ยุบพรรคต้องเที่ยงธรรม

ข้อสรุปของคณะทำงานอัยการเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ให้เสนอคำร้องให้ยุบพรรคการเมืองพร้อมกัน 5 พรรค อันประกอบไปด้วยพรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคแผ่นดินไทย พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า และพรรคพัฒนาชาติไทย ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ว่าไปแล้วน่าจะเป็นเรื่องดีในแง่ของการดำเนินการ ด้วยเหตุที่ไม่ต้องไปขยักขย่อน ทำทีละพรรคสองพรรคให้ยุ่งยากและขลุกขลัก ไม่รู้จักจบสิ้น แต่ในแง่ของความเป็นจริงก็มีคำถามให้ต้องกลับมาทบทวนว่า มีความสมเหตุสมผลและมีความยุติธรรมหรือไม่ เพียงไร

พรรคการเมืองเล็ก 2-3 พรรคถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำวินิจฉัยชี้ขาดให้ยุบพรรคฐานรับจ้างพรรคใหญ่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.มายังอัยการสูงสุดนานแล้ว แต่อัยการสูงสุดกลับไม่ส่งคำร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคไทยรักไทยนั้น หมดเวลาไปเกือบ 1 เดือนเต็มที่ผัดผ่อนกันไปผัดผ่อนกันมา ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ทาง กกต.เพิ่งจะส่งคำวินิจฉัยมาให้อัยการสูงสุดสดๆ ร้อนๆ แทบจะอ่านไม่ทัน นอกจากนี้ยังมีพฤติการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจเมื่อพยายามปกปิดไม่ให้สาธารณชนได้รับรู้ว่า ผลการสอบสวนพรรคประชาธิปัตย์มีรายละเอียดอย่างไร ซึ่งทางอัยการก็สามารถจะมีข้อสรุปได้ในทันทีทันใด ทำให้การส่งคำร้องพร้อมกันทีเดียวให้ยุบ 5 พรรคฐานมีการกระทำที่ขัดต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขจึงดูจะไม่ชอบมาพากล

ใช่เพียงเท่านั้น การเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีของนายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุดที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ก่อนหน้าที่คณะทำงานของอัยการจะประชุมเพื่อชี้ขาดเพียง 1 วัน ได้ก่อให้เกิดภาพลบที่ทำให้สาธารณชนเกิดข้อคลางแคลงใจและสงสัยในความเป็นอิสระของอัยการสูงสุดว่าจะมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมหรือเกิดพร่องไป หากอัยการสูงสุดจะรับเอาคำชี้แนะบางสิ่งบางอย่างของ พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินการ แม้จะมีการปฏิเสธจากทั้งสองฝ่ายว่าไม่ได้พูดจากันถึงเรื่องการยุบพรรคก็ยากที่จะหาคนปักใจเชื่อในคำปฏิเสธนั้น

เจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองว่าด้วยการยุบพรรคนั้น มีวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้บุคลากรในพรรคการเมืองปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มุ่งส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประการหนึ่ง พรรคการเมืองก่อกำเนิดจากคณะบุคคลที่มีอุดมการณ์อันเดียวกันและความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองโดยเสนอตัวให้ประชาชนได้พิจารณานโยบายและตัวผู้สมัคร อีกประการหนึ่ง พรรคการเมืองได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองที่ กกต.จัดสรรให้ การกระทำใดที่เป็นไปเพื่อล้มล้างการปกครอง หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือการกระทำที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงย่อมถือเป็นการกระทำที่ถือว่ากระทำผิดรุนแรงถึงขั้นต้องยุบพรรค

ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองอีกเช่นกัน บัญญัติให้ กกต.เป็นเจ้าทุกข์ในฐานะผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีคำวินิจฉัยข้อกล่าวหาพรรคการเมืองที่กระทำผิดต่อพระราชบัญญัติ และให้พนักงานอัยการเป็นทนายแก้ต่างในฐานะผู้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ทั้ง 2 องค์กรจึงต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาตามเนื้อผ้า ถือเอาความสุจริตใจและความยุติธรรมเป็นที่ตั้ง การวินิจฉัยชี้ขาดว่าจะยุบพรรคการเมืองใดหรือไม่อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญซึ่งจะต้องพิจารณาและพิเคราะห์จากพฤติการณ์แห่งข้อเท็จจริงแล้วเทียบเคียงกับตัวบทกฎหมาย ในกระบวนการแห่งการดำเนินการนั้น องค์กรทั้งหลายไม่ควรจะทำลายเกียรติยศแห่งความน่าเชื่อถือด้วยการกระทำที่ฝักใฝ่หรือเอนเอียงเข้าข้างพรรคการเมืองจนชาวบ้านจับได้ไล่ทัน