ตามที่มีการประกาศใช้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่สุวรรณภูมิ และดอนเมือง และมีกระแสข่าวว่า ตำรวจจะนำกำลังเข้าสลายการชุมนุมใน 2 พื้นที่ ทำให้กองทุกสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ออกแถลงการณ์แสดงความวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน ที่ติดตามผู้ปกครองไปร่วมการชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยได้เรียกร้องให้รัฐบาลและแกนนำพันธมิตรฯ ดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อรับประกันความปลอดภัยของเด็กๆ และให้มีการดูแลเด็กในพื้นที่ชุมนุมเป็นอย่างดีด้วย
"ประสพสุข”นำทีม สว.แถลงวอนถอยคนละก้าว
เมื่อเวลา 17.50 น.ภายหลังการประชุมวุฒิสภา สมาชิกวุฒิสภานำโดยนาย ประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช และ นส.ทัศนา บุญทอง รองประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยส.ว.กว่า 30 คน ได้ร่วมกันแถลงจุดยืนของวุฒิสภาต่อสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้
นายประสพสุข กล่าวว่า สมาชิกวุฒิสภา เป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่มีความขัดแย้งและน่าห่วงใยที่อาจเกิดความรุนแรงและเสียเลือดเนื้อ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายถอยกันคนละก้าว รับฟังซึ่งกันและกัน หาข้อยุติที่พอจะรับกันได้ ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังสลายการชุมนุมและการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพราะจะเป็นชนวนของการก่อสงครามประชาชน ผู้ชุมนุมควรเห็นแก่ความเสียหายของประเทศชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และภาพพจน์ของประเทศ การรัฐประหารไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสมวุฒิสภายังเห็นด้วยกับการเจรจาที่จะต้องดำเนินต่อไป ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงใจ
ศูนย์สันติวิธีฯเปิดสายระบายเครียด รับฟังทางออกประเทศไทย
นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ว่า เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมืองทำให้คนในสังคมส่วนใหญ่เกิดความวิตกกังวล และปรารถนาแสวงหาทางออกจากความขัดแย้ง ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธีฯ จึงเปิดช่องรับฟังความเห็น ทางโทรศัพท์ หมายเลข 02-8496072-4 ทางโทรสาร หมายเลข 02-849-6075 ทางอีเมล์ peace@mahidol.ac.th ทางเวบไซต์ www.peace.mahidol.ac.th
ทั้งนี้ ศูนย์ฯจะประมวลและรวบรวมความเห็นนำเสนอต่อสื่อมวลชนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
"เราหวังว่าช่องทางเล็กๆ เช่นนี้ นอกจากจะช่วยกระตุ้นการขบคิดถึงอนาคตของสังคมไทยร่วมกันอย่างเป็นเหตุเป็นผลแล้ว ยังหวังว่าการรับฟังนี้จะช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลของทุกฝ่ายได้ด้วย" นายโคทม ระบุ
ส.ว.สายทหารจี้สภาสูงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสู้ในขอบเขต
การประชุมวุฒิสภา มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ที่ประชุมวุฒิสภามีมติวาระ 2 และ 3 เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ด้วยคะแนน 93 ต่อ 4 เสียง และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ด้วยคะแนน 91 ต่อ 0 เสียง จากนั้นจะส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 141 บัญญัติต่อไป
จากนั้นนาย สมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ขอหารือสถานการณ์บ้านเมืองเกี่ยวกับข้อเสนอของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.)ที่ให้นายกฯยุบสภาพร้อมกับพันธมิตรฯยุติการชุมนุม โดยเรื่องนี้ส.ว.ควรจะมีท่าทีสนับสนุน คตร.ให้ประชุมอีกครั้งหนึ่งโดยเชิญส.ว. รัฐบาลและพันธมิตรฯเข้ามาหาข้อยุติและรัฐบาลต้องไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุม
ด้านพล.อ. เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เห็นด้วยที่ส.ว.จะมีท่าทีต่อเหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนี้เพราะไม่มีครั้งใดที่บ้านเมืองจะเกิดวิกฤตขนาดนี้ ความเสียหายเป็นตัวเลขที่ประเมินค่าไม่ได้ต่อการปิดสนามบินทั้งสองแห่ง ส่วนมติของคตร. ตนไม่คิดว่า วุฒิสภาไม่ควรสนับสนุนข้อเสนอนั้นในทันทีทันใด แม้จะเป็นความปรารถนาดีที่จะแก้ปัญหาบ้านเมือง แต่การประชุมคราวนั้นไม่มีตัวแทนของฝ่ายการเมือง ความเห็นส่วนใหญ่เป็นของนักวิชาการ และข้อเสนอ 2 ใน 4 ข้อ คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายก็ไม่ยอมรับ ดังนั้นวุฒิสภาคงไม่สามารถไปจับมือใครให้เลิกความขัดแย้งกันได้ แต่วุฒิสภาต้องแสดงออกต่อสถานการณ์ขณะนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่พันธมิตรไปปิดล้อมสนามบินซึ่งเป็นความเสียหายที่เกินกว่าจะรับได้ และโพลล์ ประชาชนร้อยละ 70 ก็ไม่เห็นด้วย
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า วุฒิสภาน่าจะเรียกร้องให้การต่อสู้ทางการเมืองอยู่ในขอบข่ายที่ประเทศไม่เสียหายเป็นซากศพ และไม่ต้องไปเรียกร้องให้ยุบสภาหรือลาออกเพราะเสียงของส.ว.เล็กเกินไปที่จะทำเช่นนั้น ขณะนี้การเมืองกำลังคลี่คลาย เพราะตนเชื่อว่า รัฐบาลของนายสมชาย จะมีอายุอีกเพียงแค่ 10 วันเท่านั้น เพราะคาดว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยยุบ 3 พรรคประมาณวันที่ 4 ธันวาคม ซึ่งก็จะไม่เห็นหน้านักการเมืองแบบนี้จำนวน 107 คนอีก
จากนั้น ส.ว.ได้ลุกขึ้นอภิปรายเพียง 2 -3 คน และนายประสพสุข ได้สรุปผลการประชุมวุฒิสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ ว่า ได้มีการเปิดประชุมวันที่ 1 สิงหาคม 2551 และปิดประชุมวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 มีการประชุม 12 ครั้ง งดประชุม 7 ครั้ง ใช้เวลาประชุมทั้งหมด 56 ชั่วโมง 25 นาที และเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่สภาผู้แทนราษฎร ส่งมาจำนวน 2 ฉบับ ตอบกระทู้ 22 เรื่อง ตกไป 31 เรื่อง และเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลเข้าสู่องค์กรตามรัฐธรรมนูญ 1 ครั้ง จากนั้นจึงอ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ และปิดประชุมเวลา 17.45 น.
สภาทนายฟ้องศาลระงับประกาศพรก.ฉุกเฉินฯอ้างขัดรัฐธรรมนูญ
นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความฝ่ายสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ในฐานะประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ยื่นฟ้อง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งนายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ที่อาศัยอำนาจ ม.5 และ 11 ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตดอนเมือง เขตลาดกระบัง กรุงเทพ และอำเภอบางพลี อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551
ตามฟ้องสรุปว่า เหตุผลที่ผู้ถูกฟ้องกล่าวอ้างในประกาศฯ ไม่ถูกต้องตามความเป็น ไม่เป็นเหตุผล ไม่เข้าองค์ประกอบตามที่กำหนดไว้ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ทั้งเนื้อหาและข้อกำหนดตามประกาศขัดต่อบทบัญญัติและเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าเหตุการณ์ในกรุงเทพและสมุทรปราการ เกิดความวุ่นวาย
เนื้อหาคำฟ้องระบุอีกว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมินั้น เป็นไปด้วยความสงบ ไม่มีความรุนแรง หรือการทำลายทรัพย์สินให้เสียหายแต่อย่างใด ผู้ชุมนุมไม่ได้เข้าไปในหอบังคับการบิน และรันเวย์ อันเป็นการขัดขวางการบินแต่อย่างใด อีกทั้ง ขณะนี้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีปัญหาว่าบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ม.233 และ 40 หรือไม่
อย่างไรก็ตาม การออกประกาศฯ โดยอาศัยบทบัญญัติของกฎหมายที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาบังคับใช้ และมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในสาระสำคัญ จึงเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายทำให้ผู้ฟ้องได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากประกาศฯดังกล่าว ผู้ฟ้องจึงขอให้ศาลปกครองไต่สวนฉุกเฉินโดยเร่งด่วนเพื่อมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว โดยผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลมีคำสั่งให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ สิ้นผลบังคับใช้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษา
ยูนิเซฟวอนรัฐบาล-พธม.ประกันความปลอดภัยเด็ก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ยูนิเซฟวอนรัฐบาล-พธม.ประกันความปลอดภัยเด็ก
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday