป็นความเสียหายที่ใหญ่หลวงมาก ดังนั้น รัฐบาลต้องหาทางเยียวยาเพื่อผ่อนปรนให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ รัฐบาลจะประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทุกด้าน เพื่อหาทางเยียวยาระยะปานกลางแก่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ และมาตรการรองรับปัญหาที่จะมีผู้ตกงาน 1 ล้านคน ในปี 2552

 

สตม.พร้อมช่วยนักท่องเที่ยว

 

วันเดียวกัน พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช. สตม. ก็กล่าวว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ประชุมหัวหน้าศูนย์ตรวจคนเข้าเมือง ทำความเข้าใจในสถานการณ์ ของประเทศ ขณะนี้ทุกคนเตรียมพร้อมในการทำหน้าที่ตรวจหนังสือเดินทางเข้า-ออกสนามบินนานาชาติทุกแห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และขอให้ ผู้โดยสารที่เดินทางเข้า-ออก ไม่ต้องกังวลว่าวีซ่าขาด จะถูกจับถูกปรับ หรือเดินทางต่อไปไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสามารถดูแลเรื่องนี้ให้ได้ตามดุลพินิจของกฎหมาย อาจขลุกขลัก และไม่รวดเร็วเท่ากับสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง เพราะขาดเครื่องไม้ เครื่องมือที่ทันสมัย ต้องทำงานเฉพาะหน้าเพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ หากสนามบินนานาชาติไหนเปิดรองรับเที่ยวบิน พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานได้ทันที

 

ผ่อนผันต่างด้าวอยู่เกินกำหนด

 

ขณะที่ ร.ต.อ.หญิงเลิศศิริ สงวนทรัพย์ รอง สว. ฝอ. 5 (ประชาสัมพันธ์) บก.อก.สตม. ว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จะทำการผ่อนผันผู้โดยสารต่างชาติที่อยู่เกินกำหนดเวลาที่ได้รับอนุญาต กรณีได้รับผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยให้ แสดงหนังสือเดินทางกับตั๋วเครื่องบินโดยสารที่ระบุวันที่เดินทางในช่วงระยะเวลาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่ สามารถเปิดให้บริการ เพื่อประกอบการพิจารณาและขออภัยในความไม่สะดวกมาถึงผู้โดยสารทุกท่าน หากมีข้อสงสัยประการใด ขอได้โปรดติดต่อที่คอล เซ็นเตอร์ 1178

 

ประสานวัดรับนักท่องเที่ยวตกค้าง

 

ส่วน พล.ต.ต.อรรถกฤษ์ ธารีฉัตร ผบก.ทท. กล่าวว่า ตำรวจท่องเที่ยวมีสายด่วน 1155 เพื่อคอยรับแจ้งและบริการนักท่องเที่ยว ได้มีการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวออกมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองออกมาหมดแล้ว แต่ปัญหาสำคัญคือเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถเดินทางไปต่อในจุดที่นัดหมายไว้ได้ ได้มีคำสั่งให้ตำรวจท่องเที่ยวช่วยเหลือประสานเจ้าของสถานประกอบการ และวัดวาอาราม เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับนักท่องเที่ยว โดยมีนโยบายให้ ดำเนินการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจนกว่าสถานการณ์การชุมนุมคลี่คลาย และให้นักท่องเที่ยวเดินทางกลับประเทศได้อย่างปลอดภัย

 

คมนาคมเร่งระบายผู้โดยสาร

 

จากนั้นในช่วงบ่าย ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม นายสุรชัย ธารสิทธิพงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ผู้บริหารการบินไทย ได้ร่วมกันประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาวิกฤติกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง จนทำให้สายการบินไทย และสายการบินอื่นๆไม่สามารถทำการบินขึ้น-ลง และขนผู้โดยสารเข้า-ออกทั้ง 2 สนามบินได้นั้น โดยนายสันติกล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติจะช่วยเร่งนำผู้โดยสารที่ยังคงตกค้างอยู่ในประเทศไทยกว่า 100,000 คน ออกจากประเทศให้ได้เร็วที่สุด เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า สนามบินที่อยู่รอบๆเมืองไทยเช่น สนามบินฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเก๊า, ฟิลิปปินส์, พม่า, ลาว, กัมพูชา และมาเลเซียที่ไม่ได้ถูกปิดเหมือนกับประเทศไทย จะเป็นประตูที่จะนำและส่งต่อผู้โดยสารออกไปได้ โดยเบื้องต้นนอกจากจะใช้สนามบินอู่ตะเภา แล้ว ได้มีการประสานงานไปยังกองทัพอากาศเพื่อขอใช้พื้นที่ บน.6 ในการให้บริการผู้โดยสารที่จะออกจากประเทศไทย และไปต่อเครื่องยังสนามบินรอบประเทศไทยต่อไป

 

ให้ต่างชาติส่งเครื่องบินรับคน

 

นายสันติกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังได้รับการติดต่อจากทูตานุทูตจากประเทศต่างๆที่มีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจของประเทศนั้นๆที่ตกค้างในประเทศไทย ได้ติดต่อประสานงานมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อขอนำเครื่องบินเช่าเหมาลำเข้ามารับประชาชนของตนเองออกจากประเทศไทยเอง

 

3 เที่ยวบินแรกเร่งออกจาก บน.6

 

นายสันติกล่าวต่อว่า สำหรับเที่ยวบินที่จะออกจาก บน.6 ในเวลา 16.00 น. เป็นต้นไปของวันที่ 29 พ.ย. 51 นั้น จะเป็น 3 เที่ยวบิน ซึ่งจะประกอบด้วยเส้นทางบิน กทม.-ฮ่องกง 1 เที่ยวบิน, กทม.-แฟรงเฟิร์ต-โคเปนเฮเกน 1 เที่ยวบิน และ กทม.-ซิดนีย์ 1 เที่ยวบิน โดยผู้โดยสารที่จะเดินทางนั้นจะเป็นผู้โดยสารที่ตกค้างอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิมาตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. และได้รับการยืนยันประสานงานเรื่องตั๋วโดยสารระหว่างกันแล้ว โดยผู้โดยสารจะมาขึ้นรถบัสพร้อมกันที่อาคารสำนักงานใหญ่ การบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต หลังจากนั้น การบินไทยจะเป็นผู้พาผู้โดยสารไปยัง บน.6  เพื่อขึ้นเครื่องบินพร้อมกันถึงตัวเครื่องเอง

 

เร่งหาสนามบินภูมิภาคส่งคน

 

รมว.คมนาคมกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานไปยังกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) เพื่อพิจารณาว่ายังมีสนามบินในภูมิภาคสนามบินใดบ้างที่สามารถรองรับเครื่องบินขนาด โบอิ้ง B737, A330-300, A340 ซึ่งเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ ทำการบินขึ้น-ลงได้บ้างเพื่อช่วยเร่งระบายผู้โดยสารที่ตกค้างให้เร็วที่สุด สำหรับสาเหตุที่ต้องหาสนามบินภูมิภาคมาช่วยเสริม เนื่องจากสนามบินอู่ตะเภาจะรับปริมาณเครื่องบินได้เพียง 10 เที่ยวบิน/วันเท่านั้น ประกอบกับมีข้อจำกัดคืออุปกรณ์ ภาคพื้นดิน เช่น เครื่องลากจูง รถลาก มีอยู่จำกัด

 

รับเสียหายรวมกว่า 1 แสนล้าน

 

“ขณะนี้การบินไทยและ ทอท.ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่าเท่าไหร่ แต่ในภาพรวมทุกภาคส่วนเชื่อว่า หากเหตุการณ์ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ ความเสียหายก็จะสูงถึง 100,000 ล้านบาทแน่นอน อย่างไรก็ตาม ได้กำชับและให้นโยบายไปยังหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.), ทอท. รวมถึงการบินไทย ว่าการเร่งระบายผู้โดยสารให้เร็วที่สุด เป็นเรื่องที่ดีแต่จะต้องคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญด้วย” นายสันติกล่าว

 

บินไทยเพิ่มขายตั๋ววันอาทิตย์

 

ด้านนายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารการบินไทยสำนักงานจำหน่ายบัตรโดยสารของการบินไทยจะเปิดจำหน่ายบัตรโดยสารแก่ผู้โดยสาร ในวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย.51 เวลา 08.00-17.00 น. ตามสถานที่ต่างๆ ดังนี้ คือ สำนักงานใหญ่ การบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต, สำนักงานการบินไทยหลานหลวง ถนนหลานหลวง, สำนักงานสีลม อาคารบียูไอ ถนนสุรวงศ์ โดยผู้โดยสารที่ต้องการสอบถามข้อมูลด้านบัตรโดยสารหรือสำรองที่นั่ง หรือเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2356-1111 หรือสอบถามข้อมูลทั่วไปติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2545-4000 หรือ www.thaiairways.com

 

มาเช็กอินได้ที่ลาดพร้าว-เซ็นทารา

 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากการบินไทยว่า ผู้โดยสารที่ประสงค์จะซื้อตั๋วโดยสาร หรือเปลี่ยนตั๋วโดยสาร สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานใหญ่การบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต, สำนักงานการบินไทยหลานหลวง ถนนหลานหลวง, สำนักงานสีลม อาคารบียูไอ ถนนสุรวงศ์ โดยผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วโดยสารแล้ว จะต้องไปเช็กอินได้ที่ 1. อาคารซิตี้แอร์เทอร์มินอล บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว  ซึ่งผู้โดยสารที่เช็กอินที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว จะต้องไปขึ้นเครื่องบินที่ บน  6 เพื่อไปต่อเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์เท่านั้น ดังนั้นจะต้องมาเช็กอินก่อนเวลาเครื่องบินออกอย่างน้อย 2 ชั่วโมง 2.ส่วนผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังเส้นทางบินอื่นๆ ตามที่การบินไทยได้จัดเส้นทางบินเพิ่มเติมขึ้นนั้น จะต้องไปเช็กอินที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งผู้โดยสารที่มาเช็กอินที่ดังกล่าวจะต้องไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินอู่ตะเภา

 

บินไทยเล็งฟ้องผู้ทำให้เสียหาย

 

นายสุรชัย ธารสิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินไทยกล่าวว่า  การบินไทยจะดำเนินการฟ้องร้องผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายเรียกค่า เสียหายที่การบินไทยต้องเป็นผู้รับภาระอยู่ในขณะนี้และเชื่อว่าองค์กรต่างๆที่ได้รับความเสียหายจะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายด้วยเช่นกัน และอาจต้องขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากรัฐบาลส่วนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมตัวเลขค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

 

ปิด “สุวรรณภูมิ” เพิ่มอีก 2 วัน

 

เวลา 16.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงปักหลักชุมนุมกันอยู่ที่หน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีทีท่าไม่ยอมสลายการชุมนุม ดังนั้น สนามบินสุวรรณภูมิจึงจำเป็นต้องประกาศงดการให้บริการขึ้น-ลงของเครื่องบินต่อไปอีก 48 ชั่วโมง จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม 2551 ขณะนี้ได้ออกประกาศแจ้งให้ผู้ ปฏิบัติงานทางอากาศ (Notice to Airmen) จึงขอให้ ผู้โดยสารงดเดินทางไปใช้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิจนกว่าจะมีการเปิดให้บริการได้ ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป สงสัยติดต่อ โทร.0-2132-1888 และ 0-2132-1882

 

ออลซีซั่นให้ นทท.กลับมาพักฟรี

 

ด้านนายพามงคล  ฉายาวิจิตรศิลป์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมออลซีซั่น สาทร กล่าวว่า ขณะนี้โรงแรมได้ให้ความช่วยเหลือกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับประเทศไม่ได้ ซึ่งเป็นผลจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะให้นักท่องเที่ยวพักฟรีและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพียงแต่ลูกค้าต้องมีตั๋วเครื่องบินและมีหลักฐานว่ากลับประเทศไม่ได้ ขณะเดียวกันกลุ่มลูกค้าของโรงแรมที่เช็กเอาต์ไปแล้วแต่กลับไม่ได้ สามารถมาพักฟรีได้เช่นกัน โดยมีห้องพัก 30% จากห้องพัก 78 ห้องไว้รองรับ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรป และจีนซึ่งโรงแรมออลซีซั่น สาทรนี้ ถือเป็นโรงแรม 3 ดาวโรงแรมเดียวในย่านสาทรที่ให้บริการฟรีกับนักท่องเที่ยว ส่วนระยะเวลาการเปิดให้บริการจะดำเนิน การไปจนกว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะเปิดให้บริการได้

 

“ผมได้รับเรื่องจากสมาคมโรงแรมแห่งประเทศไทย ให้ช่วยบริการที่พักฟรีกับนักท่องเที่ยวที่กลับประเทศไม่ได้ โดยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักตั้งแต่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะสำรองจ่ายไปก่อน หลังจากนั้น ททท.จะจ่ายให้ห้องละ 2,000 บาท สำหรับส่วนต่างที่เหลือทางโรงแรมจะรับผิดชอบเองทั้งหมด” นายพามงคลกล่าว

 

ขอ.รับปากหาเครื่องส่งผู้แสวงบุญ

 

ส่วนในการให้ความช่วยเหลือผู้แสวงบุญพิธีฮัจญ์ ที่ยังตกค้างอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิอีก 400 กว่าคนนั้น เมื่อเวลา 16.00 น. นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) เดินทางมาชี้แจงต่อผู้แสวงบุญ พิธีฮัจญ์ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับทางการซาอุดีอาระเบีย เพื่อเคลียร์เวลาให้เครื่องบินลงที่เจดดาร์ เนื่องจากช่วงนี้มีผู้แสวงบุญไปร่วมพิธีฮัจญ์กันมาก ทำให้ช่องจราจรทางอากาศหนาแน่นตลอดเวลา ซึ่งน่านฟ้าของซาอุดีอาระเบีย จะปิดช่วงเที่ยงคืนวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ในเบื้องต้นจะนำผู้แสวงบุญเดินทางด้วยรถบัสไปสนามบินอู่ตะเภา แล้วเข้าพักที่มัสยิดที่นายสุนทร สุรี อดีต ผจก.ภาค สายการบินเอมิเรตส์ สร้างไว้ที่สัตหีบ สามารถจุคนได้ 800 คน มีความสะดวกสบายแน่นอน ขณะเดียวกัน นายสุนทร สุรี อดีต ผจก.ภาค สายการบินเอมิเรตส์ ยังได้นำอาหารฮาลาลมาแจกจ่ายแก่ผู้แสวงบุญได้รับประทานกันในช่วงเย็น

 

แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า แม้จะมีการประสานงานนำรถบัสมารับผู้แสวงบุญกลุ่มนี้แล้ว แต่เมื่อถึงเวลา กลับยังไม่มีรถบัสเข้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้กลุ่มผู้แสวงบุญกลุ่มนี้ รอเก้อและเคว้งคว้างต่อไป

 

สนามบินอู่ตะเภาแน่นทะลัก

 

ส่วนบรรยากาศที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ตั้งแต่ช่วงเช้ายังคงมีเที่ยวบินต่างๆ ขึ้นลงเพื่อรับ-ส่งผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจราจรในสนามบินติดขัดเป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กม. โดยมีนักท่องเที่ยวที่มีตั๋วเดินทางแล้วยืนเข้าคิวยาวเหยียดเพื่อเช็กอินขึ้นเครื่องบินจนล้นออกมานอกอาคารผู้โดยสาร ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวที่มาซื้อตั๋วที่สนามบิน รวมแล้วมีจำนวนนับหมื่นคนจนต้องไปอาศัยอาคารข้างเคียง และพื้นที่ร่มเงาใต้ต้นไม้รอบๆเป็นที่พักผ่อน ขณะที่การรักษาความปลอดภัย ทหารเรือจากฐานทัพเรือสัตหีบจัดกำลังคุมเข้มในทุกจุด และมีการตรวจตราอย่างเข้มงวด

 

พระสงฆ์ขอบิณฑบาตให้ใช้สติ

 

พระสงฆ์รูปหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) กล่าวว่า ต้องเดินทางไปกลับระหว่างประเทศไทยและไต้หวันเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อไปเผยแพร่ธรรมะที่วัดไทยในไต้หวัน แต่ต้องมาพบการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯในลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างมาก อาตมาไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว เพราะเมื่อเกิดความเสียหายแล้ว ถึงแม้จะใช้ระยะเวลานับสิบปีก็ไม่สามารถแก้ภาพลักษณ์ของเมืองไทยให้กลับคืนมาได้  อาตมามาเข้าแถวรอเช็กอินตั้งแต่ช่วงเช้าจนกระทั่งบ่ายโมงกว่า เครื่องบินก็ยังไม่มา และก็ยังไม่ได้ฉันข้าวเช้าอีกด้วย จึงอยากขอบิณฑบาตให้ทุกฝ่ายมีสติ  อย่าเอาชนะกันโดยมีประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวประกัน

 

สั่ง จนท.ด่าน ตม.เพิ่มช่องตรวจ

 

ต่อมา พล.ต.ท.ชัชวาลย์  สุขสมจิตร์  ผบช.สตม. เดินทางมาที่สนามบินอู่ตะเภาเพื่อตรวจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมกล่าวว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจากด่าน ตม.มาบตาพุด จ.ระยอง ด่าน ตม.พัทยา และด่าน ตม.ศรีราชา จ.ชลบุรี มาให้การสนับสนุนอย่างเพียงพอหลังเกิดเหตุ พร้อมทั้งขยายด่านตรวจจาก 4 ช่องทางเป็น 8 ช่องทางภายในอาคาร และเพิ่มอีก 2 ช่องทางด้านนอกอาคาร โดยได้มีการประสานงานกับ พล.ร.อ.ศุภกร บูรณดิลก ผบ.กองเรือยุทธการ พล.ร.ต.โสภณ บุญชม ผบ.กองการบินทหารเรือ และ พล.ร.ต.สุรพงษ์ อัยสานนท์ ผอ.ท่าอากาศยานอู่ตะเภา อย่างใกล้ชิด

 

ต่างชาติชี้เป็นการก่อการร้าย

 

สำหรับในวันนี้มีสายการบินต่างชาติขึ้น-ลง เพื่อรับผู้โดยสารออกนอกประเทศจำนวน 16 เที่ยวบิน ส่วนใหญ่ ไปลงประเทศแถบเอเชีย ได้แก่ ยูเครน สิงคโปร์ ไต้หวัน มาเลเซีย จีน โอมาน นอร์เวย์ และออสเตรเลีย โดยมีเครื่องบินขาเข้าประเทศเพียง  7  เที่ยวบิน  รวมจำนวนเที่ยวบินที่ขึ้น-ลงในวันนี้ประมาณ 50 เที่ยวบิน ด้านนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่โดยสารเที่ยวบินขาเข้ามาประเทศไทยในช่วงวิกฤติปัญหาทางการเมืองกล่าวว่า ทราบปัญหาของไทยมาโดยตลอด  เพราะมีการนำเสนอข่าวออกไปทั่วโลก แต่เนื่องจากได้ซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้ก่อนจะเกิดเรื่องชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว  จึงต้องปล่อยเลยตามเลย และไม่หวั่นกลัวกับสถานการณ์ เนื่องจากปัญหาเกิดขึ้นในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนเป้าหมายที่จะเที่ยวคือ พัทยา และภูเก็ต อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่าการเมืองไทยจะถูกแก้ไขไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ติงว่ารัฐบาลควรใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดจัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุม  เพราะเหตุการณ์ยึดสนามบินเช่นนี้ทั่วโลกถือเป็นการก่อการร้ายสากล

 

ขยายเวลาปิดดอนเมืองอีก 1 คืน

 

ต่อมาในช่วงค่ำ ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร ผู้อำนวยการสนามบินดอนเมือง กล่าวว่า จากที่ไม่สามารถเจรจากับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มาปิดล้อมสนามบินดอนเมือง ให้ออกจากพื้นที่ได้นั้น ทางสนามบินดอนเมืองจึงมีมติที่จะขยายเวลาการเปิดให้บริการขึ้น-ลงของเครื่องบิน และให้บริการผู้โดยสารออกไปถึง 09.00 น. ของวันที่ 30 พ.ย. 51 หลังจากนั้นจะพิจารณาถึงความเหมาะสมอีกครั้งว่าจะเปิดให้บริการเมื่อไหร่

 

สายการบินต่างชาติเข็ดมาไทย

 

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้บริหารสายการบินว่า สายการบินส่วนใหญ่พร้อมทำตามนโยบายของรัฐบาลทันทีที่สั่งการมา แต่ก็ยอมรับว่าหลังจากจบเหตุการณ์นี้อาจต้องหยุดการบินมาประเทศไทยระยะหนึ่ง เพราะยังไม่มั่นใจว่าจะมีเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองที่อาจจะส่งผลกระทบให้เครื่องบินไม่สามารถบินได้อีก นอกจากนี้ ตนได้ประสานงานกับกองทัพเรือขอให้เลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมใช้สนามบิน (แอร์พอร์ตแท็กซ์) ของสนามบินอู่ตะเภาไปก่อน โดยสายการบินจะเป็นผู้ไปชำระให้ภายหลัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการและวันที่ 30 ธ.ค. เวลา 09.00 น. ตนจะไปออกรายการทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เพื่อชี้แจงสถานการณ์ด้านการบิน การท่องเที่ยวให้ประชาชนเข้าใจอีกครั้งและช่วงบ่ายจะเดินทางไปตรวจความพร้อมสนามบินที่จะใช้บินเพิ่มเติม

 

ขอ 747 บินรับผู้แสวงบุญ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงช่วงเย็น กลุ่มชาวไทยมุสลิมทั้งหมดก็ยังไม่ได้เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งนายปรีดา เชื้อผู้ดี รองเลขาธิการสำนักจุฬาราชมนตรี กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สาเหตุเนื่องจากสายการบินอิหร่านแอร์ไลน์ ได้ส่งเครื่องบินที่มีที่นั่งเพียง 300 ที่นั่ง มารับกลุ่มชาวไทยมุสลิมทั้ง 429 คน ทำให้ที่นั่งไม่เพียงพอ และพี่น้องมุสลิมไม่อยากเดินทางแยกกัน ตนจึงประสานไปยังอธิบดีกรมการบินพลเรือน เพื่อขอเครื่องบินโบอิ้ง 747 การบินไทย มารับผู้โดยสารจากสนามบินสุวรรณภูมิ ดังนั้น จึงอยากวิงวอนให้กลุ่มพันธมิตรฯเปิดสนามบินเพื่อให้เครื่องบินขึ้น-ลง อยากขอให้เห็นใจพี่น้องมุสลิมที่มีความตั้งใจจะเดินทางไปแสวงบุญ เพราะบางคนอาจมีโอกาสเพียงครั้งเดียวในชีวิต ขอย้ำอีกครั้งว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญของชาวมุสลิม และจะต้องไปให้ทันกำหนดภายในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ แต่หากพี่น้องมุสลิมพลาดโอกาสการไปแสวงบุญในปีนี้ กลุ่มพันธมิตรฯและแกนนำทุกคนต้องรับผิดชอบ

 

กล้วยไม้สูญ 30 ล.ต่อวัน

 

นอกจากนี้ สมาชิกสมาคมผู้ประกอบการสวนกล้วยไม้ไทย จากนครปฐม นนทบุรี และสมุทรสาคร ประมาณ 400 คน นำโดยนายพยงค์ คงอุดมทรัพย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการสวนกล้วยไม้ไทย ได้มารวมตัวกันนำดอกกล้วยไม้หลายคันรถกระบะ มาทิ้งที่หน้าพุทธมณฑลสถาน ถนนพุทธมณฑล สาย 4 ในช่วงบ่าย และเชิญสื่อมวลชนมาร่วมรับฟังปัญหาความเดือดร้อน จากกรณีม็อบพันธมิตรฯ ปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ ผู้เลี้ยงกล้วยไม้ ซึ่งส่วนมากจะส่งออกทางเครื่องบิน ไม่สามารถส่งสินค้าได้ นำความเสียหายมาให้แก่ผู้เลี้ยงกล้วยไม้ คิดเป็นค่าเสียหายตกวันละประมาณ 30 ล้านบาท จึงขอเรียกร้องให้ม็อบพันธมิตรฯเปิดสนามบินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้เพาะเลี้ยงกล้วยไม้โดยเร็ว ก่อนแยกย้ายกันกลับโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง

 

อิหร่านยื่นมือช่วยผู้แสวงบุญ

 กระทั่งเวลา 22.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานถึง การแก้ปัญหาผู้แสวงบุญชาวไทยจำนวน 480 คน จาก 3 จังหวัดภาคใต้ ที่ยังตกค้างอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิว่าก็เริ่มมีความหวังขึ้น เมื่อนายมูฮัมหมัด ทัมฮีดี อุปทูตอิหร่านประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายวรวิทย์ บารู ส.ว.ปัตตานี นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาเยี่ยมผู้แสวงบุญชาวไทย โดยนายมูฮัมหมัดมาแจ้งข่าว