รองผบช.น.ซัดพธม.เป็นกองโจรสลายตร.-วางมาตรการจากเบาไปหนัก อนุพงษ์ ย้ำให้สูญเสียน้อยที่สุด


"โกวิท" กร้าวถ้าพันธมิตรฯไม่หยุดก็ต้องทำ "อำนวย" หวั่นเป็นกองโจรพุ่งสลายตำรวจ ท้าองค์กรอิสระ-ปชป.ดูใครลุยก่อน วางมาตรการจากเบาไปหาหนักแล้วค่อยขีดเส้นตาย "อนุพงษ์" เน้นให้เกิดความสูญเสียให้น้อยที่สุด

"โกวิท"เปรยถ้า"พธม."ไม่คุยก็ต้องทำ
 
เวลา 08.50 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาประชุมประเมินสถานการณ์และวางแผนดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่สนามบินดอนเมืองร่วมกับ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง รอง ผบช.น. ผบก.น.1-9 และผู้แทนทหาร โดย พล.ต.อ.โกวิทกล่าวเรื่องการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ว่าต้องดูว่าพันธมิตรจะเจรจาด้วยหรือไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าไม่เจรจาตำรวจจะทำอย่างไร พล.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า  ถ้าไม่เจรจา ก็ต้องทำ แต่ พล.ต.อ.โกวิทไม่ยอมตอบคำถามว่าทำอะไร จากนั้นเข้าประชุมในเวลา 11.00 น. ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จึงเดินทางกลับ

รักษาการ ผบ.ตร.ประชุมตร.ระดับสูงสรุปท่าที

ขณะที่ เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 20 อาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง เรียกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ 10) รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) ร่วมประชุมรายงานสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรที่ทำเนียบรัฐบาล ทำเนียบชั่วคราวดอนเมือง และที่สนามบินสุวรรณภูมิ และมีการคอนเฟอร์เรนซ์ภาพและเสียงจากกล้องทีวี ของ บช.น. บช.ภ.1 รวมทั้งภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการชุมนุม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด

เตรียมตั้ง"พงศพัศ"เป็นโฆษกตร.

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ปทีป กล่าวก่อนเข้าประชุมยืนยันว่าการทำงานของตำรวจยึดแนวทางสันติวิธี ใช้การเจรจาเป็นหลัก นอกจากนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.ปทีปสั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องประชุมติดตามสถานการณ์ด้วยกัน เวลา 10.00 น. ของทุกวันที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีกำหนดการแถลงข่าวผลการประเมินสถานการณ์เวลา 11.00 น. ของทุกวันด้วย โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.และอดีตโฆษก ตร. เป็นผู้แถลง และคาดว่าจะมีแต่งตั้ง พล.ต.ท.พงศพัศ เป็นโฆษก ตร.คนใหม่ แทน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. คนเดิม หลัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ถูกคำสั่งไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

รอง ผบช.น.ขู่ปิดแยกทั่วกรุงจับ-ยึดรถ

เวลา 12.45 น. ที่ บช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ในฐานะรองโฆษก บช.น. แถลงว่า  มีเรื่องเร่งด่วน 3 เรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง คือ 1.ตามที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรกำหนดมาตรการเพิ่มเติมว่าหากเจ้าหน้าที่เข้าไปผลักดันผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่จะตอบโต้ด้วยการนำรถจอดกีดขวางทางร่วมทางแยกสำคัญทั่วกรุงเทพฯให้เป็นอัมพาต แปลว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างที่สุด ไม่แน่ใจว่าคิดได้อย่างไร แค่คิดก็ผิดแล้ว ตรงนี้คงยอมไม่ได้ พล.ต.ท.สุชาติ ออกหนังสือไปยัง บก.น.1-9 เตรียมพร้อมนำรถยกไปจอดตามทางร่วมทางแยกสำคัญในกรุงเทพฯ จำนวน 54 แยก และจัดตำรวจประจำ ถ้ามีคนกระทำการดังกล่าวให้จับกุมและยึดรถ

"เป็นความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 229 ผู้ใดกระทำการใดๆ ในทางสาธาณะ ประตูน้ำ ทำนบ หรือทางขึ้นลงของอากาศยานอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจราจร เอารถไปจอดขวาง อย่างเมื่อตอนดึกคืนที่ผ่านมา ถนนวิภาวดีขาเข้ามี 4 ช่องทาง เอารถไปจอดขวาง 3 ช่องทางตรงจุดมืดๆ รถวิ่งมาก็ชน ถือเป็นการกระทำที่ผิดตามนี้ ผู้กระทำมีความผิดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกยึดรถด้วย"

หวั่นเป็นกองโจรมุ่งสลายตำรวจแทน

"ผมไม่อยากพูดว่าเป็นกองโจร เมื่อวานผมพูดว่าก่อการร้ายผู้สนับสนุนก็ผิดด้วย ใครส่งเงินให้ก็ผิด แล้วจะโดนกฎหมายฟอกเงินด้วย ซึ่งท้ายที่สุดผมเชื่อว่าต้องมีการดำเนินคดีด้วย ขณะนี้แทนที่เจ้าหน้าที่จะไปสลายการชุมนุมกลายเป็นว่าผู้ชุมนุมสลายเจ้าหน้าที่ ฝากวิงวอนอย่าพัฒนาไปถึงตรงนั้น ท้ายที่สุดมันต้องเลิก ไม่เลิกก็ไม่ได้"รองโฆษก บช.น.กล่าว

พล.ต.ต.อำนวยกล่าวต่อว่า 2.การที่จะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 16.00 น. ที่ท้องสนามหลวง ขอเตือนและวิงวอนต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย มาตรา 63 ชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธอย่างแท้จริง และอย่าเคลื่อนย้ายไปใกล้เคียงกัน พอมีปัญหา เจ้าหน้าที่ไม่พอเอาไม่อยู่แล้วจะมาโทษว่าเจ้าหน้าที่ไม่ทำอีก และ 3.กำลังตรวจสอบอยู่ว่าจะมีการใช้กำลังพันธมิตรไปปิดล้อม สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ แสดงว่าพยายามยั่วยุ ทำหลายแบบ

 กลัวติดบ่วงย้ำจนท.อดทนไม่รุนแรง
 
"ถนนวิภาวดี มี 4 ช่อง เขาปิด 3 ช่อง ชาวบ้านรถติดกัน มีคนขนมะพร้าวจากตลาดไทเข้ามาจตุจักรไม่ได้โกรธ เอามะพร้าวเขวี้ยงใส่กลับถูกยิง และมีชาวบ้านไม่พอใจขึ้นไปอยู่บนสะพานลอยถูกยิงมาจากข้างใน พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 ยืนยันว่ามีเหตุการณ์จริง จนชาวบ้านต้องแตกตื่นวิ่งหนี ผมยังเป็นกังวลกับเจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป อันตราย เพราะติดอาวุธแล้ว จากที่เห็นเป็นกระบองเหล็กก็ไม่ใช่แล้วเพราะกลายเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ และหลังจาก พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.3 มาแถลงข่าว เมื่อเช้านี้ด่าน บก.น.3 ที่ สน.ลาดกระบังถูกพันธมิตรตีแตก นี่มันรบทัพจับศึกหรืออะไร เพื่อไม่ให้ตำรวจตั้งด่านสกัดตรวจค้นการลำเลียงอาวุธเข้าไป มันสงบปราศจากอาวุธตรงไหน แล้วมายั่วยุให้ตำรวจใช้ความรุนแรง เจ้าหน้าที่ก็อดทนกัดลิ้นอยู่ ไม่ใช้ความรุนแรงเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นจะติดบ่วง"พล.ต.ต.อำนวยกล่าว

ให้องค์กรอิสระ-ปชป.ดูใครลุยก่อน

พล.ต.ต.อำนวยกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุชาติ ได้ทำหนังสือตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน เชิญมาหารือร่วมกันหลายหน่วยงานให้มาดูว่าใครก่อเหตุ ใครรุนแรง ใครเกินกว่าเหตุ คือ 1.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 2.ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องทุจริตและเสริมสร้างจริยธรรมวุฒิสภา 3.หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 4.ประธานกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร 5.ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ 6.นายกสภาทนายความแห่งประเทศไทย 7.ประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐสภา และ 8.ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร ถ้ายังไม่มาขอให้รีบไปดูที่ สภ.ราชาเทวะ พันธมิตรจะไปปิดล้อมแปลว่าอะไร จะไปตัดน้ำตัดไฟ จะไปบุกที่นั่นที่นี่ ใครเป็นผู้ก่อเหตุ ใครเป็นผู้เริ่มก่อน แต่อย่างไรก็ขออย่าไปทำกับประชาชน ให้มาทำกับตำรวจแทน

ร่างประกาศฉบับ2ห้ามมั่วสุม2พื้นที่

พล.ต.ต.อำนวยกล่าวอีกว่า ทั้งนี้กำลังตรวจร่างประกาศฉบับที่ 2 เป็นเนื้อหา ว่าจะห้ามอะไรบ้าง ห้ามเข้าห้ามออก ออกได้ห้ามเข้า ห้ามรถผ่าน แต่ยังไม่ประกาศถึงขนาดเคอร์ฟิวเพราะกลัวประชาชนจะเดือดร้อน คงจะเล่นเฉพาะวงแคบๆ ก่อน ซึ่งเป็นอำนาจของ ผบช.น.ใน 2 เขต คือดอนเมืองและลาดกระบัง ประกาศตรงนี้จะเป็นกฎหมาย จะถูกบังคับโดย พ.ร.ก.ตามมาตรา 9 และมาตรา 11 มั่วสุมกันตั้งแต่ 5 หรือ 10 คนก็อาจถูกจับได้ แล้วแต่ ผบช.น.กำลังพิจารณาว่าจะใช้ 5 หรือ 10 เพราะในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีให้ ผบช.น.พิจารณาตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ เป็น พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน คือต้องแก้แบบเร่งด่วน แต่มีขั้นตอน จากขอร้องวิงวอน ขอความร่วมมือและออกเป็นคำสั่ง แล้วปฏิบัติการ

ทำจากเบาไปหาหนักก่อนขีดเส้นตาย

เมื่อถามว่าเมื่อไหร่จะเข้ายึดพื้นที่คืน พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า พล.ต.ท.สุชาติ พล.ต.อ.โกวิท ร่วมหารือกันอยู่ตลอดเวลา บางเรื่องตนพูดไม่ได้ การตัดสินใจตรงนี้ต้องแยบยลและรอบคอบ แต่ท้ายที่สุดต้องเป็นไปตามกฎหมายตามขั้นตอน ทำจากเบาไปหาหนัก เมื่อวานเตือนก่อน วันนี้จะเตือนแบบเป็นข้อบังคับ และถัดไปก็จะเตือนแบบเป็นเดทไลน์ (เส้นตาย) แล้ว

เมื่อถามว่ามีแผนรองรับการใช้กำลังสลายหรือยัง พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า อย่าไปพูดถึงเรื่องการใช้กำลังสลายในตอนนี้ แต่ท้ายที่สุดถ้ามันไม่ ก็ต้องผลักดันเดี๋ยวกองทัพจะต้องเข้าร่วมด้วย ส่วนเรื่องกำลัง ผบช.น.สั่งตำรวจได้ทั่วประเทศ และเชิญทหารอากาศมาร่วมได้ ส่วนสุวรรณภูมิก็เชิญทหารเรือและข้าราชการพลเรือนด้วย แสดงว่ากำลังต้องพอ ส่วนกระแสข่าวเรื่องตำรวจจะไปปิดเอเอสทีวี พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ตำรวจคงจะปิดไม่ได้เพราะไม่มีความรู้ ถ้าจะปิดก็ต้องปิดด้วยหน่วยงานที่มีอำนาจ
 
โฆษกทบ.ปัดข่าวลอยแพทหาร

วันเดียวกัน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความพร้อมกองทัพในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ช่วยการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานตำรวจ ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินว่า จริงแล้วกองบัญชาการกองทัพไทยวางพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละเหล่าทัพไว้แล้ว ซึ่งตรงกันกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่บางคนพยายามไปตีความว่าเขาลอยแพทหาร ความจริงไม่ใช่ ไม่เกี่ยวข้องกัน วันนี้ในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิมีการร้องขอกำลังจากกองทัพบก 3 กองร้อย ได้จัดไปแล้ว ยืนยันว่าทหารพร้อมปฏิบัติงานตามคำสั่ง ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่รัฐบาลดำเนินการ เบื้องต้นเท่าที่ทราบ ที่มีการร้องขอมาเป็นภารกิจที่ไม่ได้เข้าไปสลายการชุมนุม แต่เป็นการระวังป้องกันไม่ให้มีการเพิ่มเติมผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่ ขณะเดียวกันถ้ามีผู้ที่สมัครใจจะออกจากพื้นที่ชุมนุมก็จะช่วยอำนวยความสะดวกระบายคนออก
 
 
 
เผยผบ.ทบ.ย้ำให้สูญเสียน้อยที่สุด

พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้แจ้งกับกำลังพลว่า เราเป็นกลไกของรัฐ ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ แต่ในวิถีการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง ก็ให้กำกับดูแลกันอย่างใกล้ชิดที่สุด เพื่อให้วิถีปฏิบัติเกิดความสูญเสียน้อยที่สุด แต่ขึ้นกับแผนรวมของผู้รับผิดชอบพื้นที่ มั่นใจว่า ผบช.น. และ ผบช.ภ.1 คงดำเนินการด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด เพราะเห็นว่าจะเปิดโอกาสสื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์ระหว่างการปฏิบัติด้วย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี

เมื่อถามว่า ถือว่าเป็นการปฏิเสธเสียงวิจารณ์ว่ากองทัพกำลังอารยขัดขืนคำสั่งรัฐบาล ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินใช่หรือไม่ โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ไม่แน่นอน ทหารเป็นข้าราชการประจำ ต้องคำนึง 2 ประการ คือ ต้องไม่ละเลยเพิกเฉยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่ถูกตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่าย แต่จะต้องทำทุกอย่างที่ไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่เรื่องการสลายการชุมนุมคงเป็นที่ทราบกันดีว่าตามหลักสากลเป็นอย่างไร ต้องมีผลการสูญเสียเกิดขึ้นแน่นอน แต่ทำอย่างไรให้เกิดน้อยที่สุด จึงต้องเริ่มมาตรการเบาไปหาหนักอย่างที่ ผบช.น. และ ผบช.ภ.1 แจ้งให้ทราบไปแล้ว

เมื่อถามว่า กองทัพยังยืนยันคำพูดของ พล.อ.อนุพงษ์ เรื่องจะไม่ปฏิวัติใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ใช่ เพราะไม่ใช่ทางแก้ปัญหาในเวลานี้ เมื่อถามอีกว่า แต่คนยังกลัวทหารจะปฏิวัติ ขนาด พ.ต.ท.ทักษิณยังกลัว พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า "เช่นนั้นจึงต้องฝากสื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วย เกี่ยวกับการเคลื่อนกำลังพลใน 1-2 วันนี้ เพื่อซ้อมพิธีสวนสนามราชวัลลภ"

แจงเหตุใช้"พล.ร.2รอ."ช่วยตร.

พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า สำหรับกำลัง 3 กองร้อย ที่ส่งไปสนับสนุนตำรวจ เป็นกำลังจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ป้องกันไม่ให้คนภายนอกเข้าไปวุ่นวายภายใน และหากมีการสลายการชุมนุมก็จะมีหน้าที่ช่วยตำรวจระบายคนออก คาดว่าตำรวจมีการร้องขอไปยังกองทัพเรือแล้ว แต่กองทัพเรือคงมีกำลังไม่เพียงพอ จึงขอมาที่กองทัพบก ส่วนที่ใช้กำลังของ พล.ร.2 รอ. จาก จ.ปราจีนบุรี มานั้น เพราะกำลังใน กทม.มีอยู่ไม่เพียงพอ เพราะกำลังกองทัพภาคที่ 1 ออกมารักษาความสงบเรียบร้อย 17 กองร้อย  อีกทั้งทหารรักษาพระองค์ส่วนหนึ่งไปซ้อมสวนสนามราชวัลลภ ซึ่งกำลัง พล.ร.2 รอ. ไม่ได้มีการนำอาวุธมาด้วย ส่วนกระแสข่าวที่ว่าจะใช้ทหารจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) เข้าทำหน้าที่เจรจากับผู้ชุมนุมนั้น ยังไม่มีรายงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ว่าขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์ยังไม่ได้สั่งการให้ นสศ.จัดกำลังเข้าไปสนับสนุนตำรวจ โดยเฉพาะชุดปฏิบัติการทางจิตวิทยา ที่จะเจรจาเพื่อให้กลุ่ม พธม.ถอนการชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง อีกทั้ง พล.ท.ภุชงค์ รัชตะวรรณ ผู้บัญชาการ นสศ. ก็ไม่สนับสนุนจะให้ใช้กำลังจากหน่วยดังกล่าว เพราะไม่อยากเป็นเงื่อนไขทางการเมืองอีก

สมาคมสื่อเตือนนักข่าวระวังตัว

วันเดียวกัน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ประกาศเตือนให้ผู้สื่อข่าวระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงจากการปะทะกันของฝ่ายต่างๆ และขอเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง แกนนำ พธม. และแกนนำ นปช. เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของผู้สื่อข่าวที่ทำหน้าที่ในการรายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อสาธารณะ ช่วยควบคุมดูแลมิให้เจ้าหน้าที่รัฐและกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ท่าทีที่รุนแรงและทำร้ายผู้สื่อข่าวด้วย

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์