พปช.ตำหนิสภาทนายความต้องเป็นกลางควรเลือกชุดใหม่ที่มีทัศนคติประชาธิปไตย ทีมกม."แม้ว"ฟ้องแพ่ง-อาญา 80 คดีผู้ใส่ร้ายอดีตนายกฯ ขอเคลียร์ตัวเองให้จบกลับถูกยั่วยุ บอก"แม้ว" คิดได้แล้ว "หยุดถล่ม" ปชป.ติงไม่ควรจัด "ความจริงวันนี้"ครั้งที่ 3 ในวัด "จตุพร" ยันไร้ปัญหาพระพยอมชวน พปช.เชื่อคนไทยรับไม่ได้บี้"สมัคร"
พปช.ซัดสภาทนายทัศนคติอันตราย
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน (พปช.) ออกโรงตอบโต้แถลงการณ์ของสภาทนายความที่ระบุเนื้อหาการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในรายการความจริงวันนี้สัญจร เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นการละเมิดศาล และก้าวล่วงพระบรมราชวินิจฉัย โดยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ว่าต้องขอตำหนิอย่างรุนแรง สภาทนายความควรวางตัวเป็นกลางทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด พ.ต.ท.ทักษิณถูก คตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำผิดอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ) เล่นงานตามคำสั่งคณะรัฐประหารไปแล้ว มาตอนนี้สภาทนายความยังแสดงทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ทั้งที่ถ้อยคำในการโฟนอิน ไม่มีถ้อยคำใดที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ผลสอบของตำรวจ รวมถึงคนไทยเอง ก็ไม่รู้สึกว่ามีเรื่องพวกนี้ เพราะการที่คนไทยคนหนึ่ง ได้รับความทุกข์ แล้วนึกถึงพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือไม่จงรักภักดี
ยืนข้างเผด็จการ-ขู่เจอโต้สาสม
"ทัศนคติของสภาทนายความในวันนี้ เป็นทัศนคติสนับสนุนคณะรัฐประหาร เป็นการเล่นการเมือง เลือกข้าง เพื่อหวังผล ไม่ใช้วิชาชีพอย่างสุจริต ออกแถลงการณ์เป็นอคติ สวนทางข้อเท็จจริง ฝ่ายประชาธิปไตยเองก็ต้องมองว่าสภาทนายความยืนข้างเผด็จการ และจะได้รับการตอบสนองอย่างสาสม จากผู้รักประชาธิปไตย"
นายจตุพรกล่าวอีกว่า แต่ก็เป็นสิ่งที่ดี ถ้าจะมีการเลือกสภาทนายความชุดใหม่ ก็ควรเลือกชุดใหม่ที่มีทัศนคติเป็นประชาธิปไตย วันนี้คนในสภาทนายความเองรู้ดีอยู่ว่าเมื่อมีการหาเสียง ย่อมมีการหยิบยกเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าถูกหรือผิด มาเล่น แต่เมื่อสภาทนายมาก้าวล่วงรายการความจริงวันนี้สัญจรและประชาธิปไตย ตนได้ยินมาว่าวันนี้ประชาชนผู้รักประชาธิไตยคิดจะไปวางพวงหรีดที่หน้าสภาทนายความกันแล้ว และในรายการความจริงวันนี้สัญจร ในวันที่ 9 พฤศจิกายน จะมีการวิพากษ์สภาทนายความถึงพฤติกรรมข่มเหงข่มขู่อันนี้
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ดูไม่ออกว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดไปก้าวล่วงพระบรมราชวินิจฉัยได้อย่างไร ซึ่งสภาทนายความเป็นนักกฎหมาย การที่จะไปบอกว่าคำพูด พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการก้าวล่วงหรือไม่นั้น สภาทนายความไม่อยู่ในจุดที่จะไปวินิจฉัยได้เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของนักกฎหมาย ส่วนที่ระบุว่าเป็นการดูหมิ่นดุลพินิจของศาลนั้น ก็ไม่เห็นว่าศาลจะออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าว
ทนายแม้วเอาผิด"วีระ"แจ้งเท็จ
ต่อมา นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.บุญเลิศ กัลยาณมิตร พงส.สบ.2 กก.1 บก.ป. เมื่อเวลา 10.30 น. เพื่อดำเนินคดีกับนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ในข้อหาแจ้งความเท็จและความผิดต่อเจ้าพนักงานยุติธรรม ตาม ป.อาญา มาตรา 12
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายวีระแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบปรามให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่โฟนอินผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจรเข้ามาพูดคุยกับกลุ่มผู้สนับสนุนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน และการออกแถลงการณ์จากกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ซึ่งสองเหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกัน ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงและดูหมิ่นศาล พร้อมนำเอกสารหลักฐาน รวมถึงเอกสารหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ที่มีการลงข่าวว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลงมติว่าการโฟนอินเข้ามาของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ไม่เข้าข่ายความผิดใดๆ มาเป็นหลักฐานมอบให้ตำรวจ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเอาไว้ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
ฟ้องแพ่ง-อาญา 80 คดี
ทางด้านนายอุดมกล่าวว่า นายวีระมาแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณที่โฟนอินเข้ามาเมื่อวันที่ 1พฤศจิกายน ทั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมติเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เข้าข่ายความผิด ดังนั้น การมาแจ้งความของนายวีระเสมือนกับเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และตนอยากฝากเตือนไปถึงกลุ่มคน หรือบุคคลใดๆ ที่จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียหายทั้งทางแพ่ง ทางอาญา ไม่ว่าจะเป็นการดูหมิ่นกล่าวโทษ ใส่ร้ายป้ายสีให้เสียหาย ทางทีมทนายความจะแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดทั้งหมดทั้งทางแพ่งและอาญา ขณะนี้ฟ้องร้องไปแล้วกว่า 80 คดี
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเอาไว้ก่อนนำเสนอเรื่องต่อผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
บอก"แม้ว" คิดได้แล้ว "หยุดถล่ม"
วันเดียวกัน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และญาติผู้พี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกระแสการโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องโฟนอิน ว่าคนไทยไม่น่าทำกันถึงขนาดนั้น เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในฐานะที่ลำบากตรากตรำ น่าจะหยุด เพราะเข้ากระบวนการยุติธรรมแล้ว จากที่ตนได้ไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณสงบเสงี่ยมดีขึ้น คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงคิดได้ ตนเป็นคนชอบความถูกต้อง ดังนั้น อะไรที่ไม่ถูกต้องควรหยุดได้แล้ว เพราะประเทศบอบช้ำมาก และคนไทยไม่มีความสุข
"วันนี้เอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ยอมเลิกกัน เพราะได้เงิน และเขาหลอกประชาชนได้มากขึ้นโดยการโฆษณาชวนเชื่อ ด้วยวิธีให้เสพเอเอสทีวี ทำให้ประชาชนที่ไม่มีวิจารณญาณ หลงผิดไปจำนวนมาก ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดกับนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีหากคนเหล่านี้ไม่โดนฝังหัว หรือถูกปลุกระดม จะไม่กล้าทำอย่างนี้ เพราะนายสมัครเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เป็นอดีตนายกฯ มาจากความถูกต้อง ตามครรลอง แต่วันนี้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง เรากลับต้องยอมหมดทุกอย่าง"
ขอเคลียร์ตัวเองให้จบกลับถูกยั่วยุ
พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรโจมตีการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า สร้างความปั่นป่วน เป็นการกระทำที่เป็นปกติ พ.ต.ท.ทักษิณจะไปที่ไหน เป็นสิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่อะไรจะหาเรื่องหมด และลึกๆ พ.ต.ท.ทักษิณจะเลิกเล่นการเมืองอยู่แล้ว แต่หากยังไม่ได้รับความยุติธรรม เคลียร์ตัวเองไม่ได้ ซึ่งในใจของ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการเคลียร์ตัวเองให้จบเท่านั้น คนเราทุกคนย่อมต้องการความยุติธรรม แต่ทุกคนไปยั่วยุ แต่เมื่อคนไทยสู้กันแล้ว จึงไม่มีใครยอมแพ้กัน ตนขอภาวนาให้ทุกอย่างจบ วันนี้จุดมุ่งหมายของพันธมิตร (พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย) ไม่มี ขณะนี้กลายเป็นธุรกิจไปแล้ว ไปดูได้เพราะเวทีพันธมิตรจะไถเงินตลอด คนถูกครอบงำโดยเอเอสทีวี ลองฟังทุกวัน ถูกเป่าหูทุกวัน จึงคล้อยตามกันไป
จี้จัดการ พธม.ไม่เปิดทางเสด็จฯ
"ผมคิดว่าตอนนี้กองทัพอึดอัด อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก กองทัพต้องเป็นหน่วยงานของรัฐบาล ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ แต่ขณะนี้ปล่อยจนให้พันธมิตรไม่เปิดเส้นทางเสด็จฯ หากเป็นผม ไม่มีทางยอม จะให้มาแตะต้องไม่ได้ กองทัพต้องแสดงความจงรักภักดี ต้องทำ ไม่ใช่อยู่เฉยๆ ถ้าปกป้องสถาบันจริง ต้องแสดงออกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง หากทำให้ระคายเคืองพระยุคลบาท ทำไม่ได้ทั้งนั้น ต้องไปเจรจา ไปพูดว่าทำเช่นนี้ไม่ถูก ต้องแสดงบทบาทให้เข้มแข็ง ไม่ใช่อมพะนำเงียบ"
พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีผู้บัญชาการเหล่าทัพไปวิจารณ์รัฐบาลออกทีวีนั้นไม่ถูกเรื่อง กองทัพต้องอยู่กับรัฐบาล ไม่ใช่กองทัพเป็นเอกเทศ เป็นองค์กรอิสระ แต่ต้องถือว่า รัฐบาลไม่ค่อยมีความเข้มแข็งเท่าไรเหมือนกัน แต่ตนคิดว่า กองทัพคงไม่กล้าปฏิวัติ ลองปฏิวัติดู ยิ่งผิดใหญ่ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ควรหันไปทบทวนบทบาทให้ดี กองทัพต้องอยู่กับรัฐบาล ต้องวางตัวเป็นกลางจริงๆ หากรักสถาบัน อะไรที่ทำให้ระคายเคืองพระยุคลบาท ต้องทำ
พปช.เชื่อคนไทยรับไม่ได้บี้"สมัคร"
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พปช. ยังกล่าวถึงพันธมิตรชูป้ายขับไล่นายสมัครอดีตนายกรัฐมนตรี ที่สหรัฐอเมริกา ว่า เป็นพฤติการณ์ที่คนไทยไม่ทำกัน ไม่ซ้ำเติมคน คนไทยจะรับไม่ได้กับพฤติการคนล้มแล้วข้ามแม้กระทั่งไปเชียร์มวย ถ้านักชกไทยชนะ ทำคู่ต่อสู้ล้มลงไปได้ แต่ตามไปกระทืบซ้ำ คนไทยก็ไม่เชียร์นักมวยไทยคนนั้น
นายจตุพรกล่าวว่า พฤติการณ์ที่ทำกับนายสมัคร เป็นพฤติการณ์ที่ต่อเนื่องมาจากการยื้อ ไม่ยอมเปิดเส้นทางเสด็จฯ ในงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นปมที่คนไทยรับไม่ได้เช่นกัน คนไทยจะมองว่า พันธมิตรเห็นแก่ความปลอดภัยของตัวเอง มากกว่าเส้นทางเสด็จฯของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
"กระแสของพันธมิตรวันนี้ อยู่ในอาการวิกลจริต เป็นขาลงทางความรู้สึกของคนไทยที่เริ่มมีสติขึ้นมา กับพฤติกรรมต่างๆ ทั้งการนำผ้าอนามัยไปทำพิธีที่ลานพระบรมรูปทรงม้า การกระทำกับนายสมัคร การยื้อไม่เปิดเส้นทางเสด็จฯ ขณะเดียวกันพันธมิตรก็เริ่มโดดเดี่ยวตัวเอง ด้วยการกระทำของตัวเอง โดยพฤติการณ์เหยียบย่ำหัวใจคนไทย จนเกินที่คนไทยจะรับได้" นายจตุพรกล่าว
ปชป.สรุป8ขบวนการช่วยนายใหญ่
เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้คิดว่า วันนี้ได้มีขบวนการต่างๆ ที่เคลื่อนไหวเพื่อไปสู่เป้าหมายในการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ 8 เรื่องคือ 1.แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดชุมนุมรวมพลคนเสื้อแดง ที่ท้องสนามหลวง 2.รายการความจริงวันนี้สัญจร มีแนวโน้มว่าจะสัญจรไปเรื่อยๆ ตามภูมิภาคต่างๆ โดยเปิดโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ารายการ 3.การขอนิรโทษกรรม 4.การขอพระราชทานอภัยโทษ 5.การเคลื่อนไหวของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน เพื่อให้ยกเลิกประกาศคณะปฏิรูป (คปค.) ฉบับที่ 27 6.การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 7.ส.ส.พรรคพลังประชาชน เสนอ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ให้เป็นคนกลางในการแก้วิกฤตชาติ และ 8.การประกาศจัดตั้งทีวีสีแดง ที่ปรากฏชื่อชัดเจนว่าใช้คำว่า ชินทีวี ทั้ง 8 เรื่องนี้ถือว่ามีการเคลื่อนไหวเป็นขบวนการ ตนจึงตั้งชื่อว่า "เป็นขบวนการดันทุรังเพื่อความหวังของนายใหญ่"
ติงไม่ควรจัด"ความจริงวันนี้" ในวัด
นายเทพไทแถลงถึงกรณีที่รายการความจริงวันนี้ประกาศเมื่อคืนวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า จะจัดรายการความจริงวันนี้สัญจรครั้งที่ 3 ในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ ที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ว่า ถือว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะนำการเมืองเข้าไปสู่วัด ไม่ควรที่จะดึงศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง ตนคิดว่ารายการความจริงวันนี้สัญจร เป็นสิทธิที่สามเกลอหัวกลมทำได้ แต่ควรจะไปทำในสถานที่ที่เหมาะสม อยากให้ผู้จัดรายการ ทบทวนการจัดในวัด
"จตุพร" ยันไร้ปัญหาพระพยอมชวน
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พปช. ในฐานะผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ กล่าวว่า วันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ จะจัดรายการความจริงวันนี้ ภาคพิเศษ เป็นการสัญจร ครั้งที่ 3 ที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ตามคำเชิญชวนของพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่เชิญผ่านทางนายวีระ มุสิกพงษ์ ผู้ดำเนินรายการ ตอบรับกันไปแล้ว ส่วนที่อาจจะถูกโจมตีว่าไปจัดการเมืองในวัดนั้น ไม่เป็นปัญหา เพราะเป็นการเชิญมาของพระพยอม ท่านเคยทาบทามมาครั้งหนึ่งแล้วในสมัยนายสมัครยังเป็นนายกฯ ครั้งนั้นยังชวนไปขึ้นเวทีร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สำหรับเนื้อหาจะเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง รวมถึงหัวข้อเตรียมจัดรายการความจริงวันนี้สัญจรครั้งใหญ่ต่อไป
อ้างผุดทีวีคนเสื้อแดงแค่ความคิด
นายจตุพรกล่าวถึงการตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมในนามทีวีคนเสื้อแดง ว่า ยังเป็นเพียงแนวคิด ขณะนี้ยังถือว่ามีพีทีวีที่ออกอากาศทางช่อง เอ็มวี 5 วันละ 5 ชั่วโมงอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่า มีคนคิดเสนอไอเดียดังกล่าวขึ้นมา แต่ยังไม่มีรูปแบบ ส่วนที่นายอารีย์ ไกรนรา อดีตผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์พีทีวี ระบุจะเป็นทีวีของคนเสื้อแดงนั้น ถือเป็นข้อเสนอแลกเปลี่ยนความคิดกัน ยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายรองรับ เรื่องนี้จึงอีกนาน ส่วนที่พูดถึงชื่อ ชินทีวี นั้น ก็เป็นเพียงแค่ข่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
