ทักษิณ ดิ้นรักษาอำนาจนาทีสุดท้าย! ม็อบกู้ชาติ-ฝ่ายค้าน ปิดทาง ทรท.รีเทิร์น
โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์ 3 มีนาคม 2549 11:01 น.
จับตาการต่อสู้ระหว่างสองขั้วการเมือง เมื่อ ทรท.ดิ้นรักษาอำนาจ ผลักดันการเลือกตั้งรอบใหม่ให้ หวังคืนศูนย์อำนาจ ขณะที่ฝ่ายค้าน-พันธมิตรกู้ชาติ ตั้งป้อมปิดตายทางออก ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ชี้ทหารมีหน้าที่ป้อง รธน.-สถาบันหลัก ไม่ใช่เพื่อนร่วมรุ่น นักนิติศาสตร์แนะวิธีล้มเลือกตั้งก่อนปฏิรูปการเมืองรอบ 2
กะพริบตาไม่ได้เป็นอันขาดสำหรับสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงชนิดนาทีต่อนาทีเช่นนี้ ทั้ง 3 พรรคฝ่ายค้าน ประชาธิปัตย์-ชาติไทย-มหาชน กับ ไทยรักไทย ที่ต่างฝ่ายต่างผลัดกันเล่นเกมรุกและรับอย่างพัลวัน เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบกันจนนาทีสุดท้าย
เมื่อ 3 พรรคฝ่ายค้านประกาศเดินหน้า คว่ำบาตร ไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งรอบใหม่ ที่จนถึงนาทีนี้ยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่า 2 เม.ย.นี้ 4 กกต. จะได้มีโอกาสจัดการเลือกตั้งหรือไม่ ทางด้านนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย กลับเดินหน้าพยายามผลักดันให้เกิดการเลือกตั้งขึ้นมากที่สุด เนื่องจากเชื่อว่าตัวเองอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบ ทางด้าน
ม็อบกู้ชาติ ประกาศเดินหน้าขับไล่นายกฯ ทักษิณ ให้ลาออกจากตำแหน่ง โดยไม่มีทางเลือกอื่นให้ได้มีโอกาสต่อรอง
ความเคลื่อนไหวที่ก่อตัวขึ้นเวลานี้ไม่เพียงแต่จะสร้างผลกระทบต่อสถานการณ์ความมั่นคงภายในประเทศเท่านั้น แต่ปรากฎว่าบรรดานักลงทุนเองก็อยู่ในอาการหายใจไม่ทั่วท้องเช่นกัน ก่อนหน้านี้แม้จะมีเสียงเตือนจากคนในและนอกพรรคไทยรักไทย พร่ำเตือนนายกฯทักษิณ ให้รีบกลับลำแก้ปัญหาก่อนที่เรื่องราวจะลุกลามบานปลาย แต่กลับไม่มีท่าทีตอบรับจากนายกฯทักษิณ ตรงกันข้ามเจ้าตัวยิ่งเดินหน้านำพาทุกอย่างดิ่งลงเหว จึงทำให้ภาพที่เกิดขึ้นเวลานี้กลายเป็นว่า 3 กลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหว โดยที่ต่างไม่มีใครยอมรับข้อเสนอที่หักล้างความต้องการของตัวเองอีกต่อไป
ล้มเลือกตั้งรอบใหม่ ปิดทาง ทักษิณ รีเทิร์น
ความต้องการของ 3 พรรคฝ่ายค้าน คือพยายามดิ้นหาทางออกเพื่อให้มีการปฏิรูปการเมืองรอบ 2 ให้เกิดขึ้น เพราะเชื่อว่าน่าจะมีแต่หนทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้พรรคการเมืองที่เล็กกว่าไทยรักไทย จะมีโอกาสลืมตาอ้าปากได้บ้าง
สำหรับ ม็อบกู้ชาติ นั้นดูเหมือนจะเป็นกลุ่มมวลชนเดียวที่ไม่ยอมเปลี่ยนจุดยืนและท่าทีเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น การเดินหน้าขับไล่อย่างเป็นขั้นตอนจึงยังไม่มีทางยุติลงได้ง่ายดาย หากยังเป้าหมายยังไม่บรรลุ ...ขณะเดียวกัน ขณะที่การเคลื่อนตัวของมวลชนกลุ่มดำเนินไป ก็ได้ขีด เส้นตาย เอาไว้ให้นายกฯ ทักษิณ เช่นกัน
นายกฯ ทักษิณ และพรรคไทยรักไทย พยายามยึดอำนาจไว้ในมือให้ได้มากที่สุด โดยที่ไม่สนใจว่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้นตามมานั้นมากมายเพียงใด จึงไม่แปลกที่จะเห็นอาการผลักดันให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ในวันที่ 2 เม.ย.หรืออาจจะล่าช้ากว่านั้นก็สามารถรอคอยได้...
แต่ทั้งนี้สิ่งที่ต้องจับตาคือ ความเป็นไปได้ ที่การเลือกตั้งครั้งใหม่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ในวันที่ 2 เม.ย.หรือล่าช้าไปกว่านั้น เนื่องจากทั้ง 3 พรรคฝ่ายค้านและม็อบกู้ชาติเองต่างรู้ดีว่า หากปล่อยให้นายกฯ ทักษิณ ได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง ความเสียหายจะเกิดขึ้นอย่างหนัก กลไกการตรวจสอบฝ่ายบริหารจากทุกส่วนจะไร้สภาพ เหมือนที่เคยเป็นมา
เรียกร้อง นายกฯคนกลาง ผ่าทางตัน..!
เพราะฉะนั้น นับจากนี้ไปการเคลื่อนไหวทั้งจากฝ่ายค้านและกลุ่มมวลชนที่ต้องขับไล่นายกฯทักษิณ จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น..!
สิ่งที่เกิดขึ้นเวลานี้ คือ ไม่มีใครต้องการระบบทักษิณ อีกต่อไปหรือกติกาที่นายกฯ ทักษิณ เป็นฝ่ายกำหนด ปัญหาที่น่าเป็นห่วงและหลายคนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นคือการใช้อำนาจนอกระบบ แต่ต้องยอมรับว่ามีบางกระแสก็อาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ลำบาก ปรีชา สุวรรณทัต อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวงศ์ชวลิตกุล ระบุกับผู้จัดการรายสัปดาห์ พร้อมทั้งชี้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นได้เดินมาถึงทางตันแล้ว และยิ่งมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ขึ้นจริงท่ามกลางปัญหาเช่นนี้ สิ่งที่จะตามมานั้นจะสร้างความเสียหายมากขึ้น ไม่เฉพาะแต่งบประมาณการเลือกตั้งที่สูญเสียไป
ประเด็นมีการพูดถึงการใช้มาตรา 7 (ระบุว่าเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญบังคับ ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักกฎหมายว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน แต่โดยส่วนก็เห็นว่าวิธีนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง
นักนิติศาสตร์ มองว่า ความเป็นไปได้ที่จะนำมาตรา 7 มาใช้นั้นถึงแม้จะเป็นแนวทางที่ดีแต่คงไม่มีใครต้องการรบกวนเบื้องสูง หากไม่จำเป็น และอีกทั้งต้องไม่มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ เกิดขึ้นให้ชัดเจนก่อน และหากมีการใช้มาตรา 7 จะส่งผลให้นายกฯต้องพ้นจากตำแหน่งไปทันที จึงเป็นการเปิดทางให้ นายกฯ คนใหม่ ได้เข้ามา ซึ่งหลายคนก็เรียกร้องขอนายกฯพระราชทาน เหมือนสมัยที่ได้อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ แต่เรื่องนี้หลายคนก็ต้องไปขบคิดกันว่าทำได้หรือไม่ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน ก่อนที่จะยื่นเรื่องถวายฎีกา
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะทำให้การเลือกตั้งรอบใหม่ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามที่นายกฯ ทักษิณ และพรรคไทยรักไทยต้องการในอีกแง่มุมหนึ่งยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ 4 กกต. ถ้าหาก กกต.ทั้งหมดพร้อมใจกันเลือกวิธีลาออกจากตำแหน่ง ก็จะไม่มีผู้ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง การเลือกตั้งก็จะเกิดขึ้นไม่ได้โดยปริยาย แต่เชื่อว่าในความเป็นจริงแล้วคงเป็นไปไม่ได้ เพราะกกต.ส่วนใหญ่ก็โยงใยกับฝ่ายรัฐบาลมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ม็อบกู้ชาติ+ฝ่ายค้าน ตีขนาบ ทักษิณ
ขณะที่ฝ่ายการเมืองยังคงเล่นเกมต่อรองกันอย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่าทางฝากพลังมวลชน ม็อบกู้ชาติ มีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนที่จะ ขจัดต้นตอของปัญหาทั้งหมด คือตัวนายกฯ ทักษิณ ต้องพ้นไปจากศูนย์รวมแห่งอำนาจเท่านั้น ดังนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกหากเวลานี้สังคมจะจับตามองความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 มี.ค.จะมีบทยุติเช่นใด แต่ที่แน่นอนถึงแม้เป้าหมายจะอยู่ที่ตัว นายกฯ ทักษิณ ก็ตาม แต่ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่าหากเป้าประสงค์สำเร็จได้จริง การเลือกตั้งรอบใหม่ ที่ไทยรักไทยคาดหวังก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน..
การเมืองมันพลิกไปพลิกมาตลอด แต่ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพวกเรา เพราะสิ่งที่เรียกร้องคือการให้นายกฯทักษิณ ที่เป็นตัว เหตุของปัญหาทั้งหมดออกไปจากตำแหน่งเท่านั้น ส่วนขั้นตอนหลังจากนั้น จะมีนายกฯพระราชทาน หรือจะมีการปฏิรูปการเมืองรอบ 2 ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มองค์กรประชาชนพันธมิตรกู้ชาติ กล่าวและระบุว่า สิ่งที่สังคมและประชาชนต้องร่วมกันทำให้เกิดขึ้นคือการแสดงพลังเพื่อให้สิ่งที่เราเรียกร้องให้เกิดเป็น ประชามติ ออกมา เจตนารมณ์และจุดประสงค์ของกลุ่มพันธมิตร ต้องมีความชัดเจน
เราต้องบอกว่าเมื่อประชาธิปไตยทางอ้อม มันใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป ทุกอย่างมันแย่ไปหมดแล้ว จึงต้องอาศัยประชาธิปไตยทางอ้อมเป็นตัวช่วย ถึงแม้เวลานี้นายกฯจะพยายามสร้างกระแสเรื่องทหาร เรื่องปฏิวัติ เรื่องความรุนแรง ทั้งๆ ที่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว รัฐบาลหวังทำให้เรื่องนี้ลดพลังมวลชน
อันดับแรกคงต้องถามว่าเจตนารมณ์ของสถาบันทหารคืออะไร คือการปกป้องสถานบันสูงสุดใช่หรือไม่ คือการปกป้องรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ และเชื่อว่าหากมีทหารคนใด หรือกลุ่มใดที่ต้องการช่วยเหลือให้เพื่อนร่วมรุ่นของตัวเองยึดอำนาจเอาไว้น่าจะเป็นพวกล้าสมัย หากถึงจุดหนึ่งที่สถาบันสำคัญถูกกระทบมากๆคิดว่าทหารก็คงไม่ได้
ไชยวัฒน์ ยังเชื่อว่าไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 เม.ย.นี้หรือล่าช้าออกไป ก็ล้วนแล้วแต่สร้างผลกระทบต่อประเทศมากกว่า และที่สำคัญยังทำให้นายกฯทักษิณ ได้เปรียบเหมือนเดิม ดังนั้น ภารกิจในวันที่ 5 มี.ค.นี้ต้องจบเพื่อเป็นทางออกสุดท้าย เป็นคำตอบสุดท้ายเท่านั้น
จากความต้องการของ 3 พรรคฝ่ายค้านที่ต้องการให้เกิดการปฏิรูปการเมืองรอบ 2 บวกกับเสียงเรียกร้องของพลังมวลชน ที่ต้องการให้ ต้นเหตุปัญหา คือนายกฯ ทักษิณ พ้นจากไปจากศูนย์รวมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ ภายในวันที่ 5 มี.ค.นี้ แม้ทั้งสองฝ่ายจะเป็นไปในลักษณะต่างฝ่ายต่างเคลื่อนไหวนายกฯทักษิณ และพรรคไทยรักไทย ก็ตาม แต่ จุดร่วม ของคนกลุ่มนี้ คือ การปฏิเสธระบอบทักษิณาธิปไตย ไม่ให้หวนกลับมาสู่สังคมไทยอีกเป็นครั้งที่สอง
ดังนั้น ในที่สุดแล้วโอกาสที่ศึกจากซ้ายและขวาอาจจะตีโอมล้อมจนทำให้นายกฯคนเก่ง จนแต้มได้ในที่สุด เว้นแต่หากการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้จริงและพรรคไทยรักไทยสามารถ ส่งนโยบายซื้อใจคนกลุ่มใหญ่ระดับรากหญ้า สร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาอีกครั้ง
ชัยชนะอาจพลิกกลับมาอยู่ในมือนายกฯ ทักษิณ ก็เป็นไปได้ไม่ยากนัก...