คดีทักษิณลาพักร้อน จะเป็นอย่างไรต่อไป ??

คดีทักษิณลาพักร้อนและมติแต่งตั้งรองนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี มิชอบ ยันเป็นผู้เสียหายมีสิทธิตาม รธน.ในฐานะเป็นประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตย ชี้ทำกฎหมายบิดเบือน เป็นเหตุให้ "วิษณุ-บวรศักดิ์" ต้องลาออก

เดินทางมายื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีที่ศาลปกครองกลางเคยมีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีที่เคยยื่นฟ้องว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2549 ที่รับรองการลาพักปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีตลอดไป และมติแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งศาลปกครองกลางเห็นว่า ตนและนายนคร ชมพูชาติ ผู้ฟ้องคดีอีกคน ไม่มีสิทธิฟ้องคดี เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง เนื่องจากมติดังกล่าวเป็นการปฏิบัติราชการภายในตามปกติ มิได้กระทบต่อสิทธิของผู้ฟ้องคดี ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก

การยื่นอุทธรณ์ครั้งนี้มาขอยืนยันว่า เป็นผู้เสียหายโดยตรง ตามมาตรา 3 และ 5 ของรัฐธรรมนูญ เพราะนายกรัฐมนตรีได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน อันมีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารประเทศ การขาดหัวหน้าคณะบริหารประเทศไปจึงกระทบต่อสิทธิของประชาชนโดยตรงในฐานะผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย

ในการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ก็เป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะผู้ที่จะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง และเป็น ส.ส. แต่ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม ไม่ได้เป็น ส.ส.ทั้งในระบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต ดังนั้น จึงขออำนาจศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ศาลปกครองกลางได้รับคำฟ้องคดีนี้ไว้พิจารณาต่อไปด้วย นายนิติธร กล่าว

ขณะนี้ระบบกฎหมายถูกบิดเบือน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เพราะการลาปฏิบัติราชการของนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา มีมติคณะรัฐมนตรีรับรอง แต่พอมาปฏิบัติหน้าที่กลับใช้คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ตนเห็นว่าไม่มีกฎหมายรองรับ ทำให้ระบบกฎหมายผิดทั้งหมด

"และแม้ว่าจะยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการลาปฏิบัติราชการของนายกรัฐมนตรีไปแล้ว แต่ความผิดได้เกิดขึ้นแล้วจะแก้ไขกลับไม่ได้ ดังนั้น สถานะของนายกรัฐมนตรีจึงมีปัญหา" นายนิติธร ระบุ

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก