ที่บช.สันติบาล พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ต.ค.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.
แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและพิจารณาข้อมูลข่าวสารที่อาจมีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อความรวดเร็วในการตรวจสอบ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้หากตรวจสอบพบการกระทำผิด สามารถลงความเห็นและดำเนินการตามกฎหมายได้ทันทีทุกประเภท ทั้งเว็บไซต์ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ใบปลิว สถานีวิทยุ คำปราศรัย หรือเสวนา
พล.ต.ท.ธีระเดชกล่าวว่า วันนี้หลังจากประชุมพบว่ามีเว็บไซต์ที่มีความผิดฐานหมิ่นฯ 5 เว็บไซต์ เป็นของคนไทยทั้งหมด
โดยจะสืบหาตัวแล้วดำเนินการให้เสร็จภายใน 90 วัน และยังมีอีก 300 กว่าเว็บไซต์ที่หมิ่นเหม่ อยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบจากเว็บมาสเตอร์ว่าใครเขียนข้อความ เมื่อได้ชื่อและพบว่าผิดจริง จะให้หน่วยที่รับผิดชอบในพื้นที่ดำเนินการ แต่การตรวจสอบไม่ง่าย เพราะบางคนใช้นามแฝง ซึ่งต้องตรวจสอบจนกว่าจะทราบตัวจริง
พล.ต.ท.ธีระเดชกล่าวต่อว่า ส่วนวิทยุชุมชนได้รับแจ้งว่าเคยเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นฯ ตามมาตรา 112 อยู่ 5 สถานี
แต่ขณะนี้จากการเฝ้าระวังยังไม่พบว่ากระทำความผิด ซึ่งต้องขอความร่วมมือก่อน จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการตักเตือน แต่ถ้ายังมีอีก ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยทั้ง 5 สถานีวิทยุชุมชนนี้ อยู่ในเขตชานเมือง 3 แห่ง และต่างจังหวัด 2 แห่ง
ส่วนกรณีพ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจร ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 1 พ.ย.นั้น พล.ต.ท.ธีระเดชกล่าวว่า จากการพิจารณาและลงความเห็นของคณะกรรมการ โดยพิจารณาจากเทปคำปราศรัยแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์เป็นที่สุดว่ายังไม่เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112