กรมศิลป์ส่งเจ้าหน้าที่ช่างสิบหมู่ตรวจสอบอีกครั้ง ที่บริเวณฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบรมรูปทรงม้า หลัง"สนธิ ลิ้มทองกุล"ระบุนำโกเต๊กไปวางรอบเพื่อทำคุณไสย แต่ผลการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถอดหมุดหรือขุดเจาะทำลาย แต่พบร่องรอยการทำความสะอาดของเจ้าหน้าที่กทม. ด้าน"ยะใส"แถลงกร้าวเผยพันธมิตรฯไม่ร่วมเวทีถกยุติความรุนแรง แต่จะเจรจากับรัฐบาลเพื่อให้ลาออกเท่านั้น "จตุพร พรหมพันธุ์"เปิดแถลงโต้บิ๊กทหาร-กองทัพ ไม่ต้องห่วงโฟนอินทักษิณ แนะไปจับตา-จัดการ"สนธิลิ้ม"ดีกว่า ระบุพูดจาพาดพิงดึงสถาบันทุกวันทำไมต่อมความรู้สึกช้ากันนัก ระทึกบึ้มอีกลูก ถล่มบังเกอร์เต็นท์การ์ดพันธมิตรฯสะพานอรทัย ตร.ชี้บริเวณที่เกิดเหตุคนภายนอกเข้าไปได้ยาก ไม่ฟันธงเป็นของฝ่ายใด
-จนท.กรมศิลป์ตรวจอนุสาวรีย์ร.5
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 พ.ย. นายกองเกต ชนะพันธุ์ ปฏิมากร 8 สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร พร้อมทีมงานช่างสิบหมู่ 3 คน เดินทางมาตรวจสอบพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือพระบรมรูปทรงม้า หลังนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุได้เจาะฐานทำคุณไสยด้วยการนำแผ่นโกเต๊กใช้แล้วไปวางไว้รวม 6 จุด โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโดยรอบทั่วบริเวณฐานและพระบรมราชานุสาวรีย์ และถ่ายรูปไว้ด้วย การตรวจสอบไม่พบร่องรอยว่ามีการเจาะส่วนใด มีเพียงรอยด่างสีขาวที่สะโพกและใต้ท้องตัวม้าเล็กน้อย โดยใช้เวลาตรวจสอบนาน 30 นาที
นายกองเกตเปิดเผยว่า เบื้องต้นเท่าที่สังเกตไม่พบร่องรอยความเสียหาย และปกติมีเจ้าหน้าที่กทม. มาดูแลโดยรอบและทำความสะอาดทุกวัน เท่าที่ตรวจสอบโดยรวมไม่มีร่องรอยชำรุดเสียหายกับพระบรมราชานุสาวรีย์ ซึ่งจะนำไปรายงานให้อธิบดีกรมศิลปากรต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพียงด้านล่างระดับสายตาของพระบรมราชานุสาวรีย์เท่านั้น เนื่องจากการตรวจสอบด้านบนต้องนำรถกระเช้า หรือต่อคานขึ้นไปสำรวจ ทั้งนี้ ระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบยังคงมีประชาชนที่นับถือ ร.5 เดินทางมาสักการบูชาพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ตลอดเวลา
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สำนักช่างสิบหมู่ได้เข้าไปตรวจสอบโดยรอบพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ลานพระบรมรูปทรงม้า จากการตรวจสอบโดยรอบบริเวณและพระบรมราชานุสาวรีย์ก็ไม่พบความเสียหาย ทั้งนี้ พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติ โดยกรมศิลปากรมอบหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแล โดยกทม.จะทำความสะอาดพระบรมราชานุสาวรีย์ปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากพระบรมรูปทรงม้าหล่อด้วยโลหะทองบรอนซ์ เมื่อถูกความชื้นอาจทำให้บางจุดเป็นสนิมได้ จึงต้องทำความสะอาด โดยทุกครั้งที่กทม.เข้าไปทำความสะอาด กทม.จะประสานมายังกรมศิลปากรก่อน และจะบวงสรวงพระราชานุสาวรีย์ก่อนทุกครั้งที่มีการทำความสะอาดและบูรณะเท่านั้น แต่กรณีที่เกิดขึ้นนี้คงไม่มีการบวงสรวง
-"มาร์ค"จี้นายกฯลาออกรายวัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถามถึงการลาออกของนายเจริญจิตต์ ณ สงขลา จากกรรมการสอบสวนเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ต.ค. ว่า ตนไม่ทราบเหตุผลและรูปแบบที่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา จริงแล้วตนอยากให้หน่วยงานที่เป็นองค์กรอิสระเร่งรัดผลสอบให้มีความชัดเจน ส่วนที่นายกฯ อ้างจะรอผลสอบของกรรมการชุดนี้นั้น คณะกรรมการอิสระน่าจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า ซึ่งกระบวนการตรวจสอบและการรักษามาตรฐานของการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ คิดว่าการที่เราไปใช้วิธีการตั้งกรรมการที่ไม่เป็นอิสระขึ้นมาและจำกัดอำนาจไม่น่าจะเป็นคำตอบให้กับสังคมได้ และไม่แน่ใจว่าผลสอบของกรรมการชุดนี้จะมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ถ้าสอบในขอบเขตที่จำกัดอาจเป็นผลที่รับฟังได้ แต่ปัญหาคือไม่ถึงต้นตอของปัญหา เพราะยังไม่เคยได้ยินข่าวว่ากรรมการชุดนี้เรียกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือผู้ที่มีความรับผิดชอบเบื้องต้นไปสอบเลย
เมื่อถามว่าสุดท้ายแล้วจะได้เห็นความรับผิดชอบทางการเมืองจากรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกครั้งที่เดินเข้าสู่วิกฤตคือการไม่แสดงความรับผิดชอบ ประเทศบอบช้ำประชาชนเหนื่อยล้ามามากแล้ว ถ้ายังลากกันต่อไป หรือนำไปสู่ความขัดแย้ง หรือเพิ่มระดับความขัดแย้งความรุนแรงขึ้นไปอีก ผลกระทบต่อความเป็นอยู่ ต่อเศรษฐกิจมันจะยาว โอกาสที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ จะแสดงความเห็นในฐานะนายกฯ ตัวจริงมีเสมอ แต่อยู่ว่ามีความกล้าหาญหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณที่จะทำ ตนเป็นห่วงบ้านเมือง เพราะมีแต่ความเสี่ยงความสูญเสียรายวัน ความรุนแรงยังมีอยู่ ทั้งปาระเบิด ปะทะกัน การไปล้อมกันก็มีอยู่ตลอดเวลา
-"ณัฐวุฒิ"แนะกองทัพดูพธม.ด้วย
เวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบ ดอนเมือง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกลุ่มคนเสื้อแดงปิดล้อมสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส จ.เชียงใหม่ ว่าการปิดล้อมครั้งนี้ชัดเจนว่ากลุ่มเสื้อแดงไม่พอใจที่สถานีโทรทัศน์รายงานข่าวว่ากลุ่มเสื้อแดงที่มาร่วมงานความจริงวันนี้ได้รับเงินค่าจ้างหัวละ 2,500 บาท ซึ่งทางสถานีได้ชี้แจงและขอโทษเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างจึงยุติด้วยดี ถือเป็นการเคารพซึ่งกันและกัน หากมีการล้ำเส้น กินแดนกันจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ในลักษณะนี้ แต่ที่น่าดีใจคือไม่มีเหตุการณ์รุนแรง หรือละเมิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้ทั้งประชาชน สื่อมวลชน ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกองทัพติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเรียกประชุมเหล่าทัพและตำรวจ นายณัฐวุฒิกล่าวว่ากองทัพมีหน้าที่ดูแลเหตุการณ์ที่อาจจะละเมิดกฎหมาย เมื่อกองทัพแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับคนเสื้อแดงหรือพ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่กองทัพควรแสดงความสนใจความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย เพราะวันนี้กลุ่มคนที่ยึดทำเนียบกำลังตั้งตัวเองเป็นกองกำลังติดอาวุธ และพื้นที่ทำเนียบกลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามสำหรับสุจริตชน ใครที่พูดไม่เข้าหูจะถูกโจมตี กลายเป็นว่าพูดผิดหูโดนด่า คนแปลกหน้าโดนยิง
-ไทยพีบีเอสยื่นขอความคุ้มครอง
เมื่อถามถึงกรณีที่วิจารณ์ว่าระเบิดรายวันที่เกิดขึ้นในกลุ่มพันธมิตรเป็นการสร้างสถานการณ์ โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าวว่าตนไม่กล้าพูดชัดเจนขนาดนั้น แต่ตั้งข้อสังเกตว่าวันนี้มีคนต้องการผลประโยชน์จากความวุ่นวายของสถานการณ์ และคงจะมีมืออื่นๆ พยายามเติมเชื้อความวุ่นวายเข้าไปในสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ส่วนจะเป็นฝีมือของกลุ่มใดนั้น ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบและพิสูจน์กันต่อไป เท่าที่ทราบขณะนี้กลุ่มพันธมิตรได้ตั้งสน.พันธมิตรฯ รวมทั้งตั้งผู้ปฏิบัติงานและพกอาวุธได้
เวลา 16.00 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พนักงานองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นำโดยนายเถกิง สมทรัพย์ รองผู้อำนวยการสถานี เข้ายื่นหนังสือถึงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและรมว.กลาโหม ผ่านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เพื่อขอการคุ้มครองเสรีภาพของสื่อมวลชน จากการที่ถูกกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ปิดล้อมสถานีข่าว ที่จ.เชียงใหม่ โดยขอให้นายกฯสั่งการผู้เกี่ยวข้องให้กำกับดูแลสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย เพื่อรับรองความปลอดภัยของพนักงานสถานีไทยบีพีเอส และไม่ให้เสรีภาพในการทำหน้าที่สื่อถูกคุกคามด้วยวิธีที่ผิดกฎหมาย
เวลา 18.00 น. ที่ททบ.5 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงม็อบเสื้อแดงบุกเข้ายึดไทยพีบีเอสที่จ.เชียงใหม่ว่า นโยบายของรัฐบาลนั้นไม่ต้องการให้ใครมาก่อความวุ่นวาย แต่ต้องยอมรับว่ายังมีอยู่ อย่างที่รัฐบาลจะจัดงานสโมสรสันนิบาตแต่ไม่สามารถใช้ทำเนียบรัฐบาลได้ เมื่อถามว่าพันธมิตรฯยืนยันไม่เปิดเส้นทาง รัฐบาลมีนโยบายอย่างไร นายสมชายกล่าวว่าฝากไปบอกหน่อย
-"เจริญจิตต์"ไขก๊อกกก.สอบ7ต.ค.
รายงานข่าวแจ้งว่า นายเจริญจิตต์ ณ สงขลา 1 ใน 9 คณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 ได้ยื่นหนังสือลาออกจากคณะกรรมการเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ต่อนายปรีชา พานิชวงศ์ ประธานกรรมการ โดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งนี้ น่าสังเกตว่าการลาออกของนายเจริญจิตต์เป็นสาเหตุทำให้การประชุมคณะกรรมการต้องเลื่อนออกไปจากวันที่ 3 พ.ย. เป็นวันที่ 13 พ.ย. ขณะเดียวกันมีรายงานว่าอาจมีกรรมการบางคนลาออกตามไปด้วย
เวลา 14.40 น. ที่ทำเนียบ ดอนเมือง น.ส.วีรินทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมครม.รับทราบรายงานความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ 7 ต.ค. และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รายงานว่าจะจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหาย ตั้งอยู่ที่สำนักคุ้มครองสวัสดิภาพชุมชน อาคาร 2 กรมพัฒนาสังคมฯ เบอร์โทรศัพท์ 0-2659-6258-59 สำหรับต่างจังหวัดมอบให้สำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเป็นศูนย์รับลงทะเบียนผู้ได้รับความเสียหาย
-ปาบึ้มสะพานอรทัยถล่มพันธมิตร
เมื่อเวลา 02.30 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่การ์ดพันธมิตรฯ รักษาการณ์อยู่ที่บริเวณสะพานอรทัย ถนนลูกหลวง แขวงจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพ ซึ่งเป็นสะพานที่จะเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลอีกทางหนึ่ง ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นหนึ่งครั้ง หลังจากสิ้นเสียงระเบิด ทางกลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ ได้เดินออกมาตรวจสอบ พร้อมทั้งกั้นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากจุดดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะเข้าไปทำลายหลักฐาน พร้อมทั้งจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมตรวจสอบบริเวณหลุมระเบิดดังกล่าว ลักษณะเป็นคล้ายเศษปูนกะเทาะ ซึ่งยังไม่ทราบว่า เป็นระเบิดชนิดใด เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
การ์ดพันธมิตร เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังรักษาการณ์อยู่บริเวณเชิงสะพานอรทัย ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณหน้าเต็นท์รักษาการณ์ หลังจากสิ้นเสียงจึงได้ทำการตรวจสอบ และก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ไม่ว่าจะเป็นรถจยย. หรือคนที่ผ่านเข้ามาและคนร้ายน่าจะขว้างมาทางด้านอาคารด้านหน้าสะพานอรทัย ซึ่งมีความสูงประมาณตึก 5 ชั้น
-บช.น.แถลงเหตุบึ้มสะพานอรทัย
เวลา 11.10 น. ที่บช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ สันทัดเวช รักษาการ ผกก.สน.นางเลิ้ง แถลงถึงเหตุระเบิดเมื่อคืนวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ประมาณตี 2 ครึ่งเกิดเสียงคล้ายระเบิดขึ้นที่สะพานอรทัย ใกล้แยกเทวกรรม ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ติดกับถนนกรุงเกษม คู่ขนานวัดโสมนัส ซึ่งจุดดังกล่าวจะมีแนวกั้นเป็นบังเกอร์ของกลุ่มพันธมิตร มีทั้งยางรถยนต์และกระสอบทราย เหตุระเบิดเกิดขึ้นตรงหน้าแนวกั้นห่างประมาณ 2 เมตร ผกก.สน.นางเลิ้งรุดไปตรวจสอบทันทีเมื่อรับแจ้ง และเช้าวันเดียวกันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดมาตรวจซ้ำอีกรอบ เบื้องต้นได้ความว่าน่าจะเป็นวัตถุระเบิด สภาพที่พบเป็นหลุมลึกประมาณ 2 ซ.ม. กว้าง 10 ซ.ม. ยาว 20 ซ.ม. ตรวจพบเศษโลหะสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสะเก็ดระเบิด ส่วนจะเป็นชนิดใดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และไม่พบมีใครบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ตรงแยกเทวกรรมมีเจ้าหน้าที่ทหารรักษาการณ์อยู่ การ์ดพันธมิตรก็อยู่ตรงนั้น ยังไม่ได้ความว่าแน่ชัดว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นได้อย่างไร ระบุได้เพียงว่าเป็นวัตถุระเบิดแน่นอน ส่วนชนิดและขนาดยังไม่ยืนยันรอผลตรวจสอบจากผู้ชำนาญการ จริงๆ แล้วตรงนั้นไม่น่าจะมีใครเข้ามาก่อเหตุได้ง่าย เนื่องจากไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ วงจรปิดอยู่ห่างจากตัวที่ติดรอบทำเนียบ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดและไม่อยากให้เกิด
"ผมเป็นห่วงเช้าๆ กลางคืน ต้องหวาดผวาหลังเที่ยงคืน กลัวคนเมาจะเข้าไปแถวนั้น เดี๋ยวจะมีปัญหาอีก รายวัยรุ่นเมื่อวันก่อนก็เป็นคนเมาขับรถผ่านเข้าไปชัดเจน ไม่ใช่เป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเลย ดีที่ไม่เสียชีวิต ขอเรียนว่าการชุมนุมตามกรอบรัฐธรรมนูญต้องโดยสงบและปราศจากอาวุธ" พล.ต.ต.อำนวยกล่าว
-ชี้ยังพิสูจน์ไม่ได้มาจากฝ่ายไหน
ด้านพ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ สันทัดเวช รักษาการ ผกก.สน.นางเลิ้ง กล่าวว่า เรายังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นฝ่ายใดกระทำ เพราะจุดนั้นมีการ์ดพันธมิตรอยู่มาก อีกฝั่งข้ามคลองมีเจ้าหน้าที่อยู่ด้วย ซึ่งไม่มีใครเห็นว่าระเบิดดังกล่าวมาจากที่ใด ถ้าเป็นชนิดขว้างก็ไม่มีใครเห็นคนขว้างและทิศทาง มีเพียงหลุมลึก 2 ซ.ม. กว้างคูณยาว 10 คูณ 20 ซ.ม.ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทราบของเจ้าหน้าที่เก็บกู้ กำหนดเวลาตรวจสอบไม่ได้ เท่าที่พบมีเศษโลหะตกกระจายหลายชิ้น เป็นลักษณะของระเบิดชนิดตกกระทบแล้วระเบิด
ส่วนกรณีวัยรุ่นขับรถผ่านเข้าไปแล้วถูกยิงได้รับบาดเจ็บเมื่อวันก่อนนั้น รักษาการ ผกก.สน.นางเลิ้ง กล่าวว่า อาการบาดเจ็บไม่มากเพียงแค่ถูกเข้าที่หัวไหล่ขวา ส่วนการเข้าไปตรวจสอบทางการ์ดพันธมิตร เราไม่เห็นเพราะมีระยะห่างเป็นแนวกั้นกับการ์ดพันธมิตรอยู่ ปกติตำรวจไม่ได้เข้าไป มีการประสานเมื่อมีเหตุเท่านั้น ส่วนการตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นเบื้องต้นไม่พบอาวุธปืนในรถที่ขับขี่มา ไม่ได้ทำพาราฟินเทสต์เพราะเขาได้รับบาดเจ็บ ซึ่งส่วนใหญ่ที่มาก็เป็นผู้หญิงนั่งมาในรถด้วย
-เสธ.แดงชี้นักรบศรีวิชัยมีอริเยอะ
วันเดียวกัน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวว่า หลังจากที่ตนต่อว่าผบ.เหล่าทัพกรณีส่งสารวัตรทหารเข้าไปอารักขากลุ่มพันธมิตร ทั้งที่ทำผิดกฎหมายนำมวลชนเข้ายึดทำเนียบนั้น วันเดียวกันนี้ตนได้รับการติดต่อจากพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. นัดรับประทานอาหารและสอบถามเกี่ยวกับจุดยืนต่อกรณีกลุ่มนักรบพระเจ้าตาก แต่ตนไม่ได้ตอบรับ ผบ.สส.ต้องเข้าใจจุดยืนของตนด้วยว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งหรือเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่นักรบศรีวิชัยต้องไปขอบคุณและกราบตีนผบ.สส. ผบ.ทบ. ที่ส่งสารวัตรทหารจากเหล่าทัพมาอารักขา
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ขณะนี้นักรบพระเจ้าตากได้สลายกลุ่มไปแล้ว เพราะพล.อ.อนุพงษ์อยากให้สถานการณ์บ้านเมืองสงบ ทราบว่านักรบพระเจ้าตากได้แตกเป็นกลุ่ม 47 โรนิน เหมือนนักรบซามูไรของญี่ปุ่นที่จะออกปฏิบัติการ ตามล้างตามฆ่า เพราะเมื่อแตกตัวไปแล้วพวกนี้ก็เป็นนักรบไร้สังกัด จึงอยากให้พ่อแม่พี่น้องนำลูกหลานออกจากบริเวณทำเนียบรัฐบาล ขณะนี้ไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ยิ่งมวลชนพันธมิตรฯมีจำนวนลดน้อยลงเหลือแต่พวกที่ได้รับจ้างมา มีหลายกลุ่มจองกฐินจัดการนักรบศรีวิชัยอยู่ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ย.จะเป็นเครื่องยิงลูกระเบิดสังหารบุคคลแบบเอ็ม-79
-แกนพธม.แถลงอ้างถูกขว้างบึ้ม
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายสมศักดิ์ กล่าวถึงเหตุระเบิดบริเวณสะพานอรทัยเมื่อคืนวันที่ 4 พ.ย.ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เป็นการใช้ระเบิดลูกเกลี้ยงชนิด เอ็ม-26 ซึ่งเป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่เหตุการณ์ระเบิดบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์และเหตุการณ์วันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยจุดที่ระเบิดตกอยู่ห่างจากการ์ดพันธมิตรประมาณ 2 เมตร ทำให้มีขวดน้ำแตกกระจายได้รับความเสียหายหลายร้อยขวด จากการตรวจสอบวิถีการขว้างระเบิดมีมุม 45 องศา คาดว่าน่าจะถูกขว้างมาจากที่สูง ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีอาคารของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบถามการ์ดพันธมิตรทราบว่า หลังจากเกิดเหตุ 15 นาที พบรถต้องสงสัยและมีชาย 3 คนนั่งอยู่ในรถ โดยขับออกจากภัตตาคารแห่งหนึ่งใกล้กับสะพานอรทัย ที่นักการเมืองมักชอบไปนั่งเจรจากัน แต่ไม่มีใครตามไป เพราะกลัวจะยิงสวนกลับมา อย่างไรก็ตาม พันธมิตรจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น จะติดตั้งสปอตไลต์ทุกจุดรอบพื้นที่การชุมนุมและเพิ่มกระสอบทรายมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เนื่องจากเราไม่กำลังมากพอ หากจะรับบริจาคก็เกรงใจประชาชน
-โต้นัวอ้างสถาบันเพื่อการเมือง
เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่าพันธมิตรฯจะอ้างสถาบัน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พันธมิตรทำหน้าที่ปกป้องพระมหากษัตริย์ เมื่อมีคนละเมิดเราต้องกล่าวถึง อย่างกรณีของดา ตอร์ปิโด ถ้าพันธมิตรไม่พูดก็ไม่มีใครพูด ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ส่วนที่เป็นห่วงว่าความขัดแย้งจะจบด้วยการนองเลือดนั้น เมื่อมีสัญญาณเช่นนั้น รัฐบาลต้องลาออกไป ทุกอย่างก็จบ ขณะนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ หมดสภาพและความชอบธรรมทุกอย่าง ทั้งการฆ่าประชาชน ทำการขัดรัฐธรรม นูญหรือจริยธรรม ทั้งกรณีมีคลิปคนหน้าเหมือนออกมาก็ไม่มีปฏิเสธ ถ้าจะเกิดการนองเลือดก็มาจากรัฐบาลที่เห็นแก่ตัวเป็นผู้สร้าง
เมื่อถามถึงการปิดล้อมสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย เป็นการเลียนแบบพฤติกรรมการปิดล้อมเอ็นบีทีหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พันธมิตรเข้ายึดเอ็นบีที เพราะเป็นสมบัติของรัฐบาลและสร้างมาจากภาษีของประชาชน ดังนั้น พันธมิตรมีความชอบธรรมที่จะต่อต้าน แต่กรณีของนปช.เข้าบุกยึดสถานที่ของเอกชนถือว่าผิดกฎหมาย
-"จำลอง"ปัดเจรจาแกนสานเสวนา
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการสานเสวนาเพื่อหาทางออกความขัดแย้งว่า การสานเสวนาต้องเงื่อนไขว่า การเจรจาต้องมี 2 คือ กลุ่มพันธมิตรและรัฐบาล หากจะตั้งฝ่ายกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยต้องเป็นบุคคลที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับ ไม่ใช่ใครนึกอยากจะเจรจาก็มา รัฐบาลต้องส่งคนที่มีอำนาจมาเจรจากับเรา ส่วนคนกลางที่ดำเนินการอยู่ขณะนี้ อาทิ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ และน.พ.วันชัย วัฒนศัพท์ พันธมิตรจะเชื่อถือหรือไม่นั้น ต้องกลับไปถามก่อนว่าจะสานเสวนากี่กลุ่ม ซึ่งพันธมิตรยืนยันว่าการเจรจาต้องเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลเท่านั้น
เมื่อถามว่าถ้าพันธมิตรฯยังปักธงว่ารัฐบาลต้องออกสถานเดียวทำให้การเจรจาลำบากหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า นั่นเป็นข้อเรียกร้องของเรา แต่มีช่องทางเจรจากันได้ ส่วนที่พรรคพลังประชาชนจะขออภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ที่ผ่านมาไม่เคยมีขออภัยโทษในคดีทุจริต มีแต่คดีการเมืองที่ขออภัยโทษ ไม่ใช่เช่นนั้นนักโทษทุกคนขออภัยโทษได้หมด และการขออภัยโทษต้องขอด้วยตนเอง ไม่ใช่ให้คนอื่นขอให้ ส่วนที่เหล่าทัพเป็นห่วงกลุ่มพันธมิตรอ้างถึงสถาบันนั้น เชื่อว่าคงไม่ห่วงฝ่ายเรา แต่ห่วงฝ่ายตรงข้ามมากกว่า เพราะพันธมิตรฯไม่มีผลประโยชน์ทางการเมือง
-พร้อมค้านยื่นแก้รธน.มาตรา 291
พล.ต.จำลอง กล่าวถึงตำรวจขอความร่วมมือให้พันธมิตรเปิดถนนราชดำเนินในช่วงพระราชพิธีว่า พันธมิตรจะเปิดถนนราชดำเนินนอกในช่วงวันที่ 14-19 พ.ย. โดยอาจเปิดเส้นทางก่อนกำหนดการเล็กน้อย ทั้งนี้พันธมิตรอยากจะรื้อเต็นท์และสิ่งของออกนอกพื้นที่ทั้งหมด แต่ไม่มีหลักประกันว่า ถ้าเปิดถนนล่วงหน้าฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามายิงเราหรือไม่ ขนาดมียางรถยนต์เรายังไม่ปลอดภัย
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ส่วนที่พรรคพลังประชาชนจะยื่นแก้ไขมาตรา 291 ในสัปดาห์หน้านั้น เท่าที่ทราบในพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้านและส.ว. มีบางส่วนไม่เห็นด้วย ถ้ายื่นจริงเราจะคัดค้านอย่างเต็มที่ เราจะปล่อยให้ยื่นเข้าไปเฉยๆไม่ได้แน่นอน ผู้สื่อข่าวถามถึงพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อ้างว่ามีหลายกลุ่มจ้องเล่นงานการ์ดพันธมิตร พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตนไม่อยากเอ่ยถึงชื่อคนๆนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะแถลงข่าว นายสมศักดิ์ได้นำเศษวัสดุโลหะ อ้างว่าเป็นสะเก็ดระเบิดและขวดน้ำจากบริเวณสะพานอรทัย มาแสดง เป็นน่าสังเกตว่าเป็นครั้งแรกที่นายสมศักดิ์ สวมเสื้อยืดสีขาว สกรีนรูปมือตบลายพรางทหารมาปรากฏตัวต่อหน้าสื่อมวลชน เป็นที่วิจารณ์ในหมู่ผู้สื่อข่าวว่าเป็นความพยายามดึงกองทัพมาเกี่ยวข้องในการต่อสู้กับรัฐบาล
-ตร.รื้อบังเกอร์ขวางเส้นทางเสด็จฯ
เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง และเจ้าหน้าที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายฯ ประมาณ 30 คน ได้ช่วยกันรื้อกระสอบทรายและยางรถยนต์ ที่กลุ่มพันธมิตรนำมาวางเป็นเครื่องกีดขวางอยู่บริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์และบนถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ฝั่งวัดมกุฏกษัตริยาราม โดยเจ้าหน้าที่ได้ขนสิ่งของทั้งหมดมากองไว้ที่บริเวณข้างกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเปิดถนนและใช้เป็นเส้นทางเสด็จฯของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่จะเสด็จฯในงานของสถาบันพระปกเกล้า ที่จัดขึ้น ณ สำนักงานองค์การสหประชาชาติ ในช่วงเช้าของวันที่ 5 พ.ย. โดยเจ้าหน้าที่จะขอเปิดเส้นทางบริเวณดังกล่าว 1 วัน จากนั้นจะปิดเส้นทางดังกล่าวเช่นเดิม ทั้งนี้หลังจากรื้อยางรถยนต์และกระสอบทรายออก เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจัดเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจะนำไฟส่องสว่างมาติดรอบพื้นที่ดังกล่าว เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น
-"ผบ.สส.-ป๊อก"ปัดตอบโฟนอินแม้ว
เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ททบ.5 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯและรมว.กลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ.และพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้มาร่วมบันทึกเทปอาเศียรวาท เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงความห่วงใยของผบ.เหล่าทัพ ต่อกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯโฟนอินเข้ามาในรายการความจริงวันนี้สัญจร ที่ระบุขอพึ่งพระบารมีพระองค์ท่านในการกลับเข้าประเทศไทย โดยย้อนกลับถามสื่อว่า "สื่อเป็นห่วงหรือไม่"
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองยังคงมีความขัดแย้ง และกำลังหาช่องทางที่จะไม่ให้เกิดวิกฤต ส่วนของกองทัพได้แสดงบทบาทภารกิจของตนเอง พยายามทำไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ สำหรับการสื่อสารเรื่องอื่นๆ ได้สื่อสารไปให้สื่อมวลชนได้รับทราบแล้ว
-"จตุพร"โต้ปชป.-พาดพิงสถาบัน
เวลา 14.30 น. ที่พรรคพลังประชาชน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน แถลงการนำเทปบันทึกการจัดรายการ ความจริงวันนี้สัญจรเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ราชมังคลากีฬาสถาน มาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีว่า อยู่ระหว่างการตัดต่อและเลือกช่วงเวลาการออกอากาศ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมมีความกังวลเกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้สื่อทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ ได้ถ่ายทอดการจัดงานไปหมดแล้ว การนำมาออกอากาศอีกครั้งไม่เห็นน่าตกใจ ขอฝากพรรคประชาธิปัตย์อย่าโทรศัพท์ไปข่มขู่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ถือเป็นการแทรกแซงสื่อ ส่วนที่มีส.ว.บางคนระบุจะยื่นถอดถอนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ที่ให้ออกอากาศนั้น ทราบว่านายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน เตรียมดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 เพื่อยื่นถอดถอนส.ว.ที่ออกมาโจมตีเช่นกัน
นายจตุพร กล่าวว่า ขอถามพรรคประชาธิปัตย์ว่าหากคุณเป็นคนไทยแล้วเดือดร้อน จะนึกถึงใคร ถ้าไม่ใช่ในหลวง กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เช่นกัน เมื่ออยู่ไกลบ้านและไม่ได้รับความเป็นธรรมก็นึกถึงพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และฝากถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยเรียกร้องนายกฯพระราชทาน มาตรา 7 น่าจะเป็นผู้ที่พาดพิงสถาบันมากกว่า รวมทั้งผู้สมัครส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ลำดับ 1 กลุ่ม 5 ที่เคยเจอคดีกบฏล้มล้างประชาธิปไตย เคยได้รับโทษประหารชีวิตยังเคยขอพระราชทานอภัยโทษ และเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์เลือกวันที่ 8 พ.ย. จัดงานระดมทุนเพราะเป็นวันที่จอมพลผิณ ชุณหะวัน ยึดอำนาจจากหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ให้นายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกฯ
-อัด"ปลัดกห.-ผบ.ทบ."ต่อมรู้สึกช้า
นายจตุพร กล่าวถึงพล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม รวมทั้งผู้นำเหล่าทัพที่มีความเป็นห่วงหลังจากพ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอิน ที่มีเนื้อหาบางตอนอาจพาดพิงสถาบันว่า ปลัดกระทรวงกลาโหมควรไปเปิดเอเอสทีวี เพราะนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯดึงสถาบันมาจาบจ้วงทุกวัน แม้กระทั่งนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นายดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายอาสา สารสิน ราชเลขาธิการ ถูกนายสนธินำมาย่ำยีชนิดไม่มีชิ้นดี
"อยากถามว่ากองทัพไปอยู่ไหน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้ทำอะไรบ้าง ไม่ยอมดำเนินการกับนายสนธิ ต่อมความรู้สึกพล.อ.อนุพงษ์ ไปอยู่ไหน ส่วนที่ปลัดกระทรวงกลาโหมออกมาให้สัมภาษณ์ก็ไม่ได้มีมิติความเป็นคนไทย" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า การจัดรายการความจริงสัญจรครั้งที่ 3 อยู่ระหว่างเลือกสถานที่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ ขอนแก่น หรืออุดรธานี โดยจะจัดรายการหลังงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ส่วนรูปแบบรายการจะโฟนอินพ.ต.ท.ทักษิณ อีกหรือไม่ยังไม่ได้หารือ นอกจากนี้หลังจากจัดรายการ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับตนและนายวีระ มุสิกพงศ์ โดยขอบคุณผู้จัดงาน ซึ่งทำให้ได้เห็นกำลังใจที่มาจากประชาชนจำนวนมาก และในการจัดรายการนายวีระ ไม่ได้เตี๊ยมกับพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างที่ถูกกล่าวหา
-พธม.แถลงไม่ร่วมถกยุติรุนแรง
เวลา 17.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตร แถลงการจัดพิมพ์สมุดปกขาวร่างการเมืองใหม่ประชาภิวัฒน์ ที่ห้องอาหาร ตึกบัญชาการ 1 ภายในทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากคณะทำงานร่วมประชุมหารือ เพื่อร่างการเมืองใหม่ทั้งหมด 6 ครั้ง ขณะนี้ได้ร่างการเมืองใหม่ฉบับสมบูรณ์ พร้อมตีพิมพ์เพื่อแจกจ่ายให้สาธารณชนนำไปศึกษา เพื่อร่วมเสนอแนะข้อคิดเห็นสร้างการเมืองใหม่ แต่ก่อนจัดพิมพ์จะแก้ไขและเรียบเรียงข้อความใหม่ เพื่อให้เป็นภาษาที่สะดวกต่อการทำความเข้าใจของประชาชน โดยจะจัดพิมพ์พร้อมแจกจ่ายไปทั่วประเทศภายในสัปดาห์หน้า และตั้งคณะทำงานเพื่อรณรงค์ทำความเข้าใจกับทุกกลุ่มสาขาอาชีพ ไม่ว่ากลุ่มเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน นักศึกษาและบุคคลทั่วไป นอกจากนั้นจะจัดการเสวนาในจังหวัดต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจต่อประชาชนในทุกสาขาอาชีพ
นายสุริยะใส กล่าวถึงการสานเสวนาที่มีหลายองค์กรจัดขึ้นเพื่อหาทางออกให้วิกฤตประเทศที่เผชิญอยู่ว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. มีตัวแทนคณะสานเสวนามาเชิญให้กลุ่มพันธมิตรเข้าร่วมด้วย แต่หลังจากประชุมแกนนำกลุ่มพันธมิตรจึงตอบปฏิเสธไป เนื่องจากการสานเสวนาดังกล่าวยังไม่ตั้งหัวข้อพูดคุย และกลุ่มพันธมิตรยืนยันว่าจะขอเจรจากับรัฐบาลเท่านั้น หากมีการติดต่อมาจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมแกนนำเพื่อส่งตัวแทนเข้าเจรจาด้วย เช่นเดียวกับสมัยที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกฯ เป็นตัวแทนเจรจากับกลุ่มพันธมิตร มีพล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นตัวแทนเข้าเจรจาโดยพฤตินัย แต่ต้องยุติไปเพราะการจับกุมตัวนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และพล.ต.จำลอง ต่อเนื่องเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ในที่สุดพล.อ.ชวลิตต้องลาออกเพื่อรับผิดชอบในเหตุดังกล่าว