ปชป.เบรกเอ็นบีทีแพร่ซ้ำ กลุ่มสานเสวนาพบมาร์ค
"หมอวันชัย"แกนนำกลุ่มสานเสวนา เดินสายพบผู้นำฝ่ายค้าน ผลักดันแนวทางเจรจา 4 ฝ่ายยุติความรุนแรง ยอมรับต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำเร็วไม่ได้ เผยส่งทีมไปเจรจากับฝ่ายพันธมิตรฯแล้ว แต่ยังไม่รู้ผล "อภิสิทธิ์"ยื่นเงื่อนไขรัฐบาล ต้องหยุดตั้งส.ส.ร.3 หวั่นเป็นชนวนขัดแย้งรุนแรงอีกระลอก รัฐบาลไม่สน นายกฯนัดหารือหัวหน้าพรรคร่วม 5 พ.ย. เดินหน้าแก้ ม.291 คาดยื่นเข้าสภาได้สัปดาห์หน้า พรรคร่วมเสียงแตก รวมใจไทยฯ มัชฌิมาฯ เพื่อแผ่นดิน เตรียมเสนอชะลอไว้ก่อน ส่วนพรรคปลาไหลหนุนใส่เกียร์เดินหน้า พปช.ปลื้ม"ม็อบเสื้อแดง" 1 พ.ย. ปัดไม่เกี่ยวอดีตนายกฯ เตรียมขอพระราชทานอภัยโทษ ระบุเป็นแค่เกมปล่อยข่าวดักคอ ปชป.ค้านเอ็นบีทีฉายซ้ำเทป"แม้ว"โฟนอิน ระบุสร้างความแตกแยก ไม่เป็นธรรมกับพันธมิตรฯ กองทัพฮึ่ม"ทักษิณ"พาดพิงเบื้องสูง ถือว่าไม่เหมาะสม "หมัก"ออก ร.พ.แล้ว เตรียมบินไปรักษาตัวที่สหรัฐ
พปช.ปลื้มงานชุมนุม"เสื้อแดง"
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 พ.ย. ที่พรรคพลังประชาชน มีการประชุมส.ส.วาระพิเศษ เพื่อหารือถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ภายหลังการประชุมซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรค กล่าวว่า ที่ประชุมยังหารือกรณีประชาชนให้ความสนใจร่วมงานความจริงวันนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ว่า เป็นการแสดงพลังของประชาชนที่ต้องการต่อต้านการรัฐประหาร ดังนั้น พรรคพลังประชาชนขอขอบคุณคนเสื้อแดงเรือนแสนที่มาร่วมงานและชุมนุมอย่างสงบสันติ แต่อยากถามนายสนธิ ลิ้มทองกุล และพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า หากเทียบผู้ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มาตามคำเชิญชวนอยู่ทุกวัน กับคนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตย ก็จะเห็นว่าอะไรเป็นอะไร และจะได้รู้ว่ามีประชาชนที่รักพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่เป็นจำนวนมาก และต้องขอบคุณผู้นำเหล่าทัพยุคใหม่ที่ให้โอกาสให้เกิดประชาธิปไตย พรรคเห็นด้วยที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ สนับ สนุนกลุ่มคนเสื้อขาวในการสานเสวนาเพื่อสันติภาพ เพราะเป็นทางออกที่ดี และจะนำไปสู่ความสำเร็จ โดยต้องเชื่อมโยงกับกระบวนการทำงานของส.ส.ร. ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรงที่มีต้นตอมาจากสะพานมัฆวานฯ และภาคใต้ที่ออกมาขับไล่ฝ่ายตรงกันข้าม ให้หยุดพฤติกรรมต่างๆ ที่จะส่งผลเสียได้แล้ว
ปัดไม่เกี่ยว"แม้ว"ขออภัยโทษ
ร.ท.กุเทพ กล่าวถึงข่าวส.ส.พรรคบางคนเตรียมรวบรวมรายชื่อส.ส.และประชาชนถวายฎีกาขอพระ ราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของส.ส. ไม่ใช่มติพรรค พรรคยังไม่ได้หารือ และเห็นตามที่นายสมชาย ระบุว่า เรื่องการขออภัยโทษพ.ต.ท.ทักษิณต้องทำเอง เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ผู้มีความผิดต้องดำเนินการเอง ส่วนจะได้รับหรือไม่ขึ้นอยู่กับพระเมตตา ส่วนข่าวว่ามีการล่ารายชื่อเสนอถวายฎีกานั้น เป็นการประโคมข่าวของผู้หวังผลทางการเมืองมากกว่า การใช้วิธีนี้อาจทำให้เกิดผลเสียต่อพ.ต.ท. ทักษิณ รวมทั้งนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ถูกโจมตีได้ง่าย แม้ผู้ที่ออกมาให้ข่าวจะหวังดีต่อทั้ง 2 คน แต่ไม่ควรออกมาพูด เรื่องนี้ควรทำอย่างเงียบและนิ่ง อย่าให้เป็นประเด็นการเมือง
เมื่อถามว่าการขออภัยโทษต้องเร่งทำก่อนคดีพ.ต.ท. ทักษิณจะถึงที่สุดหรือไม่ ร.ท.กุเทพกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมจึงไม่ทราบจะใช้เวลานานแค่ไหน ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงสามารถลงชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกาได้หรือไม่ ต้องไปดูข้อกฎหมายว่าประชาชนสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคสามารถเสนอให้ออกกฎหมายนิรโทษ กรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณได้หรือไม่ ร.ท.กุเทพกล่าวว่า การขอนิรโทษกรรมเป็นหน้าที่ของสภาดำเนินการผ่านกฎหมายออกมาเป็นพ.ร.บ. ส่วนตัวคิดว่าพรรคและ ส.ส.สามารถเสนอได้แต่ต้องไปดูสถานการณ์บ้านเมืองขณะนั้นว่า ถึงวาระพิเศษหรือมงคลสมัย ส่วนจะทำได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสภา
ชูพ.ร.บ.นิรโทษฯ-ลดขัดแย้ง
"พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่ใช่กฎหมายที่ออกเพื่อคนๆ เดียวหรือใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่เป็นคนไทยที่จะได้รับอานิสงส์จากกฎหมายฉบับนี้และสภาจะเลือกปฏิบัติไม่ได้"รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าว
เมื่อถามว่าหากส.ส.ของพรรคจะดำเนินการ ทางพรรคจะห้ามหรือไม่ เนื่องจากอาจจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทได้ ร.ท.กุเทพกล่าวว่า เป็นสิทธิของประชาชนและส.ส. แต่พรรคจะไม่เป็นผู้ขับเคลื่อน หากส.ส.จะไปดำเนินการเองถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล ต่อข้อถามว่าจะนำประเด็นการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ไปใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้หรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เป็นไปได้ถ้ามีการเลือกตั้ง เพราะพรรคต้องการความสามัคคีก็อาจนำเรื่องนี้ชูเป็นนโยบาย และเชื่อว่าไม่ใช่เฉพาะพรรคพลังประชาชนแต่หลายพรรคคงต้องการดำเนินการเพื่อให้เกิดความสามัคคี ลดความขัดแย้งในสังคม โดยให้ทุกคนหันหน้ากลับเข้าหากัน เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรมีข้อ หาทางการเมืองมาขวางกั้น และหากทำได้ประชาชนจะคลายความอึดอัดลง ไม่มีความขัดแย้งเรื่องสีเสื้อ ดังนั้นหากใครละลายตรงนี้ก็ถือว่าประเสริฐที่สุด ส่วนที่มีการเสนอให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับโทษก่อนจะออกกฎหมายนิรโทษนั้น เราคงไม่ไปพูดถึง เพราะเป็นขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม
เชื่อเป็นแค่เกมปล่อยข่าวดักคอ
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชน เผยว่า ในการโฟนอินเข้ามาร่วมรายการความจริงวันนี้ สิ่งที่พ.ต.ท. ทักษิณพูดคงไม่ได้หวังผลในการลี้ภัย เพราะหากจะขอลี้ภัยก็ทำได้อยู่แล้ว แต่การที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดว่าจะ ขอพึ่งพระบารมี คิดว่าเป็นการพูดไปตามจังหวะการปราศรัยของแกนนำ นปช. และต้องการแสดงออกถึงความจงรักภักดีมากกว่า หากพ.ต.ท.ทักษิณจะขอพึ่งพระบารมีเพื่อหวังประโยชน์จริง แต่ประชาชนไม่รักไม่สนับสนุนก็ไม่มีประโยชน์ พระบารมีก็คงแผ่ไปไม่ถึง เพราะไม่ใช่คนที่ประชาชนต้องการ จึงคิดว่าผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นเช่นนี้ ต้องการให้เป็นประเด็นทางการเมืองเป็นการเล่นเกมรายวันเอาแพ้เอาชนะกันมากกว่า
รายงานข่าวยังระบุว่า สำหรับข้อสังเกตของฝ่ายต่างๆ ที่เห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะสามารถยื่นถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษได้หรือไม่ เพราะคดียังไม่ถึงที่สุดและพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ถูกจำคุกตามคำพิพากษานั้น โดยหลักการแล้วพ.ต.ท.ทักษิณสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แต่ไม่สามารถระบุว่าต้องยื่นถวายฎีกาด้วยรูปแบบใด เพราะไม่มีข้อกำหนดกฎหมายบังคับไว้ตายตัวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องดำเนินการด้วยตัวเองหรือประชาชนจะร่วมกันเข้าชื่อ ที่สำคัญแม้แต่นักโทษที่กำลังหนีคดี หรือถูกพิพากษาจำคุกก็สามารถยื่นถวายฎีกาได้โดยไม่ต้องได้รับโทษความผิดก่อน แต่ท้ายที่สุดบทสรุปจะเป็นอย่างไรไม่สามารถคาดเดาได้ เพราะทุกอย่างเป็นพระราชอำนาจที่จะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยลงมา ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้
มาร์คค้านฉายซ้ำเทปโฟนอิน
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงรายการความจริงวันนี้จะนำบันทึกการโฟนอินพ.ต.ท.ทักษิณมาออกอากาศทางเอ็นบีทีว่า อยากเห็นการใช้สื่อของรัฐช่วยทำให้บ้านเมืองสงบ อะไรนำไปสู่ความแตกแยกควรหลีกเลี่ยง หากยังทำอยู่แสดงว่ารัฐบาลจงใจเป็นกระบอกเสียงให้อดีตนายกฯ ทำให้บ้านเมืองแตกแยก ส่วนที่นายกฯระบุห้ามไม่ได้ อีกทั้งการโฟนอินก็ผ่านฟรีทีวีไปแล้ว ไม่มีข้อความหมิ่นเหม่นั้น เมื่อเอารายการเข้ามาได้ทำไมจะเอาออกไม่ได้ ส่วนข้อความจะหมิ่นเหม่หรือไม่ ยังไม่แน่เพราะเป็นเรื่องของศาลและสถาบัน เห็นอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องความขัดแย้ง ทำไมรัฐบาลไม่คิดว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือการแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่กลับไปกระตุ้นให้เกิดมากขึ้น เมื่อถามว่ารัฐบาลจงใจให้เกิดความแตกแยกใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นายสมชายบอกมาเลยว่าจะอยู่เป็นกระบอกเสียงของอดีตนายกฯ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกระแสข่าวขออภัยโทษของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า นายสมชายซึ่งเป็นอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรมบอกแล้วว่าการยื่นขออภัยโทษ เจ้าตัวต้องยื่นเอง ความผิดของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ควรเอามาเป็นเรื่องการเมือง ต้องรับโทษตามกระบวนการอาญาปกติ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวนั้นเปรียบเทียบไม่ได้กับการขออภัยโทษของพล.ต.มนูญกฤต รูปขจร ที่เป็นข้อหากบฏและข้อหาทางการเมือง แต่ของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการกระทำผิดอาญาของนักการเมือง
กลัวกลุ่มพันธมิตรเสียเปรียบ
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเปิดเทปบันทึกเหตุการณ์มาออกในรายการความจริงวันนี้เป็นตอนๆ เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ตนเห็นว่าไม่เหมาะสมในการใช้สื่อของรัฐมาเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่เป็นธรรมกับกลุ่มอื่นๆ ที่ถูกกลุ่มคนเหล่านี้พาดพิงถึง หาก กลุ่มนปช.เป็นเพียงกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่งก็มีฐานะทางการเมืองเท่ากับกลุ่มพันธมิตรฯ ถ้ารายการความจริงวันนี้ใช้เอ็นบีทีเปิดเทปบันทึภาพการชุมนุมได้ ก็ควรเปิดโอกาสให้กลุ่มพันธมิตรฯ เปิดเทปการชุมนุมในทำเนียบฯทางเอ็นบีทีได้ด้วย ถ้าจะให้เสมอภาคกัน กลุ่มนปช.ควรจะใช้เคเบิลผ่านดาวเทียมช่องเอ็มวี 5 ถ่ายทอดจะเหมาะสมกว่า
นายเทพไท กล่าวว่า อยากถามผู้รับผิดชอบเอ็นบีทีว่าถ้าพ.ต.ท.ทักษิณสามารถโฟนอินออกรายการได้ แล้วมีบุคคลที่อยู่ในสถานะเดียวกับพ.ต.ท.ทักษิณ เช่น นายวัฒนา อัศวเหม นายสมชาย คุณปลื้ม นายรักเกียรติ สุขธนะ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ รวมถึงนักโทษคนอื่นๆ จะขอโฟนอินบ้างจะได้หรือไม่ อยากให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์และผอ.เอ็นบีที ตรวจ สอบการใช้รายการความจริงวันนี้ ออกเทปบันทึกการชุมนุมเหตุการณ์วันที่ 1 พ.ย. หากปล่อยปละละเลยจะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากผู้ถูกพาดพิง ตัวอธิบดีและผอ.ก็เตรียมตัวเตรียมใจที่จะรับหมายศาลเป็นรายวัน และให้เตรียมหาทนายและเงินประกันตัวไว้ล่วงหน้า
กลุ่มสานเสวนาพบ"อภิสิทธิ์"
เวลา 11.30 น. ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล น.พ.วันชัย วัฒนศัพท์ ผอ.ศูนย์สันติวิธีและธรรมา ภิบาล สถาบันพระปกเกล้า พร้อมคณะทำงานเครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อหารือแนวทางการแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งของบ้านเมือง พร้อมนำเสื้อยืดข้อความรณรงค์ยุติความรุนแรงมามอบให้
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ฝ่ายค้านไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร คู่ขัดแย้งคือรัฐบาลกับภาคประชาชน ฝ่ายค้านยินดีร่วมมือ การสานเสวนาเป็นกระบวนการที่ต้องแข่งขันกับเวลา ทุกวันเสี่ยงกับความรุนแรง อยากให้เริ่มด้วยความมั่นใจของทุกฝ่าย เป็นไปได้ขอให้รัฐบาลหยุดส.ส.ร.3 ก่อน วันนี้สถานการณ์วันที่ 1 พ.ย.คลายไป แต่ข้างหน้าความขัดแย้งคือส.ส.ร. เป็นห่วงว่าจะนำไปสู่ความรุนแรงเหมือนวันที่ 7 ต.ค.
ด้านน.พ.วันชัย กล่าวถึงหลักการเจรจาว่า คนที่อยู่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับปัจจุบันโดยเฉพาะเรื่องการเมือง น่าจะคุยกันในจุดนั้น ยกเว้นกรณีพาดพิงก็เป็นอีกเรื่อง ส่วนพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ต่างประเทศตนคงไปพบไม่ได้ ทั้งนี้ อย่างน้อย 2 กลุ่มคือรัฐบาลและฝ่ายค้านที่เห็นพ้องว่าการสานเสวนาเป็นทางหนึ่งที่เป็นทางออกได้ สำหรับกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ประสานไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่าผลเป็นอย่างไร เร็วๆนี้น่าจะประชุมได้ อย่าไปเร่งรัดเพราะทุกคนก็เป็นห่วงสถานการณ์ นายอภิสิทธิ์ก็เป็นห่วงสถานการณ์ใหม่จะเกิดขึ้น ตนเข้าใจ แต่การหาทางออกปัญหาที่เรื้อรังทำเร็วไม่ได้
ชี้สังคมไม่ต้อนรับความรุนแรง
เมื่อถามว่าจะนำข้อเสนอนายอภิสิทธิ์ ที่เสนอให้หยุดส.ส.ร.3ไว้ก่อนแจ้งต่อรัฐบาลหรือไม่ น.พ.วันชัยกล่าวว่า การให้หยุดส.ส.ร.เป็นข้อสังเกต หลายครั้งจะนำข้อสังเกตมาเจรจาว่าจะทำอย่างไร เวทีเจรจาอาจยังไม่นิ่งหรือมีการเผชิญหน้าได้ การทำงานรูปแบบใหม่เปลี่ยนการวิพากษ์วิจารณ์ไปสู่จุดยืนที่ดี กระบวนการไม่ได้พบกันครั้งเดียว ไม่ได้กำหนดเวลา ให้หลายฝ่ายมาพร้อมกันเราจะสรุปว่ามีประเด็นใดบ้างเร่งด่วน ทั้งนี้ไม่ได้ทำเฉพาะสานเสวนา เราร่วมรณรงค์ยุติความรุนแรงกับสื่อมวลชนด้วย กระบวนการขับเคลื่อนจากกระแสสังคมบอกว่าไม่ต้อนรับความรุนแรง มีคนติด ต่อเข้ามาว่าเห็นด้วยกับเรา คงไม่มีใครกล้าทำรุนแรงประเจิดประเจ้อ ถ้าจะมีก็ต้องแอบทำ
ต่อข้อถามการที่พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ยอมยุติบทบาท การหาทางออกความขัดแย้งจะทำได้จริงหรือ น.พ.วันชัยกล่าวว่า เราไม่ได้มองพ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าสังคมปฏิเสธความรุนแรง คงไม่มีกล้าทำรุนแรง เราทำเรื่องนี้ไม่ได้คิดว่าจะได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่หวังไว้สูง เมื่อทุกคนตื่นตัวไม่อยากให้มีความรุนแรงก็ต้องไม่มี ส่วนที่มีบางคนมองการสานเสวนาไม่ใช่หนทางออก น.พ.วันชัยกล่าวว่า ทุกคนก็คิดได้ แต่เราต้องการขับเคลื่อนกระบวนการใหม่ให้เป็นที่เข้าใจของสังคม รู้จักหันหน้ามาพุดคุยกัน จึงไม่ใช่ผู้มีบารมีมานำ แต่ต้องเป็นคนที่เป็นที่ไว้ใจมานำสานเสวนา
ส.ว.จวก"ทักษิณ"พูดกำกวม
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวส.ส.พรรคพลังประชาชนจะล่ารายชื่อประชาชนเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า เป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่ไม่ควรนำเรื่องนี้มากดดัน หรือแสดงพลังประชาชนเป็นแสนเป็นล้านคนมากดดันก็ไม่ควรเช่นกัน
ส่วนที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีจะนำเทปการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ มาเปิดซ้ำอีกนั้น นายสมชายกล่าว ว่า คิดว่ารมต.ประจำสำนักนายกฯ อธิบดีกรมประชา สัมพันธ์ และผอ.สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีจะต้องดูถึงความเหมาะสม ต้องดูว่าเมื่อนำเทปดังกล่าวมาออกอากาศแล้วสังคมจะเกิดความแตกแยกหรือไม่ เพราะเอ็นบีทีเป็นของรัฐไม่ใช่ของรัฐบาลหรือเครื่องมือของกลุ่มการเมือง ไม่อย่างนั้นหากเกิดอะไรขึ้นผู้ที่อนุมัติจะต้องรับผิดชอบ
ส.ว.สรรหายังกล่าวว่า อยากวิงวอนพ.ต.ท.ทักษิณว่าขอให้ใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องต่อสู้ในระยะยาว จะดีกว่าให้พลังมวลชนมากดดัน และการโฟนอินที่เกิดขึ้นมีการวิจารณ์ถึงกระบวนการยุติธรรม ก็ไม่เหมาะสมเช่นกัน ส่วนที่พูดกำกวมพาดพิงถึงสถาบันในการอาศัยพระเมตตาให้กลับประเทศนั้น ปกติคนไทยทุกคนได้รับความเมตตาจากพระองค์อยู่แล้ว การพูดกำกวมเป็นเรื่องที่ไม่บังควร
มท.1สั่งกวดขันหมิ่นสถาบัน
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย กล่าวในการเป็นประธานประชุมกระทรวงประจำเดือนพ.ย. ถึงผู้ว่า ราชการจังหวัดทั่วประเทศผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล ว่า ขอกำชับให้ผู้ว่าฯ ทุกคนดำเนินการตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา และขอให้เน้นย้ำเรื่องเกี่ยว กับการหมิ่นสถาบัน ดังที่กระทรวงได้มีหนังสือกำชับไปก่อนหน้านี้ ขอให้เข้มงวดกวดขัน เพราะในช่วง 3 เดือนมานี้มีผู้ที่มีพฤติกรรมหมิ่นสถาบันมาก จึงขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
พล.ต.อ.โกวิทกล่าวว่า เรื่องที่ต้องเน้นย้ำอีกเรื่องคือการสร้างความปรองดองให้กับคนในชาติผ่านการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้าน รัฐบาลจัดงบประมาณให้ 98 ล้านบาทเพื่อให้อำเภอละ 1 แสนบาท เป็นเงินเพื่อจัดการฝึกอบรมตลอดปี จึงขอให้ผู้ว่าฯ รีบวางหลัก สูตรการอบรมตลอดปี"52 และขอความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเรื่องดังกล่าวและขอให้ทำอย่างจริงจัง เพราะขณะนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วงเพราะแต่ละฝ่ายมีความคิดเห็นแตกต่างซึ่งอันตราย คนไม่เข้าใจว่าความดีความชั่วต่างกันอย่างไร ดังนั้นใครขอความร่วมมือในสิ่งชั่วต้องไม่ปฏิบัติ ลูกเสือชาวบ้านจะเป็นตัวทำให้เกิดความยึดมั่นถือมั่นในสถาบันกษัตริย์อย่างแท้จริง
ผุดอำเภอต้นแบบสมานฉันท์
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า นอกจากนี้ขอให้ทุกจังหวัดไปคิดแบบแผนที่จะสร้างความสมานฉันท์ทำ ให้เป็นอำเภอต้นแบบ เป็นอำเภอสมานฉันท์ ซึ่งหากทำได้ยินดีจะลงไปดู และยกย่องให้เป็นอำเภอต้นแบบในเรื่องการคิดดีทำดี มีความสมานฉันท์ ปรองดองช่วยเหลือสังคมและจะเป็นตัวอย่างให้อำเภออื่นๆต่อไป ส่วนการแก้ปัญหาอื่นๆ ของพื้นที่ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติขอให้จังหวัดทำหน้าที่อย่างเต็มที่ สำหรับการแก้ไขปัญหายาเสพติดและผู้มีอิทธิพลและการ จัดระเบียบสังคม ขอให้ผู้ว่าฯ และกทม.เร่งดำเนินการเร่งด่วน รวมทั้งเรื่องการบังคับใช้กฎหมายต้องเข้มแข็ง การใช้กฎหมายเพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเป็นปัญหาสำคัญของรัฐบาล อย่างม็อบยึดทำเนียบมาแล้ว 2 เดือน เราต้องทำให้สงบเรียบร้อยให้ได้ เพราะไม่มีรัฐบาลไหนในโลกปล่อยให้คนทำผิดกฎหมายลอย นวลอยู่ได้ อย่างวันก่อนส.ส.กว่า 50 คนมาต่อว่าบอกว่าตนไม่ทำอะไรเลย ก็ต้องบอกว่าต่อไปนี้ข้าราชการกับรัฐบาลจะต้องร่วมกันแก้ปัญหาต่อไป
นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมช.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ขอให้ผู้ว่าฯบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆ และเวลาประชุมทำโครงการให้เชิญส.ส.ในพื้นที่ไปร่วมประชุม เพื่อให้สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่เพื่อการแก้ปัญหาจะได้ทำอย่างตรงจุด
เดินหน้าดัน"ส.ส.ร.3"เข้าสภา
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคพลังประชาชน มีการประชุมส.ส.วาระพิเศษเพื่อหารือความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 มีนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะคณะกรรมการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมูญ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา มีส.ส.เข้าประชุมบางตา อาทิ นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปรัฐบาล นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม เป็นต้น
เวลา 14.25 น. ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรค แถลงว่า นายสุขุมพงศ์ ชี้แจงว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา ม.291 เพื่อดำเนินการตั้ง ส.ส.ร.3 โดยขั้นตอนการตั้งส.ส.ร.3 จำนวน 120 คน จะดำเนินการให้เสร็จใน 60 วัน จากนั้นจึงเข้าสู่กระ บวนการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใช้เวลาประมาณ 8 เดือน โดยให้ส.ส.ร.ทำงานอย่างอิสระ ปราศจาก การครอบงำของฝ่ายใด เมื่อร่างแก้ไขเสร็จจึงจะเสนอเข้าสู่สภาเพื่อลงมติเห็นชอบ ขณะนี้พรรคจะได้รวบ รวมรายชื่อส.ส.และส.ว.ให้ได้ครบตามจำนวน คาด ว่าจะเสนอ ต่อประธานรัฐสภาได้ในสัปดาห์หน้า และอาจนำเข้าบรรจุสู่วาระการประชุมวาระแรกในวันที่ 12-13 พ.ย. นี้
อัดคนคัดค้านตีตนไปก่อนไข้
ส่วนที่มีหลายฝ่ายรวมทั้งนักวิชาการบางคนมองว่าการตั้งส.ส.ร.3 อาจนำไปสู่เงื่อนไขของความรุนแรง ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เป็นการตีตนไปก่อนไข้ หากไม่ให้โอกาสส.ส.ร.ทำงานก็จะไม่สามารถเดินหน้าแก้ไขปัญหาได้ นักวิชาการหรือใครก็ตามที่ระบุว่าการตั้ง ส.ส.ร.จะเป็นเงื่อนไข เราก็ให้สิทธิ์ถึง 24 คน ในการเข้ามาร่วมร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ยืนยันรัฐบาลและพรรคเชื่อว่าแนวทางส.ส.ร.จะเป็นทางออกที่ดีในการแก้วิกฤตการเมืองในขณะนี้ สำหรับความกังวลว่าการร่างรัฐธรรมนูญไม่มีการวางกรอบว่าจะแก้ประเด็นใดอาจนำไปสู่การคัดค้านนั้น พรรคพลังประชาชนและรัฐบาลมีหน้าที่เปิดประตูเท่านั้น ไม่ได้ตั้งตุ๊กตาหรือตั้งธงไว้ล่วงหน้า เราไม่รู้ว่าส.ส.ร.ที่เข้ามาแล้วจะแก้ประเด็นใด และก็ไม่ได้ร่างเองเพราะหากทำเองจะถูกมองว่าร่างเพื่อตัวเอง
ต่อข้อถามว่าฝ่ายค้านประกาศมาตลอดว่าไม่เห็นด้วยกับการตั้งส.ส.ร.เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า วันนี้ฝ่ายค้านหายน้อยใจกลับมาทำงานในสภาแล้ว ดังนั้น เมื่อมีการเสนอญัตติเข้าสู่สภาก็ควรรับฟัง ส่วนบทสรุปนั้นต้องฟังเสียงส.ว.และพรรคร่วมรัฐบาลว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากเห็นด้วยก็จะรวมเป็นเสียงข้างมากในสภา ร่างแก้ไขก็จะผ่านไปได้โดยไม่เป็นปัญหา
นัดถกหัวหน้าพรรคร่วม5พ.ย.
ที่รัฐสภา นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าหลังจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯเดินทางกลับจากการเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในค่ำวันเดียวกันนี้ โดยนายกฯนัดหารือทำความเข้าใจหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคในวันที่ 5 พ.ย. เพื่อทำความเข้าใจขั้นสุดท้ายและให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันในญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 291
นายวิทยา กล่าวว่า ขั้นตอนการยกร่างอยู่ในขั้นการพิจารณารายละเอียด โดยนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รมต. ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการยกร่างฯ นำร่างเสนอวิปรัฐบาลแต่ละพรรคแล้วเพื่อขอให้สมาชิกแต่ละพรรคลงชื่อสนับสนุน ตนในฐานะประธานวิปรัฐบาลจะนำเรียนให้นายกฯ เร่งสรุปเรื่องนี้ และในการประชุมพรรคพลังประชาชน จะให้สมาชิก ลงนามสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องใช้เสียง ส.ส. 1 ใน 5 ของสมาชิกรัฐสภา คาดว่าหากการรวบ รวมรายชื่อไม่มีปัญหาจะยื่นญัตติต่อรัฐสภาได้ภายในสัปดาห์นี้
นายวิทยา กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขในรายละเอียดอาจแก้ไขในขั้นกรรมาธิการ หรือแก้ไขเลยหากที่ประชุมพรรคมีสมาชิกท้วงติง ส่วนเรื่องความเรียบร้อยคงคาดหวังอะไรไม่ได้เพราะสมาชิกแต่ละคนมีความคิดเห็นเป็นของตนเอง เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา มีเพียงบางประเด็นที่มีการพูดคุยกันไปแล้ว เช่น ที่มาของส.ส.ร.
"แม้ว"บินจากฮ่องกงไปปักกิ่ง
นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ กล่าวว่า การตั้งส.ส.ร.3 ต้องรอให้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 ก่อน จึงจะกำหนดให้สรรหาส.ส.ร. 120 คน ภายใน 60 วัน ส.ส.ร.จะมีเวลาทำงาน 180 วัน หรือ 6 เดือน มาจากการเลือกตั้งทางอ้อมของแต่ละจังหวัดๆละ 1 คน โดยเปิดรับสมัครบุคคลที่มีคุณสมบัติตามกำหนดแล้วให้ มาเลือกกันเอง ส่วนตัวแทนจากกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และผู้มีประสบการณ์ทาง การเมืองการปกครองนั้น ให้สภามหาวิทยาลัยของแต่ ละมหาวิทยาลัย 30 กว่าแห่งเสนอรายชื่อมาสาขาละ 8 คน รวมมหาวิทยาลัยละ 24 คน จากนั้นให้ผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละสาขาเลือกกันเองให้เหลือ 8 คน ส่วนผู้แทนจากสาขาอาชีพเป็นการดำเนินการของประธานรัฐสภาที่จะกำหนดรูปแบบ คล้ายกับการได้มาของส.ส.ร.ปี"50 รวมทั้งหมด 120 คน แล้วดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่เราไม่กำหนดกรอบทำงานใดๆทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้มีข้อครหาว่าชี้นำหรือครอบงำ
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชาชนแจ้งว่า หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามายังรายการ "ความจริงวันนี้สัญจร" เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ได้เดินทางต่อไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อพบกับนายชาญชัย รวยรุ่งเรือง หรือเหยียนปิน เพื่อดูบ้านที่นายเหยียนปินสร้างให้ในหมู่บ้านไพน์ วัลเลย์ ภายในสนามกอล์ฟที่นายเหยียน ปินเป็นเจ้าของ บ้านหลังดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 300 ล้านบาท
รายงานข่าวเผยด้วยว่า ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ารายการความจริงวันนี้สัญจร ได้พักอยู่ที่โรงแรมมาโคโปโล เกตเวย์ ในฮ่องกง โดยมีส.ส.พรรคพลังประชาชนจำนวนหนึ่ง เดินทางไปพบและเดินทางกลับวันที่ 4 พ.ย.
พรรคร่วมเสียงแตกคนละทิศ
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.291 ว่า กรณีนี้ต้องคิดให้มากและรอบคอบว่าเมื่อแก้ไขแล้วจะส่งผลกระทบต่อประเทศชาติและทำเพื่อตัวเองหรือไม่ ตนอาจเสนอให้ในที่ประชุมหัวหน้าพรรคการเมืองในวันนั้นให้ชะลอการแก้ไขช่วงนี้ออกไปก่อน
นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี วิปรัฐบาล พรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวว่า จากการพูดคุยกับชาวบ้าน พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ มีความเห็นให้รัฐบาลชะลอเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อน เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นชนวนทำให้บ้านเมืองแตกแยก รัฐบาลควรมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องประชาชนเป็นอันดับแรก
น.พ.อลงกต มณีกาศ ส.ส.นครพนม วิปรัฐบาล พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า เห็นด้วยกับการแก้รัฐ ธรรมนูญ แต่ไม่ใช่ในสถานการณ์ที่บ้านเมืองแตกแยกรุนแรง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ซึ่งอาจเป็นชนวนทำให้บ้านเมืองมีปัญหามากขึ้น หากพรรคมาขอชื่อให้สนับสนุนจะไม่เซ็นชื่อแน่นอน
นายเอกพจน์ ปานแย้ม ส.ส.ปทุมธานี วิปรัฐบาล พรรคชาติไทย กล่าวว่าเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญในช่วงนี้ เพราะเป็นคนละส่วนกับปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญ 50 มาจากเผด็จการ เป็นกติกาที่ไม่มีใครยอมรับ หากรัฐบาลมาขอรายชื่อเพื่อสนับสนุนเมื่อไหร่ พรรคชาติไทยได้เตรียมรายชื่อ ส.ส.ที่สนับสนุนทั้ง 34 คนไว้
คาดปรับครม.เพิ่มรมช.ศึกษาฯ
ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีจะเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 นำ มาสู่การตั้งส.ส.ร.3 ว่า กลุ่ม 40 ส.ว.ยังไม่มีมติว่าจะ คัดค้านหรือสนับสนุน แต่ถ้ารัฐบาลใช้เสียงมากลาก ไปเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดวิกฤตได้ หากแก้ไขรัฐธรรมนูญบนความขัดแย้งจะเหมือนการนำ เศษฟืนเศษไม้ไปโหมทำให้ไฟลุกบ้านแรงขึ้น และไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงนี้ ควรมุ่งหน้าสู่การสานเสวนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจะดีกว่า
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงนายสมชายเตรียมปรับครม. ตำแหน่งที่ว่างลงแทนพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ลาออกจากรองนายกฯว่า นายสมชายคงปรับเล็กเพียงไม่กี่ตำแหน่ง น่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการโดยเพิ่มรัฐมนตรีช่วยเพื่อช่วยทำงาน ขณะนี้มีเพียงรัฐมนตรีว่าการเพียงคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบบุคลากรเป็นจำนวนมาก ประกอบกับงานและปัญหาภายในกระ ทรวงเยอะ ที่ผ่านมายอมรับว่าผู้ใหญ่ในพรรคก็มีสัญญาใจกับตน แต่ตนจะไม่ขอทวงอะไร ให้นายกฯและผู้ใหญ่ในพรรคพิจารณา จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประสานมาที่ตน
ปชป.ระดมทุนเตรียมเลือกตั้ง
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ประธานจัดงานระดมทุนของพรรค แถลงว่า วันที่ 8 พ.ย. พรรคจะจัดงานระดมทุนที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เชิญแขก 4,000 คน การจัดงานครั้งนี้เพื่อส่งสัญญาณรวบรวมกำลังเตรียมการต่อสู้ทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นตั้งแต่บัดนี้ ราคาบัตรอยู่ที่ใจ แล้วแต่ความสมัครใจ บางคนให้ 1-5 ล้านบาท แต่ 10 ล้านบาทยังไม่มี เพราะตามกฎหมายให้บริจาคได้ 10 ล้านบาท บางคนจองบัตรเดียว บางคนจองทั้งโต๊ะ เงินทั้งหมดจะเอาไว้ใช้เฉพาะเลือกตั้งทั่วไปเท่านั้น ย้ำว่างานนี้ไม่เกี่ยวกับเสื้อเหลืองเสื้อแดง พรรคไม่คิดท้าทายหรือประลองกำลังกับใครและไม่เป็นศัตรูกับใคร ในงานยังจำหน่ายของที่ระลึก เช่น เสื้อ หมวก แก้ว เนกไท ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์จะกล่าวสุนทรพจน์หัวข้อ "เชื่อมั่นประเทศไทย มั่นใจประชาธิปัตย์" พูดถึงปัญหาวิกฤตบ้านเมืองว่าจะมีทางออกแบบใด
เมื่อถามว่าการจัดงานระดมทุนแสดงว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นเร็วๆนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า การเลือกตั้งจะมีขึ้นเมื่อไหร่ไม่มีใครทำนายได้ นายสมชายก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับบ้านเมือง รอเพียงโทรศัพท์ทางไกลอยู่ แต่เราเป็นพรรคการเมืองของประชาชนจึงประมาทไม่ได้ ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่าถึงเลือกตั้งอีกพรรคประชาธิปัตย์ก็สู้ไม่ได้ นายสุเทพกล่าวว่า เราจะสู้จนชนะ ไม่ชนะวันนี้ก็พรุ่งนี้ มะรืนนี้ก็ลุกขึ้นสู้ใหม่ ไม่ยอมแพ้
"เทือก"ฟุ้งมีโอกาสเป็นรัฐบาล
"เรามั่นใจว่าสู้เต็มที่ สู้เอาเป็นเอาตายเพราะมีชีวิตของประชาชน อนาคตประเทศชาติ สถาบันหลักของประเทศที่ต้องห่วงใยรักษา ดังนั้นเราจะสู้สุดชีวิต" นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่าคดียุบพรรคจะมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าแค่ไหน นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ขอทำนายว่าจะ ยุบหรือไม่ แต่พรรคการเมืองและนักการเมืองเหล่านี้เปลี่ยนแปลงรูปแบบได้ตลอด จากพรรคไทยรักไทย มาเป็นพลังประชาชน แล้วมาเป็นเพื่อไทย แต่สุดท้ายประชาชนจะจับได้ไล่ทันเองว่าเนื้อแท้คืออะไร การต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยก็คงเหมือนๆกัน เพราะเนื้อแท้คือพ.ต.ท.ทักษิณและระบอบทักษิณ จะสู้ได้หรือไม่ คงเห็นๆกันอยู่ ทุกอย่างไม่จีรังยั่งยืน ของเทียมยิ่ง เสื่อมเร็ว การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคมีโอกาสได้เป็นฝ่ายบริหาร เพราะมิตรแท้ของประชาชนในทางการเมืองคือพรรคประชาธิปัตย์
ต่อข้อถามเกรงหรือไม่ว่าการจัดงานระดมทุนจะถูกปิดล้อมเหมือนที่ จ.
โฟนอินโยงสถาบัน กองทัพฮึ่ม อัดแม้วทำไม่เหมาะ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง โฟนอินโยงสถาบัน กองทัพฮึ่ม อัดแม้วทำไม่เหมาะ