ความคาดหวังของคนทั่วไปต่อปฏิบัติการ "ม้วนเดียวจบ" ของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็คือ อยากให้เรื่อง "จบ" จริงๆ เสียที
แม้จะนึกไม่ออกก็ตามว่า เรื่องจะ "จบ" ลงตรงไหนได้
ผลของม้วนเดียวจบ ทำให้เกิดเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ ระหว่างวันที่ 24-25-26 พ.ย.ที่ผ่านมา
ที่ส่งผลสะเทือนหนักสุด คือการเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิ
ภาคเอกชน คนทำมาหากินร้องจ๊าก เพราะนี่ไม่ใช่แค่ประตูใหญ่สุดสำหรับเข้าออกประเทศไทยเท่านั้น
แต่จริงๆ แล้วเป็นประตูของภูมิภาคเลยทีเดียว
ผลจากเรื่องนี้ ทำให้เกิดการประชุมของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม ที่มีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เป็นประธาน เชิญผู้นำภาคราชการ เอกชน และวิชาการ เข้าร่วมหารือ
ก่อนลงมติ ตั้งข้อเสนอให้พันธมิตรฯ ถอยจากสุวรรณภูมิและยุติการเคลื่อนไหว
และให้นายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยุบสภา
เรียกว่าจะแก้ปัญหาแบบม้วนเดียวจบเหมือนกัน ทั้งแก้ปัญหาสนามบิน ทั้งแก้ปัญหาทางการเมืองไปพร้อมกัน
ผลคือ สองฝ่ายประกาศไม่เอาด้วยทันที
พอจะเข้าใจได้ว่า ในแง่พันธมิตรฯ คงจะมีธงของตัวเอง ดังที่แถลงเรียกร้องอยู่ทุกวัน
ส่วนนายกฯ สมชายนั้น ถือไพ่ใบใหญ่ เป็นหัวหน้ารัฐบาลอยู่แล้ว เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม เรื่องอะไรจะยอมให้ผบ.ทบ.มาสั่ง
เมื่อเป็นอย่างนี้ ต่างคนคงต้องตั้งหลัก ย้อนกลับไปทำงานตามหน้าที่ แก้ปัญหาไปทีละเรื่อง
โจทย์สำคัญคือเรื่องสนามบินสุวรรณภูมิ และความไม่สงบเรียบร้อยต่างๆ
สรุปว่า รายการนี้ทำให้ตำแหน่งผบ.ทบ.เล็กลงไปหน่อย
แต่ตำแหน่งนายกฯ ก็ไม่ได้ใหญ่โตขึ้นแต่อย่างใด