กรุงเทพธุรกิจ
27 มิถุนายน 2549 18:05 น.
ปชป.ระบุการดำเนินการของ กกต. ไม่ชอบมาพากล คกก.สอบถูกกดดันจาก กกต. ทำให้กระบวนการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นของ กกต.ไม่โปร่งใส และขาดความเที่ยงธรรม
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : โดยแถลงการณ์ดังกล่าว มีความสรุปดังต่อไปนี้ ตามที่พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ส่งคำร้องถึงอัยการสูงสุด กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ว่ากระทำผิดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 66(2) และ (3)
ที่ระบุว่า เป็นการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข มีการกระทำอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐหรือขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีพรรคการเมืองใหญ่ว่าจ้างพรรคการเมืองเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ของสำนักงานอัยการสูงสุดที่มีนายชัยเกษม นิติศิริ เป็นประธาน มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความผิดตามคำร้องนั้น
ขอชี้แจงต่อประชาชนและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ ดังต่อไปนี้ 1) การดำเนินการของกกต.ต่อกรณีดังกล่าว มีความไม่ชอบมาพากลตลอดมา 2) การดำเนินการของคณะอนุกรรมการฯ ของกกต. ต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะผู้มีอำนาจเต็มต่อการชี้ความผิดในกรณีนี้ ทำให้กระบวนการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นของ กกต.ไม่โปร่งใส และขาดความเที่ยงธรรม
3) ข้อกล่าวหาทั้ง 6 ข้อ ที่กกต.ตั้งเป็นประเด็นเพื่อกล่าวโทษพรรคประชาธิปัตย์ ตามคำร้องของพรรคไทยรักไทย ล้วนเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย ใส่ร้ายป้ายสี และปราศจากมูลความจริงโดยสิ้นเชิง
4) ข้อกล่าวหาของกกต.ที่ส่งไปยังอัยการสูงสุด ขมวดปมใน 2 ประเด็นสำคัญคือ กรณีการเสนอใช้มาตรา
7 และ การจ้างพรรคเล็กไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่า การเสนอใช้มาตรา 7 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายทุกประการตามคำชี้แจงข้างต้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ
เช่น นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ยอมรับว่าเงื่อนไขที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เสนอเรื่องการใช้มาตรา 7 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ จึงเป็นเรื่องไร้เหตุผลที่จะกล่าวหาว่า เป็นข้อเสนอที่ขัดกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ส่วนกรณีการจ้างพรรคเล็กให้ล้มเลือกตั้ง เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง และไม่ได้อยู่ในข้อกล่าวหาที่แจ้งให้พรรคประชาธิปัตย์ทราบก่อนหน้านี้
ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะไปจ้างให้พรรคการเมืองขนาดเล็กล้มการเลือกตั้ง เพราะขัดกับแนวทางและอุดมการณ์ของพรรคที่ยึดมั่นการทำงานการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอด 60 ปี อีกทั้งถ้าต้องจ้างเพื่อล้มการเลือกตั้งก็ต้องจ้างทุกพรรคการเมืองซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น