วันนี้ (17 พ.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์ก่อนที่จะมีข่าวการหย่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร
ตนได้เดินทางไปที่ฮ่องกง และได้ร่วมรับประทานอาหารกับทั้ง 2 คน ซึ่งไม่มีวี่แวว หรือสัญญาณความขัดแย้งใดที่จะนำมาซึ่งการหย่าครั้งนี้ ทั้งนี้ หลังจากที่มีข่าวการหย่าก็ไม่ได้ถามถึงเหตุผล แต่เชื่อว่าไม่ได้เป็นอย่างที่สื่อพยายามออกมาตีความ เพราะไม่เชื่อว่าการหย่าจะส่งผลต่อรูปคดีใดๆ และไม่ก่อให้เกิดการได้หรือเสียประโยชน์ในทรัพย์สินของคนใดคนหนึ่ง จึงไม่อยากให้สื่อนำเรื่องนี้ไปตีความให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้
อย่างไรก็ดี จะไม่ขอแสดงความคิดเห็นกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมวางมือทางการเมืองและยังคงมีความพยายามเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
แต่ตนเองพอเข้าใจความรู้สึกของคนที่ถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวจนเกินขีดความอดทนก็จำเป็นต้องมีการโต้กลับบ้าง เชื่อว่าจะไม่เป็นชนวนให้ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ทวีความรุนแรงขึ้น ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ว่า ร.ต.อ.เฉลิม เป็นหนึ่งในบุคคลที่จะได้รับการวางตัวเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวและไม่เคยคิดเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะอาวุโสยังไม่ถึง และมีคนที่เหมาะสมมากกว่าตนเอง พร้อมย้ำว่ามีความสุขกับตำแหน่งที่เป็นอยู่ปัจจุบัน และคาดว่าข่าวที่ออกมาน่าจะเป็นการคาดการณ์จากรายชื่อคนในพรรคที่ไม่ติดเงื่อนไขทางกฎหมายการเมืองมากกว่า
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีการจดทะเบียนหย่าของพ.ต.ท ทักษิณ กับภริยา
ถือเป็นเรื่องส่วนตัว และไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง จึงอยากให้รอฟังจากพ.ต.ท.ทักษิณเอง ซึ่งตนเองเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ย่อมต้องทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง แต่ก็หวังว่าจะยุติการกระทำ เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมือง และรัฐบาลก็ต้องมีความจริงจังในการแก้ปัญหาโดยไม่เลือกปฏิบัติ
ทั้งนี้ ส่วนกระแสข่าวที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี จะมารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) นั้น จะเป็นจริงหรือไม่ก็แล้วแต่
แต่สิ่งที่ตนเองเป็นห่วงก็คือเรื่องของการแก้ปัญหาโดยการใช้สันติวิธี เพราะซึ่งหากไม่ใช้วิธีดังกล่าวก็อาจก่อให้เกิดความรุนแรงในบ้านเมืองได้ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวต่อว่า การสรรหาตัวบุคคลลงรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า จะพิจารณาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถทั้งจากภายในและภายนอกพรรค โดยหากเลือกนายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องคำนึงถึงการเลือกตั้งซ่อม และคาดว่าจะได้ความชัดเจนในการสรรหาตัวบุคลในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้