นับตั้งแต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ถูกโค่นอำนาจโดยกองทัพนำขบวนรถถังมายึดอำนาจในวันที่ 19 กันยายน 2549 ทำให้อดีตนายกฯ อันเป็นที่รักของกลุ่มเสื้อแดงต้องระเห็จไปพำนักอยู่ในต่างแดน หนีไปซบประเทศประชาธิปไตยอย่างประเทศอังกฤษ
"ทักษิณ"พเนจร
เป็นราษฎรที่ได้รับเกียรติในฐานะนักลงทุนให้เข้าออกประเทศได้อย่างอิสระรวมเป็นเวลากว่า 2 ปี 50 วัน ก่อนที่จะถูกจำกัดสิทธิเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน เมื่อทางการประเทศอังกฤษยกเลิก "วีซ่า" พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ภริยา
การยกเลิกวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณในครั้งนี้นับว่าเป็นการให้เกียรติอดีตนายกฯพอสมควรที่ไม่ไล่ออกแล้วปิดประตูใส่หน้า แต่ใช้วิธีการปิดประตูลงกลอนห้ามเข้า อาศัยจังหวะที่พ.ต.ท.ทักษิณเดินออกจากประเทศ
ประเทศแรกและประเทศเดียวที่พ.ต.ท.ทักษิณเลือกไปอาศัยหลบภัยการเมืองนับตั้งแต่ถูกรัฐประหาร มีบ้านพักส่วนตัวที่อบอุ่นอยู่กับครอบครัวได้โดยไม้ถูกรบกวนจากกลุ่มมือตบ แต่วันนี้กลับไปไม่ได้แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องปิดบังอำพรางแหล่งที่อยู่เพราะประเทศที่อ้าแขนรับบรรยากาศประเทศก็ไม่ถูกใจ ส่วนประเทศที่อยากไปกลับปิดประตูใส่ หรือบางประเทศถึงขนาดประกาศพร้อมส่งตัวกลับไทยทุกเมื่อ
ด้วยเหตุนี้ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องปิดบังที่อยู่หาที่ซ่อนตัวใหม่
ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานเมื่อวันที่ 10 พ.ย.ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศว่า จะเดินทางออกจากสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ไม่ระบุว่าจะเดินทางไปที่ใดต่อไป ยืนยันหนักแน่นว่า กระแสข่าวไปประเทศฟิลิปปินส์ เป็นเรื่องที่สื่อมวลชนมั่วกันเอง
ขณะที่ทางการฟิลิปปินส์ ก็ยืนยันว่าหากเจอ พ.ต.ท.ทักษิณ จะส่งตัวกลับประเทศไทยทันทีโดยไม่มีข้อแม้
โจทย์ต่อมาที่ต้องแก้ คือ แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปอยู่ที่ไหน แล้วกระแสข่าวที่ว่าจะกลับมากู้ศักดิ์ศรีในเดือนธันวาคมนี้จะเป็นจริงหรือไม่ คนไทยจะได้เห็นพ.ต.ท.ทักษิณก้มกราบพื้นแผ่นดินไทยอีกครั้งเหมือนคราวที่ ดินทางกลับบ้านเกิดเป็นครั้งแรกภายหลังการรัฐประหาร ในเช้าวันที่ 28 ก.พ. 2551 เวลา 09.45 ด้วยเที่ยวบินทีจี 603 มาจากเกาะฮ่องกง คุกเข่าก้มกราบหน้าสนามบินสุวรรณภูมิ
การกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนั้น อยู่ไม่นานเดินทางออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ตามที่กำหนดระบุ คือ เดินทางไปบรรยายพิเศษ 2 แห่ง ที่ ประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย Japan Tutor Leader School และ Kyoshu Institute of Leadership จากนั้นก็เตรียมเดินทางไปชมการเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ
จากนั้นเมื่อวันที่ 5 ส.ค. คุณหญิงพจมาน ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรม และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัว เดินทางออกจากประเทศไทยในเวลา 10.40 น. ด้วยเที่ยวบินทีจี 0614 สุวรรณภูมิ-ปักกิ่ง พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางคนละ 9 ใบ ซึ่งสร้างข้อกังขาว่าการเดินทางครั้งนี้ ราวกับว่าเตรียมอพยพลี้ภัย
ทั้ง 3 คน ได้ออกเดินทางภายหลังจากศาลอาญา รัชดา พิพากษาจำคุกคุณหญิงพจมาน และนายบรรณพจน์ คนละ 3 ปี และจำคุกนางกาญจนาภา 2 ปี เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา
กระทั่ง วันที่ 13 ส.ค. ภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมภรรยา และลูกๆ ทั้ง 3 คน ก็ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนอีกครั้ง ที่ย่านกิลฟอร์ดของเขตเซอร์เรย์ เคาน์ตี้ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่ง น.ส.พิณทองทา ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ ที่เมืองกิลด์ฟอร์ด ด้านเอเอฟพีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวอาศัยอยู่ที่เซนต์ จอร์จส์ ฮิลล์ ที่พักเอกชนในย่านเวย์บริดจ์ ซึ่งเป็นย่านที่พำนักของมหาเศรษฐีในเขตเซอร์เรย์ ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน
มีข่าวคราวสารทุกข์สุขดิบของอดีตนายกฯ แว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ และเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ทักษิณก็ได้โฟนอินเข้ามาในรายการความจริงวันนี้สัญจร จากเกาะฮ่องกง หลังจากที่ศาลฎีกาตัดสินจำคุกพ.ต.ท.ทักษิณ 2 ปี คดีที่ดินรัชดาภิเษก
หลังจากที่ผลุบๆโผล่ๆระหว่างเกาะฮ่องกง-อังกฤษและร่องรอยสุดท้ายที่พบตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ก็หายวับไปหลังจากที่บินออกจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนโดยไม่ทราบว่าจุดหมายปลายทางจะไปที่ใด
จุดหมายที่ว่าอาจจะเป็นเกาะเล็กๆที่เปิดประตูรับอดีตนายกฯอย่างเต็มใจหรือประเทศแถบแอฟริกาอยากให้นายกฯทักษิณไปช่วยแก้จนให้คนทั้งประเทศก็เป็นได้ ทั้งหมดเป็นแค่การคาดเดา บางทีพ.ต.ท.ทักษิณอาจจะหาช่องทางกลับเข้าประเทศอังกฤษอีกครั้งก็เป็นได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
