จำลองยันพร้อมเปิดประตูเจรจาสมชาย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 พ.ย. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า

ภายในวันนี้เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสลายการชุมนุมที่สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ซึ่งเราเตรียมการเรื่องนี้ตั้งแต่ 03.00 น.

แต่อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า

ในการสลายการชุมนุมครั้งนี้จะไม่ซ้ำรอยเดิมในวันที่ 7 ต.ค.เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยมีบทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาแล้ว ดังนั้นจึงขอให้สื่อและประชาชนจับตาและเป็นคนตัดสิน ส่วนที่เจ้าหน้าที่บินและไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปสมทบ จึงขอประกาศว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจล้อมเราที่ไหนเราก็จะล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชั้น เพราะมั่นใจว่าผู้ชุมนุมมากกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายเท่า

พล.ต.จำลอง กล่าวว่า
 
ส่วนเหตุการณ์ช่วงเช้าที่สนามบินสุวรรณภูมิที่มีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกัน แต่การ์ดพันธมิตรนำโดย ร.ต.แซมดิน เลิศบุตร และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯได้เข้าไปเจรจาพักใหญ่และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดทางให้เราโดยดี นอกจากนี้จากการเข้าเคลียร์พื้นที่ได้มีการพบอาวุธ เป็นมีดปลายแหลมจำนวนมากในรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า

ส่วนการเจรจายังยืนยันจุดเดิมว่าสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ต้องเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรง โดยเฉพาะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯเท่านั้นไม่ผ่านคนกลาง เพราะล่วงเลยระยะเวลามาแล้ว ที่สำคัญต้องเจอตัวต่อตัวไม่พูดผ่านโทรศัพท์ ซึ่งจะเป็นที่ไหนก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเองเท่านั้น แต่เป็นแกนนำคนใดก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างอยู่ที่รัฐบาลถ้านายสมชายลาออกก็จบ

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯระบุว่า

จะไม่มีการเจรจากับรัฐบาล พล.ต.จำลอง กล่าวว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของนายสนธิเพราะนายสนธิอาจเห็นว่าเหลืออดเหลือทนแล้ว แต่เมื่อแกนนำมีมติอย่างไร นายสนธิก็คงยอมรับมตินั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ไม่จบภายในเดือนนี้แนวทางการการเคลื่อนไหวพันธมิตรฯจะเป็นไปในแนวทางใด พล.ต.จำลองกล่าวว่า เราต้องพิจารณาตามขั้นตอน ไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้ แต่ความเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์จบก่อนวันที่ 5 ธ.ค.

เมื่อถามถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯออกมาระบุว่าการที่พันธมิตรฯไปปิดล้อมสนามบินจะนำไปสู่การรัฐประหารและการนองเลือด พล.ต.จำลอง กล่าวว่า
 
การปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิเสียหายแน่ แต่ไม่เกิดการนองเลือด ซึ่งก็คงเป็นการขู่ของพ.ต.ท.ทักษิณที่ไม่ต้องการให้ประชาชนมานองเลือด และส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่การส่งสัญญาณอะไรไปที่นายสมชาย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการปลอดพล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ออกจากผบ.ตร.พล.ต.จำลองกล่าวว่า
 
การปลดออกจากตำแหน่งดังกล่าวเข้าใจได้ว่าพล.อ.พัชรวาทไม่ทำตามที่รัฐบาลต้องการได้อย่างเต็มที่และทำได้เพียงเท่านี้ เพราะสัญญาณจากการประกาศภาวะฉุกเฉินที่ผ่านมาให้ทหารมีบทบาทในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้เป็นอะไรที่แปลกมากที่ให้ตำรวจเข้ามามีบทบาทมากมาย

เมื่อถามย้ำว่าหากมีการสลายการชุมนุมในวันนี้เสร็จสิ้น พันธมิตรฯจะปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิใหม่ใช่หรือไม่ พล.ต.จำลองกล่าวว่าแน่นอน เรากลับมายึดคืนอีกและประชาชนต้องกลับมามากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็เหมือนกับมัฆวานที่เรากลับมายึดคืนก่อนหน้านี้

พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่การท่าอากาศยานฟ้องร้องค่าเสียหายแกนนำพันธมิตรฯจากการปิดสนามบิน 2 แห่งเป็นเงินกว่า 500 ล้านว่า เงินดังกล่าวเป็นจำนวนที่เยอะมาก ซึ่งการดำเนินการต่อไปก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าคึกคักพอสมควร โดยได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมจากกรุงเทพฯและต่างจังหวัดต่างทยอยเข้ามาในทำเนียบรัฐบาลก่อนจะเดินทางไปสบทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ที่สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ

ส่วนบนเวทีปราศรัยมีแกนนำสลับกันขึ้นเวทีปราศรัย ขณะที่การรักษาความปลอดภัยประตูผ่านเข้ามาทำเนียบเป็นไปอย่างเข้มงวดเหมือนทุกวัน โดยมีการ์ดนักรบศรีวิชัยบางคนได้ตระเตรียมและใส่เสื้อเกราะกันกระสุนเพื่อเตรียมความพร้อมต่อการเสริมกำลังไปยังสนามบินทั้ง 2 แห่ง

โดยพล.ต.จำลอง ได้กล่าวบนเวทีเรียกร้องให้ประชาชนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเดินทางมารวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งยกให้ทำเนียบรัฐบาลเป็นจุดศูนย์กลางการชุมนุม เพื่อประเมินการเคลื่อนไหวจะเดินทางไปชุมนุมที่ไหนบ้าง อย่างไรก็ตามได้ประกาศว่าขณะนี้ได้มีความพยายามที่จะตัดสัญญาณเอเอสทีวีและคลื่นวิทยุ ซึ่งหากกลุ่มผู้ชุมนุมรับฟังหรือรับชมไม่ได้ก็ขอให้มารวมตัวที่ทำเนียบรัฐบาล