"สัก"ชิงไอเดีย ตั้งค่าหัวล่าตัว"แม้ว"มาลงโทษ ยันมีช่องทางอัยการควานตัวได้"กษิต"กดดันรัฐบาลริบทุกพาสปอร์ต บีบกลับเมือง ไทย “ถาวร” สวดอัยการฝ่อแก้ตัวล่วงหน้าล่าตัว “ทักษิณ” ลำบากยิ่ง เอแบคโพลรายงานหลัง โฟนอินรัฐบาลเสียงวูบความนิยมเกรดตก ขณะที่นายกฯสมชายปฏิเสธนัดเจอ “แม้ว” ที่ฟิลิปปินส์ พปช. อ้างโดนถอนวีซ่าเหตุบินเข้าออกอังกฤษระหว่างขอลี้ภัย โฆษกรัฐบาลย้ำจุดยืนรัฐบาลพร้อมปฏิบัติตามกระบวนการกฎหมายทุกประเทศ รอสัญญาณนายใหญ่แก้เกม “สุชาติ” เสนอ “มิ่งขวัญ-เฉลิม-อภิวันท์” สอยเก้าอี้นายกฯ สำรอง พปช. หยัน “โอบามาร์ค” การเมืองเก่าอย่าริเทียบชั้นผู้นำโลก เครือข่ายผู้หญิงออกโรงป้อง “รสนา” โดนรุมกินโต๊ะ
ปัดไปฟิลิปปินส์นัดเจอ“แม้ว”
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เวลา 09.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และคุณหญิงพจมาน ภริยา ถูกอังกฤษเพิกถอน วีซ่าว่า เป็นเรื่องของรัฐบาลอังกฤษไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรไม่ได้ ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นัดหมายพบกับนายกฯที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในระหว่างการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศฟิลิปปินส์ นายสมชาย ตอบว่า ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกัน การเดินทางไปฟิลิปปินส์ของตนได้ตกลงกันมาเป็นเดือนแล้ว ไปเยือนเพื่อแนะนำตัวในฐานะเป็นนายกฯ ในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ไม่เกี่ยวกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะไปฟิลิปปินส์
เมื่อถามอีกว่า คิดว่าการที่รัฐบาลอังกฤษ เพิกถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเกี่ยวข้องกับการโฟนอินของอดีตนายกฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามทางการอังกฤษ ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวจะลำบากมากขึ้น นายสมชาย กล่าวติดตลกว่า “เดี๋ยวต้องไปถามก่อนว่าลำบากหรือไม่” เมื่อถามว่าจะพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางทางการทูต (พาสปอร์ตแดง) ของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่อย่างไร นาย สมชายไม่ตอบคำถาม แล้วเดินขึ้นรถยนต์ส่วนตัวไปทันที
อ้างบินเข้าออกโดนถอนวีซ่า
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส. นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยาถูกเพิกถอนวีซ่าการเข้าออกประเทศอังกฤษว่า ไม่เกี่ยวกับกรณีที่มีการโฟนอินเข้ามาในรายการความจริงวันนี้ต้านรัฐประหารตามที่ประชาธิปัตย์กล่าวหา แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับการทำผิดกฎระเบียบการยื่นคำร้องการขออนุญาตมีถิ่นพำนักชั่วคราวของ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากตามข้อกำหนดระบุไว้ว่าการขอมีถิ่นพำนักชั่วคราวในประเทศใด ๆ นั้น ผู้ร้องขอ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศนั้น ๆ ในระหว่างการพิจารณา แต่ พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางออก นอกประเทศอังกฤษทำให้ถูกเพิกถอนวีซ่าใน ที่สุด ส่วนเรื่องการลี้ภัยเชื่อว่าการยื่นขอลี้ภัยเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของอังกฤษ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส. เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนคิดว่าเหตุผลที่อังกฤษเพิกถอนวีซ่าของ พ.ต.ท. ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ไม่ได้มีเหตุผล มาจากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินรายการความจริงวันนี้สัญจร หรือไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ประเทศเป็นเวทีการเมือง แต่คิดว่าการที่อังกฤษตัดสินใจเช่นนั้นเพื่อตัดความรำคาญไม่อยากให้มีความวุ่นวายและไม่อยากให้เกิดปัญหากับรัฐบาลไทย ไม่เช่นนั้นพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยกพวกไปปิดล้อมยื่นหนังสือประท้วงไม่จบสิ้น
รอ“ทักษิณ”วางเกมแก้ปัญหา
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงท่าทีของรัฐบาลหลังอังกฤษเพิกถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณและภริยาว่า รัฐบาลไทยมีจุดยืนเดียวคือให้เรื่องดังกล่าวเดินไปตามกระบวนการของกฎหมายของอังกฤษ ไทยและทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแต่ละประเทศกลไกกฎหมายก็ไม่เหมือนกัน การเพิกถอนวีซ่าก็ถือเป็นกลไกหนึ่งของอังกฤษที่มีสิทธิดำเนินการ ส่วนจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณและฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่าจะ คิดอ่านกันอย่างไร ส่วนข้อเรียกร้องให้ยกเลิกพาสปอร์ตทูตนั้นอยู่ที่นายกฯจะพิจารณาเรื่องนี้น่าจะมีแนวทางปฏิบัติอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุเพราะอังกฤษอึดอัดไม่อยากถูกใช้เป็นเวทีการเมือง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนคงไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นอื่น แต่เชื่อมั่นว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและอังกฤษ
“กษิต”แนะเลิกทุกพาสปอร์ต
นายกษิต ภิรมย์ รองนายกฯเงา พรรคประชาธิปัตย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ กล่าวถึงกรณีที่อังกฤษยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานว่า ต่อไปการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานกลับมาไม่ว่าทั้ง 2 คนจะอยู่ประเทศไหน สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องแจ้งไปประเทศนั้น เพื่อขอให้ส่งตัวกลับมา เพราะทั้ง 2 คน เป็นผู้ร้าย ทั้งนี้ ไม่ว่าประเทศนั้นจะมีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ก็ตามสามารถขอไปได้ และอยู่ที่ดุลพินิจของประเทศนั้น รวมถึงข้อมูลของสำนักงานอัยการสูงสุดจะให้ข้อมูลไป และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งต่อไปขั้นตอนอาจมากขึ้น ทั้งนี้ทางการไทยควรยกเลิกพาสปอร์ตให้หมดทุกแบบ ถ้ายกเลิกหมดก็จะทำให้ไม่มีเอกสารเดินทางก็ต้องกลับมาไทย
นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเพิกถอนวีซ่าเขาจะไม่บอกสาเหตุเราถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ซึ่งการงดให้สิทธิเดินทางเข้าประเทศนั้นเขาก็ต้องมีเหตุผล โดยทั่ว ๆ ไป จะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยของประเทศเขา รวมทั้งเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจด้วยซึ่งทางประเทศอังกฤษเขาก็คงติดตามประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เขาเคารพกฎหมายไทยก็คงพิจารณาในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีคงไม่มีปัญหา เพราะแต่ละประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะเดินทางไปก็มีระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ทันสมัยอยู่แล้ว
“ถาวร”สวดอัยการฝ่อล่วงหน้า
นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่อัยการออกมาระบุว่าการติดตามตัว พ.ต.ท. ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยจะยากขึ้นหลังจากที่อังกฤษถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เมื่อรัฐบาลอังกฤษไม่สมัครใจให้คนชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยาอยู่ในประเทศต่อไป ถือว่าเป็นโชคดีของประเทศไทยที่จะมีโอกาสเริ่มต้นการขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนในประเทศอื่น หาก พ.ต.ท.ทักษิณหนีไปอยู่ประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญา ก็ให้ใช้การตกลงต่างตอบแทนกับประเทศนั้น ๆ แลกกับการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มารับโทษในไทย ซึ่งจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาต่อไป
นายถาวร กล่าวอีกว่า ฝากบอกไปถึงสำนักงานอัยการสูงสุดว่า อย่าแก้ตัวล่วงหน้าว่า นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีลำบาก ควรใช้ความรู้ทางด้านกฎหมายในฐานะทนายแผ่นดิน ใช้อำนาจรัฐแทนประชาชนอย่างจริงจังเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ ที่สำคัญคือมีหน่วยราชการหลายหน่วย โดยเฉพาะหน่วยงานด้านกฎหมาย ที่มีผู้บริหารเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายกฯซึ่งเป็นน้องเขยมักจะทำแบบลูบหน้าปะจมูก ดังนั้น ขอให้คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็น บุคคลธรรมดา ที่ถูกพิพากษาให้จำคุก ต้องไม่ เลือกปฏิบัติ การที่อัยการพูดเช่นนั้นถือเป็นการแก้ตัวล่วงหน้าและปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัวเอง
ไม่ยากล่าตัว“แม้ว”กลับไทย
นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษก คตส. กล่าวถึงกรณีการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีว่า หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของอัยการต้องคอยจับตาว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ไหน ซึ่งเป็นหน้าที่ของอัยการโดยตรง ทั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย จะต้องขอความร่วมมือไปยังทูตทุกประเทศให้ช่วยกันสอดส่องติดตามว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปไหนบ้าง และการตรวจสอบการเดินทางผ่านสายการบินก็สามารถทำได้ด้วยว่าเดินทางไปไหนบ้าง หากรัฐบาลหรือตำรวจให้ความสนใจสามารถตั้งรางวัลนำจับได้
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลอังกฤษยกเลิกวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า รัฐบาลอังกฤษคงไม่สบายใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มาใช้พื้นที่ของเขาในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเรื่องนี้ตนอยากถามกลับนายสมชาย และ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.การต่างประเทศ ทำไมไม่ยกเลิกพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคนถูกตัดสินให้จำคุก 2 ปี ยังสามารถใช้พาสปอร์ตแดงเดินทางไปรอบโลกได้อีกหรือ
โพลเผยโฟนอินทำเสียงวูบ
ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่องศึกษาผลกระทบทางการเมืองต่ออารมณ์ความรู้สึกของสาธารณชน ภายหลัง พ.ต.ท. ทักษิณ โฟนอินในวันที่ 1 พ.ย. กรณีศึกษาประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 18 จังหวัด ระหว่าง วันที่ 2-8 พ.ย. พบว่า หลังการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ พบว่าแนวโน้มค่าเฉลี่ยคะแนนความสง่างามและความชอบธรรมของรัฐบาลชุดปัจจุบันลดลง จากเต็ม 10 คะแนน สำรวจ เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ได้ 4.13 แต่หลังโฟนอิน เหลือ 3.97 แต่คะแนนความสงสัยต่อการเอื้อประโยชน์กลุ่มทุน ญาติ กลับเพิ่มขึ้นจาก 4.79 มาเป็น 5.17
ดร.นพดล กล่าวอีกว่า สำหรับความเครียดของประชาชนต่อเรื่องการเมืองยังคงสูงขึ้น คือ 5.89 จากเดิมอยู่ที่ 5.88 คะแนน จาก 10 คะแนน อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความอยากได้รัฐบาลแห่งชาติเพิ่มขึ้นจาก 5.08 มาอยู่ที่ 6.02 และแนวคิดการเมืองใหม่การเมืองภาคประชาชน เพิ่มจาก 5.42 มาอยู่ที่ 5.58 ในภาพรวมพบว่าคนที่นิยมเหมือนเดิมกับกลุ่มคนที่นิยมเพิ่มขึ้นมีอยู่รวมร้อยละ 47 ขณะที่กลุ่มคนที่ไม่นิยมและยิ่งไม่นิยม พ.ต.ท.ทักษิณเลยมีถึงร้อยละ 53
ความนิยมรัฐบาลเกรดตก
ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพล ระบุว่ามี ร้อยละ 66.7 ยังคิดว่าการโฟนอินยิ่งทำให้สถาน การณ์บ้านเมืองแย่ลง นอกจากนี้ยังพบว่ามีผลกระทบต่อรัฐบาลปัจจุบัน เพราะคะแนนความนิยมลดลงจาก 56.3 ในเดือน ต.ค. ซึ่งอยู่แดนB-เหลือเพียงร้อยละ 49.0 อยู่ในแดนC หมายความว่าจะต้องเจอแรงเสียดทานมากขึ้น
ดร.นพดล ยังกล่าวว่า ที่น่าพิจารณาคือวันนี้ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น ประชาชน ร้อยละ 40.6 จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ รองลงมาที่ใกล้เคียงกันคือร้อยละ 39 จะเลือกพรรคพลังประชาชนหรือพรรคที่มีอดีต ส.ส. ของพรรคไทยรักไทย ส่วนร้อยละ 20.4 จะเลือกพรรคอื่น เช่น พรรคชาติไทย พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เป็นต้น ซึ่งผลการสำรวจยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าหากเลือกตั้งใหม่อำนาจทางการเมืองก็ไม่น่าจะต่างไปจากปัจจุบัน เพราะถ้างบประมาณต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาลปัจจุบันเกิดดอกออกผล ก็น่าจะทำให้พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งกลับเข้ามาอีกได้ไม่ยากนัก
พปช.แข่งชงนายกฯสำรอง
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานพัฒนา เปิดเผย 5 รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ สำรองกรณีถูกยุบพรรรคว่า เป็นเพียงการพูดคุยนอกรอบเล่น ๆ ของ ส.ส. ในกลุ่มเล็กว่าหากศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชนแล้วไม่ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถึงยุบก็จะสู้ให้รัฐบาลครบวาระ 4 ปี และรักษาการ 3 เดือน ก่อนเลือกตั้งใหม่ให้ได้ จึงมาคิดเรียงลำดับรายชื่อผู้ที่เหมาะสมซึ่งไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค โดยลำดับแรกเป็นนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ ลำดับสอง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข เพราะเป็นนักการเมืองที่รักพรรคนี้จริงและลำดับสามเป็น พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา เป็นต้น
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ประเมินว่าคดียุบพรรคจะมีคำตัดสินประมาณไม่เกินเดือนม.ค. 2552 แม้ยุบก็เชื่อมั่นว่านายกฯจะไม่ประกาศ ยุบสภา เพราะจะเข้าทางฝ่าย ส.ว. สรรหาที่ต้องการเข้ามาทำหน้าที่แทน ส.ส. จากนั้นก็จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.7 เปิดทางนายกฯคนนอกก่อนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยบรรจุการเมืองใหม่ของกลุ่มพันธมิตรฯต่อไป
หยัน“โอบามาร์ค”ลีลาเก่า
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จัดงานระดมทุนเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมาพร้อมประกาศจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดว่า การเป็นรัฐบาลของพรรคการเมืองคงไม่ได้อยู่ที่ความสามารถในการระดมทุน แต่อยู่ที่การระดมความศรัทธาจากพี่น้องประชาชน ระดมผลงานที่ผ่านมาและสร้างจุดยืนที่ชัดเจนในระบอบประชาธิป ไตย ส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีปัจจัยที่จะนำไปสู่การเป็นรัฐบาลได้แค่ไหน เป็นเรื่องที่ประชาชนจะให้คำตอบ ส่วนตัวเห็นว่าการแสดงความพร้อมของพรรคการเมืองถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม
ส่วนกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เทียบชั้นนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ นั้น นายณัฐวุฒิ หัวเราะก่อนตอบว่า ก็ต้องดูว่าเหมือนจริงหรือไม่ ซึ่งในความเป็นคนหนุ่ม มีความรู้ และมีการศึกษาอาจจะเหมือนกัน แต่ โอบามาแสดงให้คนสหรัฐเห็นว่าจะเป็นผู้นำที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลง แต่ “โอบามาร์ค” ไม่แน่ใจว่าจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้หรือไม่ว่าจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ถนัดกับวิชาการเมืองแบบเก่า
เครือข่ายผู้หญิงป้อง“รสนา”
นางทิชา ณ นคร อดีตผู้ประสานงานเครือข่ายผู้หญิงกับรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณี ส.ส. 145 คนลงชื่อถอดถอน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯว่า เป็นการเลือกปฏิบัติบนอคติอย่างโจ่งแจ้งมากเกินไป เป็นการตีความแบบเลือกปฏิบัติจนน่ารังเกียจ ทั้งที่ไม่มีการกำหนดเป็นกฎหมาย แต่เป็นเพียงระเบียบเท่านั้น แต่มีการนำมาตีความจนถึงขั้นล่าชื่อถอดถอน ความจริงที่เกิดขึ้นในสภาก็มีการกระทำผิดระเบียบอยู่เป็นประจำมีผู้ติดตามที่เข้า ๆ ออก ๆห้องประชุมโดยไม่ขออนุญาต หรือปล่อยให้มีการแสดงออกที่กักขฬะนักเลงหยาบคายในที่ประชุมสภาที่สมาชิกกล่าวว่าเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ ซึ่งกรณีดังกล่าวสมควรจัดการมากกว่ากรณีของ น.ส.รสนา
นพ.หทัย ชิตานนท์ ประธานสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย กล่าวว่า อยากเปรียบเทียบกรณี น.ส.รสนา กับเหตุการณ์ในอดีตที่ตนเคยเข้าร่วมประชุมสภาเพื่อพิจารณากฎหมายสำคัญคือ พ.ร.บ.ควบคุมการบริโภคยาสูบ 2535 ซึ่งมีวาระสำคัญในการประชุมด้วย มีสมาชิกนิติบัญญัติ ได้พาตัวแทนบริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่เข้ามาในที่ประชุม ทั้งที่ไม่มีหนังสือเชิญหรือแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ และมีการเสนอให้ตัดกฎหมายวาระสำคัญ คือ การห้ามขายบุหรี่ให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี และการแจ้งส่วนประกอบของบุหรี่ ทำให้ต้องมีการแจ้งต่อประธานสภาในขณะนั้นเพื่อให้เชิญพ่อค้าบุหรี่ออกจากห้องประชุม ครั้งนั้นประธานสภามีการตักเตือนเท่านั้น เมื่อเทียบกับกรณีของ น.ส.รสนา แล้วไม่ได้เป็นประเด็นที่เป็นเรื่องใหญ่แต่อย่างใด.