เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว เนื่องจากพรรคเพื่อไทยขณะนี้มีสมาชิกถึง 6,700 คน จึงต้องการเปิดทางให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นสมาชิกพรรคที่มีคุณสมบัติ และส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทางด้านการเมืองสูงกว่าตนที่ถนัดด้านวิชาการมากกว่า แต่ตนยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ แต่จะมีบทบาทอย่างไรต้องแล้วแต่คนในพรรคจะเสนอ
"ผมไม่ใช่นักการเมือง เพราะถนัดด้านวิชาการมากกว่า แต่ที่เข้ามารับตำแหน่งก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีผู้ใหญ่ในพรรคขอให้มาช่วยดูแล แต่เมื่อมีคนที่มีคุณภาพเข้ามามากแล้ว ผมก็อยากเปิดโอกาสให้ เพราะต้องยอมรับว่าการทำงานการเมืองไม่ใช่เรื่องง่ายๆ"นายสุชาติกล่าว
ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีคลังด้วยนั้น นายสุชาติกล่าวว่า ขึ้นกับดุลพินิจของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี
แต่ยืนยันว่าการตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เกิดจากแรงกดดันใดๆ ทั้งสิ้น และจะไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งที่รับผิดชอบอยู่ในขณะนี้แน่นอน และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องหวยบนดินที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาทิ นางยิ่งลักษณ์ และนายพายัพ ชินวัตร น้องสาวและน้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด รวมทั้งคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ
พจมานติดโผนั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อนงค์วรรณ สั่นข่าวถูกเตะโด่ง
ด้านความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) ซึ่งใกล้ชิดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำ มฌ. กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.
โดยจะโยกนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ว่า ข่าวที่ออกมาคงเกิดจากการเปิดเผยเรื่องการปรับ ครม. ของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ทำให้คาดการณ์กันไปต่างๆ นานา แต่ที่ผ่านมายังไม่มีแกนนำพรรคพลังประชาชน (พปช.) หรือแกนนำรัฐบาลประสาน มฌ. เพื่อหารือเรื่องการปรับ ครม. จึงเชื่อว่าการปรับ ครม.น่าจะเป็นการหมุนเวียนตำแหน่งกันภายในของพรรคพลังประชาชนไม่กระทบพรรคร่วมรัฐบาล
"หากจะมีการปรับ ครม.ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลจริง นายกฯควรจะได้หารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก่อน ถือเป็นการให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล ตามมารยาทการอยู่ร่วมกัน"พ.ต.ท.บรรยินกล่าว
รายงานข่าวจากแกนนำพรรคพลังประชาชนแจ้งว่า ความชัดเจนในการปรับ ครม. "สมชาย 2" จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน
ภายหลังนายสมชายเดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ที่ประเทศเปรูในวันที่ 26 พฤศจิกายน เบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับ ครม. ในส่วนของ พปช. อย่างน้อย 3 ตำแหน่ง นอกจากนี้แกนนำ พปช. ได้สอบถามไปยังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะปรับ ครม. ในส่วนโควต้าของพรรคหรือไม่ เพื่อให้เตรียมนำเสนอรายชื่อ
"ส่วนที่มีข่าวว่า พปช.จะปรับนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรี ทส. ออกจากตำแหน่ง เพื่อเอากระทรวง ทส.คืนนั้น สร้างความงุนงงให้แกนนำ มฌ.มาก จนนางอนงค์วรรณต้องรีบโทร.ไปถามข้อเท็จจริงจากนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายกฯ โดยได้รับคำยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่รู้เรื่อง จากนั้นนางอนงค์วรรณจึงโทรศัพท์สอบถามนายสมชาย เพื่อย้ำความมั่นใจ ซึ่งนายสมชายก็ตอบว่าไม่ทราบเรื่องการปรับ ครม.เช่นกัน"แหล่งข่าวกล่าว