ผศ.นพ.ตุลย์กล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวของเครือข่ายเป็นการกระทำเพื่อให้เกิดความชอบธรรม อะไรที่ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด อะไรถูกก็ต้องว่าไปตามถูก
เครือข่ายไม่ได้มองว่ากลุ่มพันธมิตรถูก หรือรัฐบาลถูก แต่การกระทำที่ผ่านมาของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่สามารถให้ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนได้ ผบ.ทบ.จึงเป็นความหวังของประชาชนในการแสดงบทบาทปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปกป้องชีวิตของประชาชน โดยต้องกำจัดต้นตอแห่งปัญหาด้วยวิธีการที่เหมาะสม หาก ผบ.ทบ.หรือทหารไม่กระทำการใดๆ หลังจากเรียกร้อง เครือข่ายจะดำเนินการเรียกร้องไปยังศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรม ยุติความรุนแรง
รศ.ดร.พอพันธ์ วัชจิตพันธ์ ประธานสภาคณาจารย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้นายสมชายไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นผู้นำประเทศอีกต่อไป
อีกทั้งระบบรัฐสภาตอนนี้กลายเป็นเผด็จการรัฐสภา มุ่งแต่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง ดังนั้นจึงมองว่าควรจะมีใครสักคนที่เข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ให้ประชาชนได้แล้ว ถามว่าทำไมไม่เป็นตำรวจ ขอบอกว่าเราไม่ไว้ใจตำรวจ และคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทหารควรออกมาทำอะไรสักอย่าง “ทหารต้องออกมาได้แล้ว ทำอะไรก็ได้ จะปฏิวัติก็ได้ แต่คุณต้องออกมาทำหน้าที่รักษาความสงบให้แก่บ้านเมือง เราเป็นกลุ่มที่อยู่ฝ่ายถูกต้องและจากนี้จะสร้างคนอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อกดดันคนที่มีอำนาจ และยังไม่ทำอะไรให้ออกมาทำอะไรได้แล้ว” รศ.ดร.พอพันธ์กล่าว
ด้านตัวแทนนิสิต จุฬาฯ หนึ่งในเครือข่ายปัญญาสยามกล่าวว่า ความขัดแย้งรุนแรงที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นการโยนความผิดให้แก่กันและกัน กลุ่มพันธมิตรโยนความผิดให้รัฐบาล
ในขณะที่รัฐบาลก็โยนความผิดให้พันธมิตร กลุ่มตัวแทนนิสิต นักศึกษา จึงควรออกมาแสดงจุดยืน เพื่อยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้น การที่เหล่านิสิต คณาจารย์ และนักวิชาการ ออกมาเรียกร้อง ขอความสงบสุขจากทหาร ไม่ได้ต้องการให้เกิดการปฏิวัติ แต่หากมีการปฏิวัติจริงๆ แล้วทำให้ประเทศไทยสงบสุขขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้นได้ เพราะตอนนี้หากไม่มีการดำเนินการใดๆ จากทหาร ประเทศไทยคงต้องวุ่นวายต่อไปไม่จบไม่สิ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนิสิต นักศึกษานั้น การเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหนก็แล้วแต่ อยากให้คำนึงถึงจุดยืนของพลังนิสิต นักศึกษา อย่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร
“ตอนนี้นิสิต นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ในการเรียกร้องยุติความรุนแรงนั้น ส่วนมากเป็นนิสิต นักศึกษา ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มแกนนำ สโมสรนิสิต นักศึกษา ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้เห็นได้ว่า สังคมเปลี่ยนแปลงไป คนที่ได้รับหน้าที่ในการดูแล เป็นตัวแทนของนิสิต นักศึกษาไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง ประเทศชาติ สนใจแต่ประโยชน์ของตนเอง อันเป็นสิ่งที่ส่อให้เห็นถึงอนาคตของประเทศชาติว่าเป็นอย่างไร ผมในฐานะนิสิตจุฬาฯ คนหนึ่ง จึงอยากให้เพื่อนนิสิต นักศึกษา ออกมาแสดงพลังของตนเองเพื่อความถูกต้อง และความสงบของประเทศชาติ ไม่ใช่จมอยู่กับเรื่องของตนเอง” ตัวแทนนิสิตจุฬาฯ กล่าว
วันเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา (มทส.นม.) เมื่อเวลา 13.30 น. รศ.ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์
ได้อ่านแถลงการณ์ พร้อมกลุ่มคณาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี รวม 36 คน ระบุว่า การที่รัฐบาลได้ลุแก่อำนาจใช้กำลังตำรวจเข่นฆ่าทำร้ายประชาชนจำนวนมาก เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดได้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้เกิดการลอบทำร้ายประชาชนผู้ชุมนุมโดยสันติด้วยระเบิดที่ยิงมาจากระยะไกล เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยหลังเกิดเหตุแล้วก็มิได้กระทำการอย่างเต็มที่ เพื่อสอบสวนจับกุมผู้กระทำผิด รวมทั้งการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุอีก กลับปล่อยให้เกิดการยิงระเบิดซ้ำสองเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้กระทำการอันมิชอบ และละเว้นการกระทำการอันชอบอีกหลายกรณี
เช่น การไม่ยกเลิกพาสปอร์ต เดินทางของผู้หลบหนีคดีอาญาแผ่นดิน ซึ่งเป็นญาติสนิทกับนายกรัฐมนตรี พวกเรา “กลุ่มคณาจารย์ มทส. เพื่อสร้างสรรค์การเมืองใหม่” (ม.เทคโนโลยีสุรนารี นครราชสีมา) จำนวน 36 คน ขอแสดงจุดยืนเพื่อเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมดังนี้
1.ขอประณามนักการเมืองที่ใช้วิธีการอันไม่บริสุทธิ์เพื่อเข้ามาสู่ตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของความขัดแย้งและความด้อยพัฒนาของสังคมไทยมาจนถึงวันนี้
2.ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ลาออกทั้งคณะ เนื่องจากหมดความชอบธรรมและสมรรถภาพในการบริหารประเทศแล้ว เพราะได้กระทำความผิดร้ายแรงสะสมไว้หลายกรณี รวมทั้งกรณีทำร้ายและเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ และปล่อยให้เกิดการลอบทำร้ายอีกหลายครั้ง
3.เพื่อเป็นการไถ่บาปแห่งการกระทำผิดของตน และเพื่อจักได้รับการให้อภัยบางส่วนจากประชาชน ภายหลังจากการลาออกดังกล่าวแล้ว ควรกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานรัฐบาลแห่งชาติ จากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามกรอบแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อบริหารประเทศเป็นการชั่วคราว นำไปสู่การปฏิรูปการเมือง โดยคณะกรรมการอิสระ เพื่อสร้างสรรค์ประเทศไทยให้เป็นสังคมอารยะต่อไป พวกเราขอยืนหยัดร่วมต่อสู้กับประชาชนโดยสันติ เพื่อนำความถูกต้องสู่สังคมไทยตลอดไป