พันธมิตรฯ ประกาศชัยชนะ ไล่ตำรวจพ้นพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ สำเร็จ ขณะม็อบดอนเมืองและทำเนียบฯ ทยอยสมทบสุวรณภูมิ หวั่น โดนสลายเย็นนี้
โดยแนวร่วมพันธมิตรฯ ได้ประกาศบนรถเครื่องขยายเสียง ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ว่า กลุ่มพันธมิตรฯ สามารถยึดพื้นที่ได้ทุกจุดของทางเข้าออก บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิทุกจุดแล้ว ส่งผลให้ กลุ่มผุ้ชุมนุม ตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจ ขณะเดียวกัน กลุ่มพันธมิตรฯ ที่เดินทางออกจากสนามบินดอนเมือง และที่ทำเนียบรัฐบาล เริ่มทยอยเดินทางด้วยรถบัส มาสมทบกับกลุ่มพันธมิตร ที่ สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว
นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรฯ นั่งรถสองแถวและรถกระบะ ประมาณ 100 คัน ตระเวนไปตามถนน ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและเข้าไปบริเวณอาคารดับเพลิงและกู้ภัย ของ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลนั้นเตรียมความพร้อมอยู่ด้านใน แต่เมื่อไปถึง มีตำรวจประจำการอยู่เพียงไม่กี่นายเท่านั้น กลุ่มพันธมิตรฯ จึงได้ใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยโจมตีอยู่ประมาณ 20 นาที จากนั้น ได้ถอนกำลัง เพื่อที่จะไปปิดล้อม สภ.ราชาเทวะ ล่าสุด ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการระดมนำรถยนต์มาขวางถนน เพื่อสกัด กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ให้ถึงสถานีตำรวจ
ขณะที่ การรักษาความปลอดภัย การชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ภายในสนามบินดอนเมือง การ์ดพันธมิตร ยังคงเฝ้ารักษาทางเข้าออก ก่อนถึงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศอย่างเข้มงวด ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ
ทั้งนี้ มีการตั้งจุดตรวจ ถึง 2 ชั้น และตรวจกระเป๋าผู้ที่ผ่านเข้าออกอย่างเต็มที่ ขณะที่ บรรยากาศการชุมนุม ยังคงเป็นปกติ และเต็มไปด้วยความเงียบเหงา กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 1,000 คน ยังคงปักหลักฟังการปราศรัยงของนายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสาวิทย์ แก้วหวาน และ นางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีต ส.ว.สกลนคร ที่ยังคอยพลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัย สลับกับการแสดงดนตรี เพื่อผ่อนคล้ายความตึงเครียด
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการเข้าปิดล้อมสถานที่รอบสนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมเกิดขึ้นแต่อย่างใด มีเพียงกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่อาจจะเข้าสลายการชุมนุมเท่านั้น
ด้าน นายประพันธ์ คูณมี แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 กล่าวปราศรัยบนรถเครื่องขยายเสียง ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยกล่าวถึง กรณีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่ง ที่ให้ กลุ่มพันธมิตรฯ ออกจากการปักหลักยึดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ซึ่งถือว่า ไม่มีความหมาย เนื่องจาก รัฐบาล ได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งถือว่ามีอำนาจมากกว่า แต่ก็จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อไป
นอกจากนี้ นายประพันธ์ ยังกล่าวโจมตี ที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ไม่ฟ้องร้อง บริษัทคิง พาวเวอร์ ที่ใช้พื้นที่ที่เกินที่ตกลงกันไว้ ส่งผลให้ ประเทศชาติ เสียประโยชน์ พร้อมทั้งยังท้าทายให้รัฐบาล เข้าสลายการชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ เนื่องจาก ประเมินสถานการณ์ทางการเมืองแล้ว น่าจะเกิดความรุนแรงมากขึ้น หลังจากปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้ง ผู้บัญชาการทหารบก ออกมายืนอยู่ข้างประชาชนด้วย