เปิดเม็ดในบริษัทเครื่องไฟฟ้ามิตซูชิต้ายังขาดทุนบักโกรก-แต่หาญเป็น นายทุนหนุนกลุ่มคนเสื้อแดง

บริษัท สแกนเนอร์ ขาดทุนถึง 26 ล้านบาท แต่ไฉน"นายสมหวัง"ยังหาญกล้าประกาศตัวเป็น"นายทุน"สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงที่การชุมนุมแต่ละครั้งต้องใช้ปัจจัยจำนวนมหาศาล

ในการการแถลงข่าวของผู้ดำเนินรายการ"ความจริงวันนี้"ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11  เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์  แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มคนเสื้อแดง มีการเปิดตัว นายสมหวัง  อัสราษี นักธุรกิจ ซึ่งเป็นกลุ่มทุนสนับสนุนการเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งล่าสุดกลุ่มคนเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ในเย็นวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ท้องสนามหลวงเพื่อต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและการตัดสินยุบพรรคของศาลรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตามนายสมหวัง ไม่ยอมเปิดเผยถึงชื่อธุรกิจที่ทำอยู่และจำนวนเงินที่สนับสนุน นปช.  โดยกล่าวเพียงว่า มาร่วมด้วยใจเท่านั้น

แต่จากการตรวจสอบพบว่า นายสมหวังเป็นประธาน บริษัท สแกนเนอร์ อิเลคทริค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(SCANNER ELECTRIC INTERNATIONAL CO.,LTD. ) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อ "มิตซูชิต้า"

"มติชนออนไลน์"จึงตรวจสอบข้อมูล บริษัทดังกล่าวจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์พบว่า จดทะเบียนเมื่อวันที่   19 สิงหาคม 2539  ทุนจดทะเบียนน 45 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่  302 หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ 10290

มี นาย สมหวัง อัสราษี  เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามแทนบริษัทและเป็นผู้ถือหุ้นเกือบ 100%คือ ร้อยละ  99.9987%  

ผู้ถือหุ้นรายอื่นนาย เกรียง บาลุน นาง ชมภู มีสุวรรณ 0.0002% ไทย  นางสาว โนรี ปานกลิ่นพุฒ  นาย วีรพล พิมพ์ชัยภูมิ  นาย สมพงษ์ ศรีเนตร และนาย สุวรรณ สุวรรณวิสุทธ์  ถือหุ้นรายละ 0.0002%

สำหรับผลประกอบการของบริษัท ณ  31 ธันวาคม 2550  พบว่า บริษัทยังมีผลขาดทุนสะสมอยู่ประมาณ 16 ล้านบาท โดย  รายได้จากการขายและบริการ 187.6 ล้านบาท  ขาดทุนสุทธิ 26.2  ล้านบาท

ปี  2549  มี รายได้รวม 224.8 ล้านบาท  กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีเงินได้  3.6 ล้านบาท
 
ปี 2548 ตรวจไม่พบงบการเงิน

ปี 2547   รายได้รวม 290.9 ล้านบาท  กำไร ก่อนดอกเบี้ยและภาษีเงินได้ 3.2 ล้านบาท

ปี 2546  รายได้รวม 232.5 ล้านบาท  กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีเงินได้  2.1 ล้านบาท

นอกจากเป็นเจ้าของบริษัท บริษัท สแกนเนอร์ อิเลคทริคฯ นายสมหวังยังเป็นเจ้าของบริษัท เอส.วี.เฟลเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่  7 ธันวาคม 2544  ด้วยทุนเพียง 1 ล้านบาท  ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายส่วนผสมเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เครื่องดื่มบำรุงกำลังบรรจุกระป๋องและขวด  แต่เลิกกิจการไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่  19 เมษายน 2547

ถ้าดูแล้วบริษัท  บริษัท สแกนเนอร์ อิเลคทริคฯ  แม้มีรายได้จากการประกอบกิจการกว่า 200 ล้านบาทต่อปี แต่มีกำไรเพียงเล็กน้อย 2-3 ล้านบาท นอกจากนั้นผลประกอบกิจการในปี 2550 ยังลดลงเหลือไม่ถึง 200 ล้านบาท และขาดทุนถึง 26  ล้านบาท โดยมีขาดทุนสะสมเกือบ 20 ล้านบาท

แต่ไฉนนายสมหวังยังหาญกล้าประกาศตัวเป็น"นายทุน"สนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงที่การชุมนุมแต่ละครั้งต้องใช้ปัจจัยจำนวนมหาศาล

คำถามคือ นายสมหวังเอา"ทุน"ที่ไหนมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้
 
หรือเป็นเพียงยุทธวิธีในการล่อเป้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ต้องการให้รู้"แหล่งทุน"ที่แท้จริงว่า มาจากไหน