เลอะทั้งคู่

ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผีเน่า สนธิ ลิ้มทองกุลและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้งหลายก็เป็นโลงผุ

ต่างอาศัยซึ่งกันและกันหล่อเลี้ยงชีวิต และให้ความสำคัญให้ราคากับตัวเองอยู่ได้

ลองนึกถึงโลกที่ทักษิณ ชินวัตร สงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่พูดจายั่วยุ ไม่ดำเนินการอะไรให้คนหวาดระแวง ไม่หลงละเมอไปว่าตัวเองยังมีอำนาจและเที่ยวสั่งการอย่างนั้นอย่างนี้

สนธิ ลิ้มทองกุลและคณะจะเอามุขอะไรมาหากิน

เพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ทุลักทุเลเหลือหลายอยู่แล้ว

แต่ทักษิณก็ไม่หยุดเคลื่อนไหว เป็นช่องให้พันธมิตรต่อลมหายใจของตัวเองได้ต่อไป

โดยมีสังคมไทยคอยนั่งลุ้นด้วยความใจหายใจคว่ำอยู่ทุกวัน

ล่าสุดทั้งสองฝ่ายก็ออกมุขใหม่พร้อมๆ กัน

ฝ่ายพันธมิตรเรียกร้องชุมนุมพล ประกาศด้วยว่าคราวนี้ไม่ยืดเยื้ออีกแล้ว (เหมือนรู้ว่าคนชุมนุมด้วยเบื่อเต็มที)

หนนี้จะม้วนเดียวจบ

แล้วยังไง-ไปล้อมสภา ล้อมบช.น. เสร็จแล้วก็กลับมาปักหลักที่ทำเนียบรัฐบาล (เก่า) พร้อมกับเพิ่มที่ล้อมใหม่คือทำเนียบ (ใหม่) ที่ดอนเมือง

ทำท่าว่าจะเป็นกระดาษชำระม้วนยาว

และมีด่าชาวบ้านที่มาร่วมประชุมแถมอีกด้วยว่า "ขี้เกียจ"

ใช้เขามาร่วมครึ่งปีแล้วยังไม่หนำใจ พอเขาทำไม่ได้ดังใจก็ด่าซ้ำ

แกนนำทำงานง่ายอย่างนี้เอง?

แต่ก็พอกัน ทักษิณ ชินวัตร คนนิ่งไม่เป็น คราวนี้ไปให้สัมภาษณ์ที่ดูไบ

ด้วยความเข้าใจว่า "ราคา" ของตัวเองยังสูงลิ่ว

ถึงขนาดประกาศว่าถ้ากลับมาได้เมื่อไหร่ เมืองไทยจะพ้นวิกฤตเศรษฐกิจได้ทันที

นี่ยังไม่นับที่ด่าอังกฤษเรื่องถอนวีซ่าอีกต่างหาก

พูดแบบนี้สาวกทั้งหลายก็คงเฮลั่นชอบใจ

แต่คนที่ไม่เข้าข้างไหน ฟังแล้วก็ส่ายหัว ว่านี่มามุขเก่าอีกแล้ว

มุขที่ทำให้มีปัญหามากกว่าจะช่วยแก้ปัญหา

ถามว่าจริงๆ กำลังคิดอะไรตอนให้สัมภาษณ์

หรือพูดไปยังงั้นแหละ ไม่ได้คิดอะไรเลย?