การเมือง ตัวแทน สงคราม กับ ร่างทรง ของ ทักษิณ ชินวัตร

ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของ น.ส.จิราภรณ์ ลิ้มปานานนท์ ในฐานะกลุ่มนักวิชาการด้านสาธารณสุข 5 สถาบัน จำนวน 16 คน

ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ในฐานะสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย

เป้าหมายยังตรงกัน

นั่นก็คือ ปลายหอกยังพุ่งไปยังรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังพุ่งไปยังพรรคพลังประชาชน ไม่แปรเปลี่ยน

เพียงแต่รายละเอียดเท่านั้นที่แตกต่างออกไป

เช่นเดียวกับ การเคลื่อนไหวของกลุ่มส.ส.สตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งนำโดย นางผุสดี ตามไท กับ นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท

เช่นเดียวกับ การเคลื่อนไหวของกลุ่ม 40 ส.ว.ผ่านคณะกรรมาธิการตรวจสอบเหตุการณ์การสลายการชุมนุม ณ บริเวณหน้ารัฐสภา อันนำไปสู่การปะทะอย่างรุนแรงเมื่อเช้าวันที่ 7 ตุลาคม 2551

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการเคลื่อนไหวภายในพันธมิตรแห่งแนวร่วมเดียวกัน


ถึงแม้ว่าภายในกระบวนการเคลื่อนไหวยังเป็นคนหน้าเดิม-เดิมซึ่งเคยมีบทบาทในห้วงก่อนการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549

แต่ที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ แม้เป้าหมายยังเหมือนเดิม แต่รายละเอียดก็แปรเปลี่ยน

เป้ายังดำรงจุดมุ่งหมายในการโค่นล้มและทำลายสิ่งที่เรียกว่า "ระบอบทักษิณ" นั่นคือ ผลิตผลอันเนื่องแต่อิทธิพลทางการเมืองของพรรคไทยรักไทย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

แต่ก็เปลี่ยนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็น นายสมัคร สุนทรเวช ในเบื้องต้น

และภายหลังจาก นายสมัคร สุนทรเวช พ้นไปจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป้าหมายก็เป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

เช่นเดียวกับเมื่อก่อนเป็น พรรคไทยรักไทย ขณะนี้ก็เป็น พรรคพลังประชาชน

ด้านหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าระหว่างพรรคไทยรักไทยกับพรรคพลังประชาชนดำเนินไปในลักษณะคนละเรื่องเดียวกัน เหมือนกับไม่มีความแตกต่างระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับ นายสมัคร สุนทรเวช กับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง ก็ยืนยันให้เห็นว่าอำนาจและอิทธิพลของพรรคไทยรักไทยและของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ถูกบดขยี้ให้แหลกละเอียดแม้จะผ่านกระบวนการรัฐประหารมาแล้ว


มีหลายฝ่ายสรุปตรงกันว่า ที่สถานการณ์ความขัดแย้งยังดำรงอยู่เหมือนกับที่ดำรงอยู่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เพราะว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ยอมหยุด

เหมือนอย่างที่ นายอานันท์ ปันยารชุน เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเหตุปัจจัย

ที่มองเช่นนี้ 1 เพราะเชื่อว่าทุกปัจจัยที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ได้รับการหนุนเสริมทางการเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

เหมือนอย่างที่ คมช.เคยเรียกว่า "ท่อน้ำเลี้ยง" ตลอดปี 2550

ที่มองเช่นนี้ 1 เพราะเชื่อว่าทุกปัจจัยที่เคลื่อนไหวไม่ว่าจะเป็นพรรคพลังประชาชน ไม่ว่าจะเป็นขบวนการเสื้อแดงที่สำแดงออกผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจร ล้วนเป็นสายสัมพันธ์เดียวกันกับพรรคไทยรักไทย

พรรคไทยรักไทยอัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีบทบาทเป็นผู้นำอย่างมีนัยสำคัญ

กระนั้น สภาพที่หลายฝ่ายยอมรับตรงกันก็คือ พรรคไทยรักไทยถูกยุบไปแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 ทรัพย์สินและเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวถูกอายัดไปแล้วโดยอำนาจของคตส.

การดำรงอยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงมิได้เป็นการดำรงอยู่อย่างเป็น "ระบอบ" หากแต่ดำเนินไปในลักษณะ "นอมินี" หรือ "ตัวแทน"

การต่อสู้จึงเท่ากับเป็นการต่อสู้กับ "ตัวแทน" หรือ "ร่างทรง" ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร


น่าสนใจก็ตรงที่ "ร่างทรง" ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงสถานะเป็น "รัฐบาล"

เป็นรัฐบาลที่มี 233 ส.ส.อยู่ในมือ เป็นรัฐบาลที่ร่วมกันระหว่าง พรรคพลังประชาชน กับ พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคประชาราช พรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน

"ร่างทรง" ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงมีความชอบธรรมทั้งด้านนิติบัญญัติและด้านบริหาร