วันนี้ (3 พ.ย.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะผู้จัดรายการความจริงวันนี้สัญจร ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา
ให้สัมภาษณ์รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ยืนยันว่าทางผู้จัดงานจะนำเทป พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์สายตรงข้ามประเทศเข้ามาพูดคุยกับผู้ร่วมชุมนุม มาออกอากาศอีกครั้งในรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เอ็นบีที แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายออกมาคัดค้านก็ตาม
นายจตุพร กล่าวว่า ภายในงานไม่มีความลับอะไรที่จะเปิดเผยไม่ได้ และโทรทัศน์ทุกช่องก็นำภาพไปออกอากาศหมดแล้ว
ดังนั้น ก็เป็นสิทธิ์ที่ผู้จัดรายการจะนำเทปมาออกอากาศในวันพรุ่งนี้ ไม่เฉพาะช่วงของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะเป็นของทุกคนที่เราเห็นว่ามีแง่มุมต่างๆ ในการต้านรัฐประหาร ไม่มีใครเอาเทปฉบับเต็มออกอากาศได้อยู่แล้ว ภายใต้เงื่อนไขเวลาที่จำกัด นายจตุพร กล่าวต่อว่า เรื่องสถาบันที่มีการกล่าวถึงพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น เป็นสำนึกของคนไทย 63 ล้านคน เวลาเกิดทุกข์ได้ยาก ไม่ได้รับความยุติธรรม สิ่งแรกที่เขาจะนึกถึงก็คือ พระเจ้าแผ่นดิน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง เมื่อตัวเองได้รับชะตากรรม มีความทุกข์ ก็นึกถึงในหลวง ไม่ได้มีถ้อยคำใดๆ ที่จะไปดึงสถาบันลงมาเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้น ความพยายามที่จะบิดเบือนเรื่องเหล่านี้จึงฟังไม่ขึ้น หากวันนี้สิ่งใดที่ไม่ใช่ความจริง ผู้เสียหายก็มีสิทธิ์ฟ้องตนและผู้จัดรายการทั้งหมด
"การยินยอมให้อีกฝ่ายว่ากล่าว 3 ปีติดต่อกัน โดยที่อีกฝ่ายไม่มีโอกาสโต้ตอบเลย นั่นคือการสร้างความสามัคคี ใช่หรือไม่ เพราะฉะนั้นอีกฝ่ายเขาก็มีสิทธิ์ใช้ความเป็นมนุษย์ในการชี้แจงบ้าง ประชาชนผู้รับข่าวสารจะเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจว่าจะเชื่อใคร" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ยังเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ย.) ส.ส.จำนวนหนึ่งจะเดินทางไปยื่นถอดถอนกลุ่ม ส.ว.ที่ไปยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการแทรกแซงการทำหน้าที่ของข้าราชการ
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวในรายการเดียวกันว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยที่จะนำเทปออกอากาศซ้ำ เพราะเวลานี้มันเกินเลยไปจากความรับผิดชอบของผู้จัดรายการแล้ว เพราะตัวเนื้อหามีวัตถุประสงค์ทางการเมืองชัดเจน มีประเด็นเกี่ยวข้องกับเรื่องของศาล และสถาบัน จะกลายเป็นการเติมเชื้อไฟให้สถานการณ์มันร้อนแรงขึ้น ดังนั้น จึงเป็นเรื่องความรับผิดชอบของกรมประชาสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้ให้สัญญากับบริษัทเอกชนไปจัดรายการ
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะอ้างว่าพูดในฐานะคนไทยก็ได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าสถานะ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอนนี้แต่ต่างจากทั่วไป
ถือว่าเป็นผู้ต้องหาตามกฎหมาย และคดียังไม่สิ้นสุด และ พ.ต.ท.ทักษิณ เองก็เป็นส่วนหนึ่งของชนวนวิกฤติที่เกิดขึ้น การแสดงความคิดเห็นซึ่งเป็นข่าวออกไปแล้ว จึงเกิดผลกระทบอย่างที่เห็นกันอยู่ในเวลานี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการ กำลังสัมภาษณ์นายจตุพร และนายสาทิตย์ อยู่นั้น ได้มีการแสดงความคิดเห็นจนเกิดการโต้เถียงกัน มีการหยิบยกเรื่องในอดีตทั้ง สปก.4-01 คดี ปรส. ขึ้นมากล่าว จนในที่สุด นายจตุพร ถึงกับกล่าวว่า "ผมกับพรรคประชาธิปัตย์คงจะสมานฉันท์ไม่ได้ ก็คงต้องต่อสู้กันไป ผมมีความเชื่อเรื่องการต้านรัฐประหาร เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตย ซึ่งคงจะไม่มีวันไปบรรจบกับพรรคประชาธิปัตย์ได้" ซึ่งนายสาทิตย์ โต้ว่า "พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าท่าทีของเราก็ไม่เห็นด้วยกับเผด็จการ และไม่เห็นด้วยกับการไปรับใช้ทุนที่ไม่ถูกต้องเช่นกัน"
ยันออกอากาศ โฟนอิน จตุพรพร้อมรับผิดชอบ
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!