เข็นพ.ร.บ.นิรโทษปล่อยผีทักษิณ


พปช.ล่า 1 หมื่นชื่อ!เสนอเป็นกฎหมาย...

"ตู่ นปก."ประกาศกร้าว นำเทป"ทักษิณ"โฟนอิน เปิดซ้ำในรายงานความจริงวันนี้"ส.ส.พลังประชาชน"ฉวยโอกาสหมากเงียบ ล่า 1 หมื่นรายชื่อยื่นสภา ยกร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม หวังช่วยบรรดาหน.พรรครอดคุกการเมือง ชูเหตุผลทำเพื่อชาติ ด้านพรรคปชป.รู้ข่าว พาเหรดถล่มแหลกทันควัน ฟังธงบ้านเมืองใกล้ลุกเป็นไฟ “เทพเทือก” ชี้ยื่นถวายฎีกาไม่บังควรอย่างยิ่ง ขณะที่มือมืดปาบึ้มถล่ม เล่นงานการ์ดพันธมิตรฯ ใกล้ทำเนียบ ระเบิดตกนอกแนวบังเกอร์รอดตายหวุดหวิด “มหา” ขู่ลุกฮือชุมนุมใหญ่ หากรัฐบาลยังดื้อแพ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วน “คนรักเชียงใหม่ 51” ขีดเส้นกดดัน “เทพชัย หย่อง” ผอ.ไทยพีบีเอส แถลง การณ์ขอโทษเป็นทางการ หากไม่ยอมทำตามใน 2 วัน ยกพลปิดสถานีอีกรอบ ด้านพนง.ไทยพีบีเอส ยื่นหนังสือถึงนายกฯ วอนช่วยดูแลความปลอดภัยสื่อ “บิ๊กป๊อก” เล็งหาช่องแก้วิกฤติบ้านเมือง กองทัพตั้งทีม “ฉก.6080” เกาะติดข้อมูลหมิ่นเบื้องสูง

ควันหลงภายหลังจากเหตุการณ์ชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่งานความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 ณ สนามกีฬาราชมังคลาฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ล่าสุดได้เกิดเหตุกลุ่ม “คนรักเชียงใหม่ 51” ฮือปิดล้อมศูนย์ข่าวไทยพีบีเอส ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เนื่องจากไม่พอใจที่รายงานข่าวใส่ร้ายว่ามีการรับเงินไปชุมนุม สุดท้ายช่วงกลางดึกวันที่ 3 พ.ย. ทางนายเทพชัย หย่อง ผอ.ไทยพีบีเอส ต้องออกมาขอโทษ พร้อมจะเพิ่มความระมัดระวังในการเสนอข่าวมากยิ่งขึ้น ทางกลุ่มผู้ชุมนุมพอใจจึงยอมสลายตัวกลับบ้าน

บึ้มป่วนเมืองใกล้ทำเนียบ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 4 พ.ย. พ.ต.ท.เฉลิมชัย วงษ์เจียม พงส. (สบ 3) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งเกิดเหตุมือมืดปาระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวบริเวณประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ด้านสะพานอรทัย ถนนลูกหลวง แขวงจิตรลดา เขตดุสิต จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูง พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก. พ.ต.ท.สมโภช สุวรรณจรัส รอง ผกก.(ปป.) นำกำลังไปตรวจสอบพบหลุมกว้างประมาณ 1 นิ้ว บริเวณด้านหน้าแผงรั้วเหล็กกั้นของการ์ดพันธมิตรฯ แต่ไม่มีผู้ได้รับอันตราย เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าวัตถุระเบิดที่ใช้เป็นชนิดไหนแน่ คงต้องรอเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบสะเก็ดระเบิดอย่างละเอียดอีกครั้ง

โชคดีขว้างไม่ถึงการ์ด พธม.

จากการสอบสวนกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า ขณะกำลังนั่งดูแลอยู่บริเวณดังกล่าวได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง บริเวณหน้าแนว กั้นล้อยางรถยนต์ที่นำมาทำเป็นบังเกอร์ห่างจากเต็นท์รักษาการณ์ไม่ไกลจึงพากันหมอบราบลงกับพื้น หลังเหตุการณ์สงบจึงรีบกั้นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ออกจากจุดดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าไปทำลายหลักฐาน พร้อมทั้งรีบประสานงานกับทางตำรวจที่ได้ร่วมทำการตรวจสอบ อย่างไรก็ดี ก่อน เกิดเหตุไม่พบ จยย. หรือคนผ่านมาตรงจุดดังกล่าว คาดว่าคนร้ายอาจจะแอบซุ่มจากมุมมืดตามซอกตึกที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วฉวยโอกาสปาระเบิดเข้ามาตรงบริเวณที่มีการ์ดพันธมิตรฯ นั่งอยู่แต่ระเบิดไปไม่ถึงตกตรงด้านหน้าแนวกั้น

ทั้งนี้ช่วงคืนวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา เพิ่งจะเกิดเหตุมือมืดซิ่ง จยย.ปาระเบิดเอ็ม 26 เข้าใส่การ์ดพันธมิตรฯ ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานฯ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 9 คน

พบเศษสะเก็ดระเบิดเพียบ

ด้าน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด บช.น. เข้าตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดพบแรงระเบิดทำให้พื้นถนนเป็นหลุมกว้างประมาณ 10 ซม. ยาวประมาณ 20 ซม.และลึกประมาณ 2.5 ซม. และพบเศษโลหะซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นสะเก็ดระเบิดตกอยู่ ขณะนี้ผู้รับผิดชอบกำลังตรวจสอบว่าเป็นระเบิดชนิดใด ขณะเดียวกันมอบหมายให้พนักงานสอบสวนเรียกสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ พยานแวดล้อมประกอบสำนวนคดีให้มากที่สุดพร้อมประมวลเหตุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากจุดเกิดเหตุนั้นมีทั้งทหาร และการ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ ดูแลอย่างใกล้ชิดส่วนจะเป็นการสร้างสถานการณ์หรือเป็นการข่มขู่หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ในตอนนี้

พธม.อ้าง 3 มือบึ้มซิ่งเก๋งหนี

ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต. จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีเกิดเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุตนได้ไปสำรวจพื้นที่บริเวณดังกล่าว พบว่ามีเศษสะเก็ดระเบิดตกอยู่จำนวนมาก พื้นถนนมีหลุมลึกลงไปประมาณหนึ่งนิ้ว สอบถามการ์ดพันธมิตรฯ ระบุว่าเป็นการขว้างระบิดเข้ามาจากตึกร้าง ด้านหัวมุมของ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร หลังจากเกิดเหตุเห็นได้ชัดเจนว่ามีชายฉกรรจ์ 3 คนรีบเดินออกมาจากตึกร้างและขับรถเก๋งออกไปจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว แต่การ์ดไม่กล้าตามออกไปเพราะเกรงคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการรักษาความปลอดภัยและแนวป้องกัน เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่ล่อแหลมรอบทำเนียบรัฐบาลจะต้องติดตั้งไฟ “สปอตไลต์” รอบ ๆ พื้นที่เพื่อให้การ์ดสามารถมองเห็นได้ระยะไกลจะทำให้เห็นผู้ที่จะเข้ามาทำร้ายหรือก่อกวนได้มากขึ้นสามารถป้องกันก่อนเกิดเหตุได้ทันท่วงที

“สมศักดิ์”สวดยับนปช.ยึดทีวี

ต่อข้อถามถึงกรณีกลุ่ม นปช. ได้บุกยึดสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเป็นการกระทำให้เกิดความวุ่นวายเหมือนอย่างที่พันธมิตรฯ เคยทำหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องถามความชอบธรรมของกลุ่ม นปช. อยู่ตรงไหนที่เข้าบุกยึดสถานี โทรทัศน์ของเอกชน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายชัดเจน แต่การกระทำของพันธมิตรฯ มีความชอบธรรมเพราะเรายึดสถานีที่เป็นของรัฐใช้เงินภาษีของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ทำให้ประชาชนเดือดร้อนประชาชนสามารถบุกยึดและไล่ออกจากทำเนียบรัฐบาลได้

ย้ำรัฐบาลลาออกปัญหายุติ

พล.ต.จำลอง กล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้ได้มีฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน เห็นตรงกันที่จะให้มีเวทีสานเสวนาเพื่อยุติความขัดแย้งในบ้านเมืองนั้น ตนบอกมาหลายครั้งแล้ว ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเกิดจากสองฝ่ายเท่านั้นคือฝ่ายรัฐบาลและพันธมิตรฯ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีฝ่ายอื่นมาเกี่ยวข้องเพราะการหาทางออกของประเทศอยู่ที่รัฐบาลถ้าทำตามข้อเสนอ ของพันธมิตรฯ โดยการลาออกและไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ก็สามารถยุติความขัดแย้งได้รวดเร็ว แต่ขณะนี้หากรัฐบาลจะมาเจรจาก็สามารถมาได้ทันทีแต่จะต้องเป็นคนกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับและสังคมเชื่อถือ จะเป็นช่องทางนำไปสู่การเจรจาได้เพื่อปฏิรูปการเมืองใหม่

ขู่ลุกฮือใหญ่หากดื้อแก้รธน.

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพลังประชาชนเตรียมเสนอยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในสัปดาห์หน้า ม.291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 มีความคิดเห็นอย่างไร พล.ต.จำลอง ตอบว่าพันธมิตรฯ ทั่วประเทศคัดค้านอย่างถึงที่สุดแน่นอนเพราะการชุมนุมของพันธมิตรฯเพื่อต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยพรรคพลังประชาชนเนื่องจากไม่มีความมั่นใจว่าจะไม่หมกเม็ดที่จะแก้ไขมาตราอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และครอบครัว ซึ่งหากเสนอเมื่อไหร่พันธมิตรฯ จะเคลื่อนไหวคัดค้านทันทีและอาจจะไม่ได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามอีกว่า กรณีที่กองทัพมีท่าทีเป็นห่วงเรื่องสถาบันที่ทางพันธมิตรฯ ก็ดึงสถาบันมาเกี่ยวข้องเช่นเดียวกัน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า กองทัพไม่ควรมาห่วงเรื่องที่พันธมิตรฯ นำสถาบันมาพูดบนเวทีและใช้เป็นหลักการต่อสู้ของพันธมิตรฯนั้นเป็นการกระทำตามรัฐธรรมนูญที่คนไทยสามารถลุกขึ้นมาปกป้องสถาบันได้
“เสธ.แดง”เชื่อยิงด้วยเอ็ม79

ที่ห้องสื่อมวลชน สำนักเลขาธิการกองทัพบก พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นล่าสุด เท่าที่ดูน่าจะเป็นเครื่องยิงลูกระเบิดสังหารบุคคล เอ็ม 79 ขนาด 44 มม. มีระยะหวังผล 150 เมตร ถ้าเกินกว่านี้จะไม่แม่นยำทำให้ระเบิดไปตกหน้าเบิร์ม ครั้งนี้เป็นการใช้อาวุธสงครามครั้งที่สองคงจะเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปน่าจะเป็นอาร์พีจี ระยะการยิงหวังผล 400-500 เมตร และขั้นหนักสุดอาจเป็นปืน ค.60 ถือว่าโหดสุดเอาไว้ใช้ในสงคราม เพราะฉะนั้นอยากเตือนว่าขอให้ออกจากทำเนียบรัฐบาลเร็วที่สุด ทราบว่าเริ่มมีลูก ๆ มาชักชวนพ่อแม่ให้กลับบ้านเพราะเป็นห่วงจะได้รับอันตราย

“นักรบพระเจ้าตาก”สลายตัว

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อว่า ล่าสุดทางพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้มีคำสั่งให้ตนสลายกลุ่ม “นักรบพระเจ้าตาก” ที่ฝึกอยู่ที่สนามหลวงประมาณ 100 คน โดยระบุว่ามี “คำสั่งพิเศษ” มา ซึ่งตนก็ได้สั่งให้สลายทัพและยกเลิกการฝึกอย่างเด็ดขาดเรียบร้อยแล้ว สำหรับกลุ่มคนพวกนี้อาจจะแปรสภาพไปเป็น “แก๊ง 47 โรนิน” ซามูไรไร้สังกัด ซึ่งในประวัติศาสตร์โบราณของญี่ปุ่น แก๊งซามูไรเหล่านี้จะทำหน้าที่ในการไปตามล่าพวกนักการเมืองเลวทุจริต เพราะพวกนี้มีอุดมการณ์ได้รับการฝึกฝนมาแล้วอย่างดี ต่อไปนี้การกระทำอะไรที่เกิดขึ้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับตนเพราะไม่ได้ยุ่งด้วยแล้ว

วอนกองทัพช่วยดูทำเนียบ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงจะมีการนำเทปการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ มาออกอากาศอีกครั้งว่า ส่วนตัวตนเห็นว่าเนื้อหาสาระที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามานั้นไม่ได้กระทบหรือสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง ส่วนที่มีการวิจารณ์ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ วิพากษ์กระบวนการยุติธรรมนั้น เราต้องแยกให้ชัดเจนว่า พ.ต.ท. ทักษิณวิพากษ์กระบวนการยุติธรรมหรือศาลสถิตยุติธรรม เพราะเป็นกระบวนการยุติธรรมที่เกิดนั้นแตกต่างจากบุคคลอื่น เนื่องจากมีการตั้งบุคคลที่เป็นฝ่ายตรงข้ามมาเป็นพนักงานสอบสวน ส่วนการที่กองทัพเฝ้าติดตามกรณีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติแต่ควรจะแสดงความสนใจความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย เพราะวันนี้กลุ่มคนที่ยึดทำเนียบ รัฐบาลกำลังตั้งตัวเองเป็นกองกำลังติดอาวุธ กลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับสุจริตชน มีการตั้งสน.พันธมิตรฯ ซึ่งมีผู้ปฏิบัติงานและพกอาวุธได้

ตั้ง “ฉก.6080” คุมเข้มสถาบัน

ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองที่มีการนำสถาบันเบื้องสูงเข้ามาเกี่ยวข้องว่า คงตอบไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เท่านั้นที่จะตอบได้เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องในระดับข้างบนขึ้นไปที่ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้พูด ส่วนการปฏิบัติงานข้างล่าง คือการรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นเรื่องของกองทัพภาคที่ 1 ที่จะดูแล เมื่อถามถึงกรณีที่กองทัพบกมอบหมายให้กองทัพภาคที่ 1 จัดตั้ง “ฉก.6080” เพื่อดำเนินการติดตามขบวนการละเมิดสถาบันนั้น พล.ท.คณิต กล่าวว่า ตนไม่เกี่ยวข้องเพราะไม่อยู่ในอำนาจของตน

ต่อข้อถามอีกว่า มีการสำรวจหรือไม่ว่าวิทยุชุมชนคลื่นใดในพื้นที่ 26 จังหวัดกองทัพภาคที่ 1 ที่หมิ่นสถาบัน พล.ท.คณิต กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยต่าง ๆ ในพื้นที่กำลังติดตามดู อย่าไปพูดว่าวิทยุชุมชนจาบจ้วง เพราะวิทยุชุมชนมีประโยชน์ในการทำให้ประชาชนแต่ละท้องถิ่นที่ไม่สามารถรับฟังวิทยุหลัก ได้รับทราบข่าวสารความเป็นไปในระดับท้องถิ่น หรือระดับประเทศ ดังนั้นอย่ากล่าวหารวมทั้งหมด ต้องแยกเป็นเฉพาะบุคคลที่พูด

“ตู่”กร้าวเปิดเทปโฟนอิน

ส่วนที่พรรคพลังประชาชน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชนและพิธีกรรายการความจริงวันนี้ ให้สัมภาษณ์ยืนยันที่จะนำเทปบันทึกการปราศรัยของ พ.ต.ท. ทักษิณ อดีตนายกฯแพร่ภาพออกอากาศในรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีตามปกติ การที่พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่ม 40 ส.ว. ออกมาคัดค้านนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลเพราะคำปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ความลับโทรทัศน์ทุกช่องรวมถึงหนังสือพิมพ์ทุกฉบับนำไปเผยแพร่หมดแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าทำไมเอ็นบีทีจะทำไม่ได้และจะถือว่าแทรกแซงสื่อของรัฐไม่ได้ เนื่องจากรายการความจริงวันนี้เป็นของเอกชน ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจ ดังนั้นสำหรับกรณีที่กลุ่ม 40 ส.ว. ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีว่าเป็นการแทรกแซงสื่อนั้น ในวันที่ 5 พ.ย. นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคพลังประชาชน จะรวบรวมรายชื่อ ส.ส. ยื่นต่อประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้ถอดถอน 40 ส.ว. ตามรัฐธรรมนูญ ม.270 เพราะมีพฤติการณ์ส่อใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่ถูกต้อง

เล็งจัดความจริงสัญจรตจว.

นายจตุพร กล่าวต่อว่า หลังงานพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพ จะมีการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจรในภาคต่าง ๆ กำลังตัดสินใจว่าจะเริ่มที่ภาคเหนือหรืออีสาน สถานที่อาจจะเป็นสนามกีฬาเชียงใหม่ 700 ปี ส่วนอีสานก็อาจเป็น จ.อุดรธานี หรือ จ.ขอนแก่น และจะกลับมาปิดท้ายที่ราชมังคลาฯ อีกครั้ง แต่ยังไม่มีการพูดคุยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินอีกหรือไม่ ส่วนวัตถุประสงค์เพื่อต้านรัฐประหาร ต้านสืบทอดอำนาจเผด็จการ แก้รัฐธรรมนูญ 2550 ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ อาจเคลื่อนไปชุมนุมปิดล้อมรัฐสภาในวันที่ 12 พ.ย. เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.291 นั้น นปช. และรายการความจริงวันนี้จะไม่เคลื่อนไปขัดขวาง

แฉส.ส.โทรฯ ขู่อธิบดีกรมกร๊วก

นอกจากนี้นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีมีคนอ้างเป็น ส.ส.พรรคชื่อดัง โทรศัพท์ไปต่อว่าอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ข่มขู่ทำนองว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดี หากปล่อยให้นำเทปรายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 ออกมาเผยแพร่ และอยากถามว่าวันนี้นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช. ที่ออกมาทำนายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่ได้โฟนอินในวันที่ 1 พ.ย. นั้นหายไปไหนแล้ว สำหรับเหตุผลที่จะนำเทปรายการความจริงวันนี้สัญจร มาออกอากาศนั้นจะเป็นการนำเกร็ดการจัดงานมาบอกเล่าตามปกติ จะตัดต่อเป็นตอน ๆ แต่ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะนำตอนใดมาเผยแพร่ครั้งแรก ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการตอกย้ำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษและราชประชาสมาสัย

เมื่อถามว่าหลังงานวันที่ 1 พ.ย. ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายจตุพร ตอบว่า ก็ได้พูดคุยกันไม่มาก แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ติดตามบรรยากาศงานผ่านทางเว็บไซต์ ขอบคุณผู้จัดรายการความจริงวันนี้และประชาชนที่มาร่วมงานมากจริง ๆ

พปช.ยกร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้มีความเคลื่อนไหวประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน เตรียมการล่ารายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 10,000 ชื่อ เพื่อตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ และปรากฏว่า ในส่วนของพรรคพลังประชาชนได้มีการยกร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยเนื้อหา 3 แผ่นกระดาษ โดยแผ่นแรกเป็นตัวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามคำวินิจฉัย ที่ 3-5/2550 วันที่ 30 พ.ค. 2550 เฉพาะผู้ที่เคยเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและ ข้าราชการการเมือง พ.ศ.... ใจความว่า โดยที่เป็นการสมควรนิรโทษกรรมแก่ผู้ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามคำวินิจฉัย ที่ 3-5/2550 วันที่ 30 พ.ค. 2550 เฉพาะผู้ที่เคยเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและข้าราชการการเมือง พ.ศ.... ม.1 พระราชบัญญัติ

ประกอบด้วย 5 มาตราหลัก

ขณะที่เนื้อหาประกอบด้วย 5 มาตรา โดย ม.1 พ.ร.บ.นี้ เรียกว่า “พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามคำวินิจฉัย ที่ 3-5/2550 วันที่ 30 พ.ค. 2550 เฉพาะผู้ที่เคยเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและข้าราชการการเมือง พ.ศ....” ม.2 พ.ร.บ. นี้ให้บังคับใช้ตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ม.3 บรรดาการกระทำใด ๆ ของกรรมการบริหารพรรคการเมืองอันเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ซึ่งถือเสมือนว่าเป็นการดำเนินกิจการในนามของกรรมการบริหารพรรคการเมืองทั้งคณะที่มีผลผูก พันต่อพรรคการเมืองซึ่งตนสังกัด อันเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองทั้งคณะตามคำวินิจฉัยที่ 3-5/2550 วันที่ 30 พ.ค. 2550

ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามวรรคหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเพราะการกระทำใด ๆ เฉพาะผู้ที่เคยเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและข้าราชการการเมืองให้เป็นผู้ที่ไม่เคยกระทำหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดยให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ม.4 การนิรโทษกรรมตามพ.ร.บ.นี้ ไม่ก่อให้เกิดสิทธิผูกพันแก่ผู้ได้รับนิรโทษกรรมในอันที่จะเรียกร้องสิทธิหรือประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น ม.5 ให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาการตาม พ.ร.บ. นี้

ระบุทำเพื่อประเทศชาติ

มีรายงานว่า เอกสารแผ่นที่สาม เป็นบันทึกหลักการและเหตุผล ประกอบร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฯ ในส่วนของหลักการ ระบุเนื้อหา “ให้มีกฎหมายว่าด้วยนิรโทษกรรมแก่ผู้ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามคำวินิจฉัย ที่ 3-5/2550 วันที่ 30 พ.ค. 2550 เฉพาะผู้ที่เคยเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและข้าราชการการเมือง ส่วนที่สองเป็นเหตุผล ระบุเนื้อหา โดยที่การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นมาตรการการลงโทษทางการเมือง เพื่อป้องกันมิให้ผู้ถูกลงโทษเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นมาตรการที่เหมาะสมกับสภาวการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน แต่กรณีการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นหมู่คณะ เนื่องจากกฎหมายให้ถือว่าเป็นผู้ร่วมดำเนินกิจการอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เพราะมีข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อถือได้ว่ามีส่วนร่วมหรือรู้เห็นกับการกระทำฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามคำวินิจฉัยที่ 3-5/2550 วันที่ 30 พ.ค. 50 อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองและส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศชาติ

ดึงหน.พรรคพ้นคุกการเมือง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองที่เคยเป็น ข้าราชการการเมืองที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ ทำให้ประเทศชาติขาดแคลนบุคลากร ทางการเมืองที่น่าจะช่วยให้การบริหารประเทศเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ ประกอบกับการที่ต้องรับผลของกฎหมาย ซึ่งให้ถือว่าเป็นผู้ร่วมดำเนินกิจการอันฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ทั้ง ๆ ที่ตนเองอาจไม่รู้เห็นหรือไม่มีความเกี่ยวข้องในขณะที่มีการกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมือง ซึ่งนำไปสู่การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและตัดสิทธิการเมืองห้าปี จึงเป็นการสมควรนิรโทษกรรมแก่ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งดังกล่าวเพื่อให้โอกาสกลับมาทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต่อไปจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ปชป.ลุยค้านนิรโทษกรรม

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ รท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชนระบุว่าถ้าจะนิรโทษกรรม จะรวมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน และแกนนำพันธมิตรฯ ด้วยว่า การนิรโทษกรรมก็จะใช้ในความผิดทั่วไปที่เกิดขึ้นหรือเป็นความผิดที่ต่อไปนี้จะไม่ให้เป็นความผิดอีกแล้ว ทั้งนี้คดีของ พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นคดีผลประโยชน์ขัดกันทำผิดกฎหมายทุจริตซึ่งเป็นคดีอาญา คำถามคือว่าเรื่องผลประโยชน์ขัดกันและการทุจริตคอร์รัปชั่น เราจะยกเว้นหรือยกเลิกหรือ อีกทั้งน่าจะเป็นความตั้งใจที่จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน เพราะจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการนิรโทษกรรมจากคดีซื้อที่ดินรัชดา ตนก็ไม่เข้าใจว่าเกี่ยวข้องอะไรกับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน โดยเอาความผิดที่ถูกตัดสินโดยกระบวนการยุติธรรมมาปะปนกับเรื่องการเมืองมันไม่ใช่

“สุเทพ” ชี้ถวายฎีกาไม่บังควร

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ ผบ.เหล่าทัพเอาใจใส่เรื่องสถาบันเบื้องสูงเป็นพิเศษก็ถูกต้องแล้วตนจึงขอให้กำลังใจกองทัพทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งไม่ให้ใครเข้าไปล่วงละเมิดโดยต้องตรวจสอบและดำเนินการจริงจัง ทั้งนี้ตนสังเกตว่าขณะนี้มีคนบางกลุ่มพยายามดึงสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการเมือง กองทัพทำถูกต้องแล้วที่ไม่ยอมเป็นกองทัพของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่เป็นกองทัพของชาติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแท้จริง น่าจะทำให้ ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่าเรามีหลัก ส่วนกรณีที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนเตรียมล่ารายชื่อเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สมควรจะเคลื่อนไหวดำเนินการทั้งการขอพระราชทานอภัยโทษและการนิรโทษกรรม การล่ารายชื่อประชาชนเพื่อยื่นถวายฎีกาหรือเสนอกฎหมายครั้งนี้ ถือเป็นเจตนาที่ไม่สุจริตอยู่แล้วและไม่บังควรอย่างยิ่ง

หวั่นสถานการณ์รุนแรงขึ้น

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธาน คณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์โดยรวมของประเทศว่า หลังงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นจนเป็นที่น่าวิตกเพราะจากคำให้สัมภาษณ์ของ ส.ส.พรรคพลังประชาชนที่ไปพบ พ.ต.ท. ทักษิณ ระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเป้าหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นหากรัฐบาลยังดึงดันที่จะดำเนินการต่อไป จะเป็นเรื่องยากที่จะหยุดวิกฤติ ส่วนการเคลื่อนไหวของมวลชนเมื่อวันที่ 1 พ.ย. วิปฝ่ายค้านเห็นว่าเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเคลื่อนไหวเพื่อให้ได้รับการตอบรับมากขึ้นเท่านั้น เชื่อว่าจะมีการขยายผลเหตุการณ์วันที่ 1 พ.ย. มากขึ้นอีก สำหรับการสานเสวนาที่หลายฝ่ายเห็นด้วยแต่คงสำเร็จได้ยาก เพราะรัฐบาลไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นปัญหา

ยื่นหนังสือนายกฯ คุ้มครองสื่อ

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พนักงานองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือสถานีโทร ทัศน์ไทยพีบีเอส นำโดยนายเถกิง สมทรัพย์ รองผู้อำนวยการสถานี เข้ายื่นหนังสือถึงนายสมชาย นายกฯ ผ่านนายณัฐวุฒิ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เพื่อขอการคุ้มครองเสรีภาพของสื่อมวลชน จากการที่ถูกกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ปิดล้อมสถานีข่าว ที่ จ.เชียงใหม่ โดยขอให้นายกฯ สั่งการไปยังผู้เกี่ยวข้องให้กำกับดูแลสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย เพื่อเป็นการรับรองความปลอดภัยของพนักงานสถานีไทยพีบีเอส และไม่ให้เสรีภาพในการทำหน้าที่สื่อถูกคุกคามด้วยวิธีที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากบรรยากาศการเมืองในขณะนี้มีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องหามาตรการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนทุกแขนง ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของสังคมอารยะประชาธิปไตย

กลุ่มรักเชียงใหม่ขีดเส้น2วัน

ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวที่บริเวณสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.สันทราย กว่า 30 นายยังคงวางกำลังรักษาความปลอดภัย เนื่องจากยังมีกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ปักหลักนอนเฝ้าอยู่ข้างสถานีจำนวนหนึ่ง เพราะยังไม่ค่อยพอใจกับการออกมาแสดงความเสียใจของผู้บริหารสถานีเท่าไรนัก อย่างไรก็ดีช่วงบ่ายกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยอมเก็บข้าวของกลับไปปักหลักที่โรงแรมแกรนด์วโรรส ตัวเมืองเชียงใหม่ นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เปิดเผยว่า การที่นายเทพชัย หย่อง ผอ.สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ออกมาให้ข่าวขอโทษนั้นยังไม่เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างทั้งสองฝ่ายที่ทำกันไว้ เพราะได้เรียกร้องให้มีการขอโทษเป็นการแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดีจะให้เวลา 2 วันหากข้อเรียกร้องดังกล่าวยังไม่ได้รับการตอบสนองก็จะนัดชุมนุมอีกครั้ง

นายกฯร่วมงานผบ.เหล่าทัพ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ที่สถานีโทรทัศน์ กองทัพบกช่อง 5 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯพร้อมด้วย ผบ.เหล่าทัพ พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้เดินทางมาร่วมบันทึกเทปโทรทัศน์งานอาเศียรวาท ถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช ใช้เวลาบันทึกเทปนานกว่า 1 ชม. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีการปิดล้อมสถานีโทรทัศน์มีความเห็นเช่นไร นายกฯ ตอบว่า นโยบายของรัฐบาลไม่ต้องการให้ใครก่อความวุ่นวายแต่ยอมรับทุกวันนี้ยังมีเรื่องเกิดขึ้นอยู่ ขนาดรัฐบาลจะจัดงานสโมสรสันนิบาตในทำเนียบรัฐบาลยังทำไม่ได้เลย

“บิ๊กป๊อก”ลั่นหาช่องแก้วิกฤติ

ขณะที่ พล.อ.ทรงกิตติ ผบ.สส.ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงความห่วงใยของ ผบ.เหล่าทัพ ต่อกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ โฟนอินเข้ามาในรายการความจริงวันนี้สัญจร ที่ระบุว่า ขอพึ่งพระบารมีพระองค์ท่านในการกลับเข้าประเทศไทย โดยย้อนกลับมาถามสื่อมวลชนว่า “สื่อเป็นห่วงหรือไม่” ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ. กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองยังคงมีความขัดแย้งและก็กำลังหาช่องทางที่จะไม่ให้เกิดวิกฤติ ในส่วนของกองทัพได้แสดงบทบาทภารกิจของตนเอง พยายาม ทำในส่วนของตนเองไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ สำหรับการสื่อสารเรื่องอื่น ๆ ก็ได้สื่อสารไปให้สื่อมวลชนได้รับทราบแล้ว.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์