เคลื่อนศพเหยื่อระเบิดประจานบิ๊กตำรวจนครบาล

เมื่อเวลา 15.40 น.วันที่ 20 พ.ย. นางมาลีรัตน์ แก้วก่า สส.พรรคประชาธิปัติย์ พร้อมนายจำรูญ ณ ระนอง แกนนำผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ

ปราศรัยบนรถ 6 ล้อขยายเสียงเคลื่อนที่และผู้ชุมนุมเดินเท้ากว่า 500 คนรวมทั้งผู้บาดเจ็บ แห่ศพของนายเจนกิจ กลับสาคร เหยื่อผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตจากเหตุลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มพันธมิตรฯฯ ภายในทำเนียบรัฐบาลเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา


 ศพของนายเจนกิจถูกบรรจุในโรงศพบนรถตู้ของกองทัพธรรมเคลื่อนขบวนมาจากทำเนียบรัฐบาลฯมายังประตูหน้าทางเข้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล มี น.ส.ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ ภรรยา ถือตะเกียง ด.ญ.ลิปิการ์ กลัดสาคร อายุ 11 ปีบุตรสาวถือกระถางธูป และญาติถือภาพวาดของนายเจนกิจ ส่วน ด.ช.ศิรชัช กลัดสาคร อายุ 9 ปีบุตรชาย อยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจร้องไห้อยู่ตลอดเวลามีญาติโอบประครองอย่างใกล้ชิด


ทันทีที่ขบวนศพเดินทางมาถึงการ์ดพันธมิตรฯได้ช่วยกันยกโรงศพออกมาแสดงให้ตำรวจดูว่า

มีการตายเกิดขึ้นจริงจากการชุมนุมตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงด่าทอของผู้มาร่วมขบวนแห่ศพโจมตีตำรวจระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจนครบาลอย่างกึกก้องสลับกับเสียงมือปรบโห่ร้องสาปแช่งตำรวจต่อเนื่อง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากนั้นได้เคลื่อนขบวนไปยังวัดมกุฎกษัติฯ เตรียมการรดน้ำศพต่อไป โดยปิดเส้นทางการจราจรแยกลานพระรูปเลี้ยวขวาเข้าถนนราชดำเนินนอก ท่ามกลางการจราจรติดขัดชั่วขณะ


 นางมาลีรัตน์ กล่าวปราศรัยบนรถขยายเสียงว่า

วันนี้พวกเรามาด้วยจิตใจบริสุทธิ์มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตาย ซึ่งเป็นรายที่ 3 จากการชุมนุม และมาบอกท่านว่า ตอนนี้เราเอาศพที่ตายมาไว้หน้าบ้านท่านแล้ว และยืนยันจะไม่ยอมให้นายเจนกิจตายเปล่าอย่างแน่นอน อยากถามว่า หากเหยื่อที่ตายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้เป็นญาติพี่น้องของท่านบ้างจะทำอย่างไร ทั้งที่คนตายก็เสียภาษีนำมาใช้เป็นค่าเบี้ยเลี้ยง เป็นเงินเดือนของพวกท่านทั้งนั้น แต่วันนี้ตำรวจปกป้องประชาชนคนหนึ่งๆไม่ได้การที่เอาศพมาด้วยก็เพื่อให้เห็นกันเต็มตาว่ามีการตายจริง จะได้ไม่มีการมากล่าวหาว่า ปาระเบิดกันเอง ยิงปืนใส่กันเอง ทั้งที่พื้นที่ที่เกิดเหตุก็อยู่ในความรับผิดชอบของ บช.น.โดยตรงแต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ วันนี้ตำรวจดีก็มีตำรวจเลวก็มีเยอะ ขอให้ตำรวจที่ยังเป็นข้าราชการอยู่โดยเฉพาะตำรวจผู้ใหญ่เลิกทำตัวเป็นขี้ค่าเป็นข้าทาสรับใช้นักการเมืองได้แล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์