ใต้รณรงค์เปิดเบาะจยย.-จับตาข้าวหลาม

ใต้ย้ำอีกมาตรการเปิดเบาะรถจักร ยานยนต์ ตร.ยะลาคุมเข้มหลังพบเบาะแสหน่วยอาร์เคเคใช้รถจยย.ขนระเบิดมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง หวั่นมาก่อเหตุร้ายในชุมชน

โดยเฉพาะรถยี่ห้อฮอนด้าสีดำ รวมทั้งขอความร่วมมือชาวบ้าน หากพบเห็นบุคคลแปลกหน้าถือสิ่งของเช่นกระติกน้ำแข็ง กระบอกข้าวหลามมาวางในย่านชุมชน ให้รีบแจ้งจนท.แล้วพาตัวออกห่างให้พ้นรัศมีอันตรายทันที นายกฯตอบกระทู้ไฟใต้ในสภายันเหตุรุนแรงลดลง เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 20 พ.ย. พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร รอง ผบก.ยะลา มีคำสั่งทางวิทยุด่วนที่สุด ให้ตำรวจชุดสายตรวจ และชุดสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ยะลา ประสานชุดสืบสวน สภ.เมืองยะลา ตั้งด่านตรวจเส้นทางเข้าเขตเทศบาลนครยะลา และสกัดกั้นตรวจค้นหานายอับดุลมานะ ดือราแม อายุประมาณ 25-30 ปี แกนนำคนสำคัญของกลุ่มกองกำลังระดับหน่วยจรยุทธ์ขนาดเล็กประจำถิ่น หรืออาร์เคเค ที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.กรงปินัง และ อ.เมืองยะลา

จากรายงานของหน่วยข่าวในพื้นที่แจ้งว่า นายอับดุลมานะลักลอบนำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน

คาดว่าซุกซ่อนวัตถุระเบิดไว้ภายในตัวรถ เดินทางมาจาก อ.กรงปินัง มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองยะลา โดยไม่ทราบเป้าหมายการก่อเหตุร้าย คาดว่าจะก่อเหตุในพื้นที่เขตย่านชุมชนในตัวเมืองยะลา พร้อมทั้งเน้นย้ำไปยังกองกำลังในทุกพื้นที่ให้เฝ้าดูแลตามจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ โดยเฉพาะให้สังเกตรถจักรยาน ยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ หรือสีใกล้เคียงกับสีดำเป็นพิเศษ และให้ตรวจสอบอย่างระมัดระวังทุกครั้ง

พ.ต.อ.สวัสดิ์ เตียวิวัฒน์ ผกก.สภ.ยะหา จ.ยะลา แจ้งเตือนไปยังประชาชนตามสถานที่ต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลยะหา เพื่อขอความร่วมมือป้องกันเหตุร้าย

โดยในประกาศระบุว่า จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดร้านขายของเบ็ดเตล็ด บริเวณสามแยกยะหา-บาโระ ถนนพิทักษ์ธานี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังคงมีความพยายามใช้รูปแบบการก่อเหตุ โดยใช้วัตถุระเบิดแสวงเครื่องนำไปก่อเหตุในแหล่งชุมชน เพื่อให้เกิดความสูญเสียต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว รู้สึกไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่กล้าออกไปประกอบอาชีพ หรือออกมาจับจ่ายซื้อของตามปกติประจำวันได้

ประกาศเตือนระบุว่า เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น จึงขอแจ้งเตือน เพื่อร่วมกันระมัดระวังป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น ให้ปฏิบัติดังนี้

ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่มาจอดหน้าร้านให้เปิดเบาะ และแขวนหมวกกันน็อกทุกคัน ให้ช่วยกันสอดส่องบุคคลต่างท้องถิ่นที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ส่วนสถานประกอบการ ร้านค้าต่างๆ ให้สังเกตบุคคลแปลกหน้าที่มาจับจ่ายซื้อของถือหีบห่อ กระเป๋า ไฟฉาย สิ่งของอื่นๆ เช่น กระบอกข้าวหลาม กระเป๋าเครื่องสำอาง กระติกน้ำแข็ง และสิ่งของต่างๆ ที่เข้ามาวางอยู่บริเวณร้าน หากพบบุคคลต้องสงสัยขอให้จดจำตำหนิรูปพรรณ หมายเลขทะเบียนยานพาหนะที่ใช้ แล้วรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เร็วที่สุด และหากพบวัตถุต้องสงสัยให้รีบแจ้งเตือนกันเอง ออกห่างจากรัศมี 50 เมตรเป็นอย่างน้อย และให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที


ต่อมาเวลา 09.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่ร้านน้ำชาเลขที่ 30/6 บ้านบือแนสะแต หมู่ 5 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จึงนำกำลังตำรวจและทหารรุดไปยังที่เกิดเหตุ

พบ ศพนายอับดุลตอและ แนยงแมซียง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 หมู่ 5 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. เข้าที่ศีรษะและลำตัว 7 นัด สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายอับดุลตอและดื่มน้ำชาภายในร้าน มีคนร้าย 2 คนแต่งกายคล้ายชุดดะวะห์สีขาวและดำ ขี่รถจักรยานยนต์ทำทีเข้ามาซื้อบุหรี่ ก่อนชักอาวุธปืนยิงใส่เสียชีวิต

ถัดมาเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ยะลา พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผบก.ยะลา และพ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก.ยะลา

ร่วมกันสอบปากคำนายซาบาวี สาและ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 3 บ้านลำดา ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดยะลา ลงวันที่ 20 ม.ค.2551 ในข้อหาใช้อาวุธปืนยิงแล้วเผา นายอดิสร แสงแก้ว เหตุเกิดที่ใต้สะพาน บ้านบ่อเจ็ดลูก หมู่ 6 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2550 ภายหลังนายซาบาวีติดต่อขอมอบตัวต่อสู้คดี พล.ต.ต.สายัณห์กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนในขณะนั้นมีพยานหลักฐานชัดเจนว่านายซาบาวีเป็นคนร้าย และยังพบว่าเป็นบุคคลที่มีส่วนสำคัญก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ จ.ยะลา ในลักษณะเป็นมือปืน ก่อเหตุมาแล้วหลายคดี ที่ทางเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวมาโดยตลอด เมื่อฝ่ายเจ้าหน้าที่เข้ากดดันอย่างหนักในพื้นที่ทำให้นายซาบาวีติดต่อขอเข้ามอบตัว หากนายซาบาวีให้การที่เป็นประโยชน์ก็จะส่งผลประโยชน์กับตัวนายซาบาวีเอง และน่าจะสามารถขยายผลไปยังกลุ่มคนร้ายที่ยังหลบหนีอยู่ได้

เวลา 16.50 น. พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ ผกก.สภ. รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.รามัน ที่ถนนสายรามัน-โกตาบารู

หมู่ 3 ต.โกตา บารู อ.รามัน จึงนำกำลังตำรวจและทหารรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบ ส.ต.ท.ชรินทร์ ทรายแก้ว ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.รามัน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ศีรษะและแขน อาการสาหัส จึงนำส่งร.พ.ศูนย์ยะลา จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ส.ต.ท. ชรินทร์และกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางด้วยรถกระบะ ออกไปตรวจสอบอุบัติเหตุที่บ้านกาลูปัง อ.รามัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนดักซุ่มอยู่ข้างทาง ใช้อาวุธปืนสงครามยิงกราดใส่ทันที จนเกิดการยิงตอบโต้กันประมาณ 5 นาที คนร้ายจึงล่าถอยหนีไป เป็นเหตุให้ส.ต.ท.ชรินทร์ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามดักยิงถล่มตำรวจ สภ.เมือง จ.ปัตตานี ขณะลาดตระเวนบนถนนสายปัตตานี-ยะลา

หมู่ 3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ ร.ต.อ.อนงค์ ริมนอก ส.ต.ท.ปิยะพงษ์ ประชุมแดง และ ส.ต.ต.วรากรณ์ รัตนา บาดเจ็บ ล่าสุด ส.ต.ท.ปิยะพงษ์เสียชีวิตแล้วที่ร.พ.ศูยน์ยะลา มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ปากกระสุนทะลุศีรษะ ส่วนร.ต.ท.อนงค์ และ ส.ต.ต.วรากรณ์อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เวลา 18.20 น. พ.ต.อ.นิตนัย หลังยาหน่าย ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงที่สะพานตันหยง หมู่ 7 บ้านตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จึงนำกำลังตำรวจและทหารรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ถูกกระสุนปืนพรุนที่ประตูด้านคนขับ กระจกข้าง ยางหลังแตก และกระจกด้านหน้าแตก ปลอกระสุนปืนอาก้า และเอ็ม-16 กว่า 20 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ นายต่วนดรอแม ต่วนกูซีโปร์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/1 หมู่ 7 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ เป็นผู้ใหญ่หมู่ 7 บ้านตันหยงลิมอ ถูกยิงเข้าที่มือขวา 1 นัด มือซ้าย 2 นัด จนกระดูกแตก อาการสาหัส ชาวบ้านนำส่งร.พ. ระแงะ ก่อนส่งต่อไปยังร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายต่วนดรอแมกลับจากตลาดตันหยงมัส โดยมีนายมูหัมหมัด ไฟซอล อายุ 18 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 299 หมู่ 11 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ นั่งมาด้วย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่น้อยกว่า 4 คน ใช้รถกระบะเป็นพาหนะ ประกบจากด้านข้าง ก่อนที่คนร้ายในรถกระบะกราดยิงด้วยอาวุธปืนสงครามจนรถเสียหลักขวางถนน คนร้ายลงจากรถจะเข้ายิงรัวซ้ำ แต่นายต่วนดรอแมชักอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.ยิงสวนปะทะ จนคนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงขับรถหลบหนีไป


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์