'ทักษิณ-อ้อ' 'บัวแก้ว'ออกโรงยืนจัน'อัยการ'ชี้ขอตัวยากขึ้น!บึ้มใส่ พธม.การ์ดเจ็บ 1
"บัวแก้ว"ยอมรับสถานทูตอังกฤษสั่งถอนวีซ่า"ทักษิณ-พจมาน"จริง ส่วนการแจ้งสายการบินห้ามรับเข้าประเทศ เป็นหลักปฏิบัติตามปกติ ขณะที่คนประชาธิปัตย์ ดาหน้าจี้ นายกฯ และรัฐบาล เร่งถอนพาสปอร์ตแดง และนำตัวกลับมารับโทษโดยเร็ว หากไม่ทำจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ด้าน ส.ส.พปช. เตรียมจัดเวทีให้ “ทักษิณ” โฟนอินอีกครั้งที่ร้อยเอ็ด ส่วน อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ ระบุหากถอนวีซ่า “ทักษิณ” จริง การขอตัวกลับมาดำเนินคดีก็จะยุ่งยากมากขึ้น ทางด้านการชุมนุมพันธมิตร เกิดเหตุระเบิดขึ้นในที่พักนักรบศรีวิชัย ช่วงใกล้รุ่ง มีการ์ดบาดเจ็บคนเดียว “จำลอง-สมศักดิ์” ประสานเสียง ฝีมือรัฐบาลต้องการข่มขู่ผู้ชุมนุม
เกิดระเบิดในทำเนียบ พธม.
เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 8 พ.ย. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งชุมนุมอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิด บริเวณหน้าที่พักของกลุ่มนักรบอิสระ ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างของ ตึกสันติไมตรี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากเวทีปราศรัยประมาณ 20 เมตร เป็นเต็นท์ของการ์ดอาสากลุ่มนักรบอิสระ ภายในเต็นท์พบร่างของ นายเมธี อยู่ทอง ได้รับผู้บาดเจ็บนอนร้องขอความช่วยเหลือ พบบาดแผลที่ศีรษะแตก มีเลือดไหล จึงช่วยเหลือนำส่งเต็นท์พยาบาล เบื้องต้นอาการไม่สาหัส จากการตรวจสอบภายในเต็นท์พบข้าวของแตกกระจาย ที่พื้นพบเศษดินกระจายเป็นวงกว้าง ลึกประมาณ 1 นิ้วครึ่ง กว้าง 1 ฟุต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เข้าไปตรวจสอบเก็บหลักฐาน ก่อนเปิดเผยว่าน่าจะเป็นระเบิดชนิดไดนาไมต์ ซึ่งเป็นระเบิดแรงดันต่ำไม่มีอานุภาพทำลายล้างมากนัก
การ์ดอาสาผู้หนึ่ง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีเพียงผู้บาดเจ็บนอนอยู่ในเต็นท์เพียงคนเดียว ส่วนที่เวทีก็มีการปราศรัยไปเรื่อย ๆ ผู้ชุมนุมที่อยู่ใกล้ ๆ พบว่ามีลูกไฟสว่างวาบขึ้น คาดว่าน่าจะเป็นระเบิด ลอยมาจากทางกลุ่มผู้ชุมนุมหน้าตึกสันติไมตรี ก่อนจะมาตกที่หน้าเต็นท์ของกลุ่มนักรบอิสระจนมีเสียงดังสนั่น และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร ทั้งนี้จะต้องรายงานให้กลุ่มแกนนำทราบอีกครั้ง
โยนบาปรัฐบาลวางระเบิด
ที่ห้องผู้สื่อข่าว ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตร แถลงว่า เหตุระเบิดที่เกิดเมื่อเวลา ประมาณ 04.00 น. ห่างจากเวทีเพียง 100 เมตร นั้น จากการตรวจสอบเป็นการก่อกวนจากฝ่ายรัฐบาล เป้าหมายต้องการข่มขู่ให้คนกลัว ไม่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ โดยระเบิดได้ถูกนำมาวางไว้ภายในพุ่มไม้บริเวณด้านหน้าตึกสันติไมตรี และอาจมีการตั้งเวลาให้มีการระเบิด ซึ่งต่อไปกลุ่มพันธมิตรฯ คงจะต้องเข้มงวดในเรื่องการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น ดังนั้นจึงขอความร่วมมือกับผู้ชุมนุมในเรื่องของการตรวจตราเพราะเราชุมนุมโดยสันติไม่ใช้อาวุธ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวว่า เหตุที่บอกว่าเป็นฝีมือของรัฐบาล พันธมิตรฯ ไม่ได้กล่าวใส่ร้าย เพราะสิ่งที่พันธมิตรฯ คัดค้านอยู่คือคัดค้านรัฐบาล รัฐบาลเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงดังนั้นคนอื่นคงไม่มาก่อเหตุ
จี้รบ.เร่งถอนพาสปอร์ตแดง
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงการที่รัฐบาลอังกฤษประกาศยกเลิกวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาว่า ตอนนี้ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณจนตรอก ดังนั้นทางออกของ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องเร่งให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือตัวเอง นอกจากนั้นขอเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการพิจารณาถอนพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถือว่าเป็นคนหนีคดี ตรงนี้ถ้าไม่ทำถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทาง สตช. และดีเอสไอ ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร ซึ่งเรื่องนี้ควรจะต้องทำ หนังสือถึงประเทศต่าง ๆ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นบุคคลหนีคดีและไม่สามารถลี้ภัยในประเทศใดได้เหมือนกับนักโทษทั่ว ๆ ไป แต่รัฐบาลก็กลับนิ่งเฉยไม่ดำเนินการอะไร รัฐบาลควรให้ประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปพักพิงจับกุมตัวและส่งกลับมาประเทศไทย
อ้างไม่เจตนาขวางทางเสด็จฯ
พล.ต.จำลอง ยังกล่าวถึงการเปิดถนนราชดำเนินเพื่อเป็นเส้นทางเสด็จฯ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ว่าจะมีการประชุมในเย็นวันนี้ เพื่อหารือระหว่างแกนนำว่าควรจะต้องออกประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรชี้แจงในเรื่องดังกล่าว เพราะเจตนาของพันธมิตรฯ มีเจตนาที่จะเปิดถนนมาตั้งแต่ต้น แต่ถ้าเปิดแล้วใช้ไม่เต็มที่ก็จะเสียหาย แต่มีเหตุทำร้ายพันธมิตรฯ บ่อยครั้งมาก และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้เปลี่ยนเส้นทางเสด็จฯ เป็นเส้นทางอื่นแล้ว จึงจำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจงให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าพันธมิตรฯ ไม่มีเจตนาในการไปขัดขวางเส้นทางเสด็จฯ
“อลงกรณ์” ยันถอนวีซ่าเรื่องจริง
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี กล่าวถึงรายงานข่าวที่ว่าสำนักงานพรมแดนสหราชอาณาจักร สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ได้ส่งอีเมลถึงสายการบินที่เป็นสมาชิกคณะกรรมการดำเนินงานด้านธุรกิจการบิน (เอโอซี) เพื่อแจ้งเตือนให้ทราบถึงการยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศอังกฤษ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ซึ่งถือว่าเป็นแนวปฏิบัติตามปกติ ของมาตรฐานสากลของการตรวจคนเข้าเมืองทุกประเทศ ที่สายการบินทั่วโลกยึดถือปฏิบัติ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องความรับผิดชอบในการที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่มีวีซ่าเข้าประเทศหนึ่งประเทศใด และเมื่อถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ จะต้องรับผิดชอบในการนำบุคคลนั้นเดินทางกลับโดยสายการบินที่นำกลับมา ดังนั้นถ้าเรื่องนี้เป็นจริง พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยาต้องรับผิดชอบต่อผลของการกระทำ ตนเชื่อว่ารัฐบาลคงได้อุทาหรณ์จาก กรณีนี้ในการพิจารณาการเพิกถอนหนังสือเดินทางและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ซึ่งรัฐบาลไม่ควรปกป้อง อย่างไรก็ตาม การเพิกถอนวีซ่าดังกล่าว เป็นการตบหน้ารัฐบาล ทั้งที่ต้องดำเนินการไม่ว่าจะเป็นพี่เมียของนายกรัฐมนตรี แต่นายกฯ ต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน มิฉะนั้นจะอายประเทศอื่นที่ต้องปฏิบัติเป็นมาตรฐาน
“ศิริโชค” โชว์อีเมลจากสถานทูต
ด้านนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำเอกสารอีเมลแจ้งยกเลิกวีซ่าของ อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งลงนามโดย นาย แอนดี้ เกรย์ ผู้ประสานงานฝ่ายตรวจสอบคนเข้าเมือง สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยนายศิริโชค กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับทราบข่าวนี้ พรรคได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวในกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษและเอโอซีว่า เจ้าหน้าที่ของสถานทูตอังกฤษ ได้ส่งอีเมล แจ้งยกเลิกวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยาจริง และขอให้เจ้าหน้าที่สายการบินต่าง ๆ อย่านำผู้โดยสารที่มีรายชื่อดังกล่าวเดินทางกลับไปยังประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ไม่ได้มีการระบุเหตุผลของการยกเลิกวีซ่า และโดยหลักการเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษฯ จะชี้แจงเรื่องนี้ หลังจาก พ.ต.ท. ทักษิณได้มีการออกมาแถลงข่าว แต่ถ้ายังนิ่งเฉยไม่ดำเนินการใด ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องชี้แจงถึงเหตุผลที่จะยกเลิกวีซ่า
ระบุการขอลี้ภัยขณะนี้ทำยาก
นายศิริโชค กล่าวอีกว่า ตนเข้าใจว่าการเพิกถอนวีซ่านี้น่าจะเกิดขึ้นหลังจากวันที่ พ.ต.ท. ทักษิณได้โฟนอินผ่านรายการความจริงวันนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา และส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะไม่มีประเทศใดที่จะยินยอมให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งมาใช้ประเทศนั้นเป็นเวทีทางการเมือง และว่าเมื่อรัฐบาลอังกฤษตัดสินใจเช่นนี้แล้วต่อไปนี้ก็ไม่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนและการพิจารณาให้ พ.ต.ท.ทักษิณลี้ภัยหรือไม่ ทั้งนี้เห็นว่าเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็เปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาประเทศไทยเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม เพราะการขอลี้ภัยในขณะนี้ทำได้ยากมากตามลำดับ ซึ่งรัฐบาลไทยควรใช้มาตรฐานเดียวกับรัฐบาลอังกฤษ และดำเนินการถอนหนังสือเดินทางการทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณกลับคืน เพื่อไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณใช้หนังสือเดินทางดังกล่าวเดินทางไปแต่ละประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย ซึ่งรัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจ อย่าปล่อยให้เรื่องนี้ยืดเยื้อต่อไป มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายต่อประเทศไทย
เอโอซีรับมีอีเมลถอนวีซ่าจริง
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการดำเนินงานด้านธุรกิจการบิน (เอโอซี) กล่าวว่า เอโอซี ในประเทศไทย ซึ่งมีหน้าที่และกำกับดูแลสมาชิกสายการบินทั่วโลกที่มาให้บริการในไทยได้รับอีเมลจากสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 51 ในเรื่องการถอนวีซ่าเข้าประเทศของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางพจมาน ชินวัตร ภรรยาจริง ซึ่งทางเอโอซีได้ส่งหนังสือไปยังสายการบินต่าง ๆ แล้ว และเป็นเรื่องปกติ ที่หากบุคคลใดถูกสถานทูตแบล็กลิสต์ ทางสถานทูตแห่งนั้น จะส่งรายชื่อบุคคลนั้น มายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และเอโอซี ซึ่งสาเหตุที่ต้องส่งมายังเอโอซี เนื่องจากสายการบินทั่วโลก ต้องเป็นสมาชิกกับเอโอซี และเมื่อมีข่าวใด เอโอซี จะเป็นตัวกลางในการกระจายข่าว นอกจาก ตม. ในการตรวจรายชื่อบุคคลที่ซื้อตั๋วเดินทาง และ จะเช็กอินขึ้นเครื่องบิน ก่อนเดินทาง อย่างไรก็ตาม ในนามเอโอซี ขอยืนยันว่า จุดยืนของสายการบินแต่ละสายการบินที่เป็นสมาชิกของ เอโอซีในประเทศไทย จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของการเมืองอย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของสถานทูตอังกฤษที่ทำหนังสือถึง เอโอซี แต่ไม่ใช่ให้บุคคลภายนอกเอโอซีนำเอโอซีไปกล่าวอ้างจนเกิดความเสียหาย
เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในทางปฏิบัติ หากเป็นกรณีจริง การบังคับใช้น่าจะมีผล เมื่ออดีต นายกรัฐมตรี และภริยา เดินทางเข้าถึงประเทศอังกฤษมากกว่า เพราะการแจ้งในลักษณะนี้ ส่วนมากจะแจ้งไปยังกองตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และการเดินทางของอดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ คงไม่ซื้อตั๋วการบินไทยจากไทยเข้าอังกฤษ แต่หากจะเดินทางน่าจะเป็นสายการบินอื่น ๆ ที่บินไปยังประเทศอังกฤษมากกว่า
อัยการชี้ถอนวีซ่าขอตัวยาก
นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าประเทศอังกฤษยกเลิกวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ว่า หากเป็นความจริงการยื่นเรื่องขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศอังกฤษต้องเกิดความยุ่งยาก เนื่องจากเมื่อมีการยกเลิกวีซ่า หมายความว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ได้พำนักอยู่ที่ประเทศอังกฤษอีกต่อไป ซึ่งการขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจะดำเนินการเมื่อมีหลักฐานชัดเจนว่าบุคคลนั้นมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในประเทศที่จะขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้นถ้าประเทศอังกฤษยกเลิกวีซ่า และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้อยู่ที่ประเทศอังกฤษแล้ว ก็ต้องเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะผู้มีหน้าที่ปฏิบัติตามหมายจับของศาลในการติดตามตัวจำเลย ที่จะสืบหาข้อมูลที่ชัดเจนว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ที่ใด โดย สตช. อาจจะขอความร่วมมือประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะดำเนินการเรื่องดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่มีข้อมูลชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ใดแน่นอน อัยการในฐานะผู้ที่ต้องทำหน้าที่ยื่นคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน จะได้ดำเนินการต่อไป
ต้องรอให้คดีสิ้นสุดเสียก่อน
นายศิริศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้คณะทำงานอัยการ รวบรวมเอกสารที่จะใช้ประกอบยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนไว้เกือบเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ และเอกสารคำร้องขอส่งตัวที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ โดยระหว่างนี้รอเพียงว่าทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะยื่นอุทธรณ์คดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกหรือไม่ ซึ่งจะครบกำหนดยื่น 30 วันภายในวันที่ 20 พ.ย.นี้ หากชัดเจนแน่นอนว่าไม่ยื่นอุทธรณ์แล้ว จึงถือว่าคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ที่ตัดสินจำคุก 2 ปี ถือเป็นที่สุด ที่จะใช้ดำเนินขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ทันที ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นคาดว่าการยื่นคำร้องอัยการจะดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2551 แต่ทั้งนี้ต้องรอฟังความชัดเจนเรื่องที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่ายังอยู่ที่ประเทศอังกฤษหรือไม่ หรืออยู่ที่ประเทศอื่นแล้ว ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ย้ายไปพำนักประเทศอื่นอัยการก็เพียงแค่ปรับข้อกฎหมายที่จะใช้ขอส่งตัวกับประเทศนั้น ๆ โดยเชื่อว่าไม่มีปัญหายุ่งยากเพราะเอกสารคำร้องก็จัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว
สถานทูตอังกฤษปิดปากเงียบ
ด้านสำนักข่าวต่างประเทศทั้งเอพี, เอ เอฟพี และรอยเตอร์รายงานข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลกในวันเดียวกันนี้โดยอ้างจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่า สถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยได้ส่งอีเมล ไปถึงสายการบินนานาชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ขอให้สายการบินต่าง ๆ อย่ารับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและภริยา คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ขึ้นเครื่องบินเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ เพราะทางการอังกฤษได้เพิกถอนวีซ่าของบุคคลทั้งสองนี้แล้ว และเจ้าหน้าที่สายการบินผู้หนึ่งเปิดเผยว่า สายการบินได้รับอีเมลแจ้งเรื่องนี้จริง อย่างไรก็ตาม นายแดเนียล เพนเตอร์ โฆษกสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กล่าวว่า ยังไม่สามารถให้ความเห็นใด ๆ เรื่องวีซ่านี้ได้ เช่นเดียวกับ กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษที่กรุงลอนดอน ก็ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็น
จัดเวทีย่อยให้ “ทักษิณ” โฟนอิน
นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลอังกฤษได้ยกเลิกวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ว่า ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นข่าวปล่อยมากกว่า คงไม่ใช่เรื่องจริง สำหรับการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งต่อไปนั้น พวกตนกำลังพูดคุยกันอยู่ว่าจะให้มีการจัดรายการที่ จ.ร้อยเอ็ด แต่อาจจะไม่ใช่ลักษณะของเวทีขนาดใหญ่เหมือนที่ราชมังคลากีฬาสถาน อาจจะจัดเป็นเวทีย่อย มีประชาชนมาร่วมประมาณ 3-4 หมื่นคน และเชิญอดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยมาปราศรัย เช่น นายอดิศร เพียงเกษ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง รวมทั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามาพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากชาวบ้านคิดถึงและเรียกร้องกันมากว่าอยากฟังเสียง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเวทีรายการความจริงวันนี้สัญจรเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่มีการถ่ายทอดสดให้พวกเขาได้รับฟังด้วย ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถจัดรายการความจริงวันนี้ในรูปแบบย่อยที่ จ.ร้อยเอ็ดได้ในปลายเดือน พ.ย.นี้หรือหลังวันที่ 5 ธ.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบจากรัฐมนตรีที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ประเทศจีน โดยได้เดินทางออกจากฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา
“สัก” จี้นายกฯ ทบทวนบทบาท
นายสัก กอแสงเรือง อดีต คตส. กล่าวถึงข่าวทางการอังกฤษเพิกถอนวีซ่า พ.ต.ท. ทักษิณ ว่า ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าทางอังกฤษเพิกถอนหนังสือเดินทางประเภทใด แต่เข้าใจว่าคงจะเพิกถอนหนังสือเดินทางเล่มปกติ ซึ่ง พ.ต.ท. ทักษิณ ยังมีหนังสือเดินทางการทูต (พาสปอร์ตแดง) ที่ไม่ต้องใช้วีซ่าเดินทาง ขณะเดียวกันไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีหนังสือเดินทางประเทศอื่นอีกหรือไม่ ทั้งนี้คงต้องดูเงื่อนไขของอังกฤษว่าเพิกถอนเฉพาะเล่มหรือเฉพาะตัวบุคคล แต่ข้อเท็จจริงน่าจะเป็นเรื่องอย่างที่สภาทนายความได้แถลงไปว่า การพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณอาจกระทบต่อสถาบันซึ่งทางอังกฤษเขาก็มีสถาบันกษัตริย์เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ถ้าทางการอังกฤษเพิกถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลไทยโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องควรจะทบทวนหน้าที่ของตนเองว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมจะต้องปกป้องเพื่อสร้างความเชื่อถือของประเทศกลับคืน
ทนายทักษิณแจ้ง “วีระ” หมิ่น
“ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีต ส.ส.อ่างทอง ผู้รับมอบอำนาจโดยตรงจากพ.ต.ท. ทักษิณ ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.บุญเลิศ กัลยาณมิตร พงส.สบ.2 กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีกับนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ในข้อหาแจ้งความเท็จและความผิดต่อเจ้าพนักงานยุติธรรม ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย. นายวีระ ได้แจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับพ.ต.ท. ทักษิณ ที่โฟนอินผ่านรายการความจริงวันนี้ ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงและดูหมิ่นศาล แต่ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงมติว่าการโฟนอินเข้ามาของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้าข่ายความผิดใด ๆ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณฯเสียหายทั้งทางแพ่ง ทางอาญา
โฆษก กห.เตือนอย่าเสี่ยงปฏิวัติ
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ โฆษกกระ ทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้นำผ้าอนามัยไปถูฐานพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 เพื่อแก้ไสยศาสตร์ของฝ่ายตรงข้ามว่า คนไทยทั่วไปที่รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และยิ่งเป็น ร.5 ที่สร้างความเจริญให้กับประเทศไทย คงจะตะขิดตะขวงใจที่ใช้วิธีการอย่างนี้ ดังนั้นความเชื่อเช่นนี้ถ้าสวนความรู้สึกกับคนส่วนใหญ่บางคนเขาคงไม่ยอม หรือทนไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีนายทหารหลายส่วนโทรฯ เข้ามาพูดคุยกับตน เพราะการทำหน้าที่เป็นโฆษกต้องรับฟังเสียงจากคนข้างในด้วย
“ความวุ่นวายทางการเมือง ทหารคงไม่นำมาเป็นเหตุปฏิวัติ เพราะปฏิวัติทำวันเดียวได้ แต่หลังจากนั้นถามว่า คุณจะยืนได้กี่วัน ชุดที่แล้วหัวหน้าคณะปฏิวัติยังไม่กล้าเดินในสังคม ทั้ง ๆ ที่ท่านตั้งใจ หากชุดหน้าจะทำ กรุณาไปคิดให้ดีว่า จะมีที่ยืนอยู่ตรงไหนในสังคมหรือไม่ เพราะเป็นความเสี่ยง และโลกไม่ยอมรับในเรื่องนี้ เราเป็นเพียงองค์กรเล็ก ๆ องค์กรหนึ่งในประเทศเล็ก ๆ ในสังคมโลก อย่าหาญกล้าไปเปลี่ยนแปลง หรือหยุดพัฒนาการของสังคม” พล.ท.พีระพงษ์ กล่าว
บัวแก้วรับ.“แม้ว-อ้อ”.ถูกถอนวีซ่า
นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรม สารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับการยืนยันจากสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ว่ามีการเพิกถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน จริง แต่ขอสงวนเหตุผลในการเพิกถอนดังกล่าว ส่วนการที่สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษฯ แจ้งเรื่องไปยังเอโอซีและสายการบิน ต่าง ๆ เพื่อไม่ให้รับผู้ที่ถูกเพิกถอนวีซ่าเดินทางเข้าประเทศอังกฤษนั้น ก็เป็นหลักปฏิบัติปกติของทางการอังกฤษอยู่แล้ว ซึ่งกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยานี้เหมือนกับกรณีบุคคลอื่น ๆ ที่ถูกทางการอังกฤษสั่งเพิกถอนวีซ่า ทั้งนี้แต่ละประเทศ จะมีระเบียบปฏิบัติที่ต่างกันไป เช่นบางประเทศอาจแจ้งไปยังรัฐบาล หรือแจ้งต่อสายการบิน บางประเทศอาจแจ้งต่อสถานเอกอัครราชทูตที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ได้มีการแจ้งเรื่องนี้ตามลำดับขั้นไปถึง รมว.การต่างประเทศแล้ว
“ล่าสุดทราบว่าทั้ง 2 คนพำนักอยู่นอกประเทศอังกฤษ แต่ไม่ทราบว่าเป็นที่ใด อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการกลับเข้าไปพำนักในอังกฤษ จะต้อง ขอวีซ่ากับทางการอังกฤษใหม่ ซึ่งขึ้นกับทางการอังกฤษว่าจะอนุญาตหรือไม่” นายธานี กล่าว
ถอนพาสปอร์ตขึ้นกับการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการถอนวีซ่าดังกล่าว จะมีผลให้การขอลี้ภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยา ถูกตัดสิทธิไปโดยปริยายหรือไม่ นายธานี กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางการอังกฤษ เมื่อถามต่อว่าถ้าไม่ทราบที่อยู่ของอดีตนายกฯ จะเป็นอุปสรรคในการขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นายธานี กล่าวว่า เมื่ออัยการสูงสุดพิจารณาขอให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว ก็มีความจำเป็นต้องรู้ที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่ง เพื่อกระทรวงการต่างประเทศ จะได้ขอความร่วมมือประเทศนั้น ๆ เพื่อขอส่งตัว ผู้ร้ายข้ามแดน รวมถึงต้องดูด้วยว่าประเทศไทยมีสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศนั้นหรือไม่
เมื่อถามว่าการเพิกถอนวีซ่าดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลต้องเร่งรัดการเรียกหนังสือเดินทางการทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณคืนโดยเร็วหรือไม่ นายธานี กล่าวว่า เป็นข้อพิจารณาอย่างหนึ่ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมืองจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ ได้รับเรื่องดังกล่าวจากรัฐบาลแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการหารือในระดับนโยบาย ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ปชป.จี้รัฐเร่งตามตัว “ทักษิณ”
ที่อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่เมื่อมีการตัดสินว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ทำผิดกฎหมายไทย รัฐบาลก็ต้องติดตามตัวมารับโทษ ไม่ใช่ปล่อยให้ด่าประเทศไทย อย่างนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง เมื่อถามว่าสภาทนายความระบุการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน จะผลักดันให้มีการล่าชื่อประชาชน 2 หมื่นชื่อถอดถอนนายกฯ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าการโฟนอินดังกล่าวเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เคลื่อนไหวให้มีการเข้าชื่อ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว พรรคจะทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่ทำแบบหน้าอย่างหนึ่งหลังอย่างหนึ่ง แต่ถ้าจะทำก็จะอธิบายกับประชาชน ให้เข้าใจอย่างตรงไปตรงมา ไม่แอบทำแน่นอน
“อภิสิทธิ์” ชี้อังกฤษมีสิทธิทำ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่อังกฤษเพิกถอน วีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภริยาว่า ต้องรอ ฟังข้อเท็จจริงก่อน เพราะเรายังไม่ทราบว่า พ.ต.ท. ทักษิณ มีหนังสือเดินทางประเทศไหนบ้าง ผู้สื่อข่าวถามว่า การกระทำของอังกฤษเป็นการตบหน้า รัฐบาลไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประเทศ อังกฤษทำตามเงื่อนไขของเขาว่าจะอนุญาตให้ใคร เข้าประเทศบ้าง
“สนธิ” อ้างผลจากดาวกระจาย
ส่วนบนเวทีพันธมิตรฯ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ขึ้นกล่าวปราศรัยถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ถูก ถอนวีซ่าว่า เป็นเพราะการเคลื่อนไหวดาวกระจาย ของพันธมิตรฯ ไปที่หน้าสถานทูตอังกฤษ 2 ครั้ง เพื่อยื่นคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ทำให้เกิดการพิจารณา ถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ในขณะที่เดินทางมาอยู่ที่เกาะฮ่องกง ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นจุดให้ประเทศในยุโรปไม่สามารถให้วีซ่ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ และส่งผล ต่อสถานะการลงทุน และการสร้างบ้านในประเทศอังกฤษของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย ซึ่งขณะนี้ตนทราบมาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกเดินทางจากประเทศฮ่องกง ไปยังประเทศฟิลิปปินส์แล้ว.