หนุ่มสาวซ่าชูแจกของลับพธม.เจอยิงสวนเจ็บ

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน ร.ต.อ.ป้อมเพ็ชร โชติกลาง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.นางเลิ้ง
 
รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณสี่แยก จปร. ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.สมโภช สุวรรณจรัส รอง ผกก.ป.สน.นางเลิ้ง พ.ต.ท.นพคุณ ประทุมเพ็ชร พนักงานสอบสวน (สบ 3) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุบริเวณทางคู่ขนานฝั่งตรงข้ามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วล-1593 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพกระจกหน้าแตกร้าวทั้งบาน มีรอยกระสุนยิงเข้าที่ประตูซ้าย 1 นัด และกระจกหูช้างด้านหลังขวาอีก 1 นัด

ขณะเดียวกันพบว่า

เจ้าหน้าที่ สห.ควบคุมตัวคนในรถไว้ได้ 5 คน ทราบชื่อคือ นายจรูญ ดีทั่ว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290/11 หมู่ 12 ต.คลองในบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่หัวไหล่ขวา 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ส่วนอีก 4 คน คือ นายเสกสรรค์ อายูมัน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 464/1 หมู่ 1 แขวงบางแค เขตทุ่งครุ นายสุริยา นิทัศน์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 1 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ น.ส.สุพพัตรา สู้ไพริน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 หมู่ 3 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และนายภูเบศ สกุณา อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 หมู่ 5 ต.กำเนิด อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ

จากการสอบสวนนายเสกสรรค์ให้การว่า

ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน พวกตนทั้ง 5 คน เดินทางมาจากบ้านย่าน จ.สมุทรปราการ เพื่อมาเที่ยวที่ถนนข้าวสาร หลังจากดื่มกินกันจนร้านปิดเวลาประมาณ 01.30 น. ก็พากันขึ้นรถคันดังกล่าวกลับบ้าน โดยมีนายจรูญ เป็นคนขับ ส่วนตนนั่งด้านหน้าข้างนายจรูญ และที่เหลือนั่งหลัง แต่พวกตนเกิดหลงทาง จึงขับรถวนไปมาเพื่อจะหาทางขึ้นสะพานพุทธฯ จนกระทั่งเมื่อมาถึงบริเวณแยก จปร.ไม่ทราบว่าเป็นเพราะความเมาของนายจรูญหรือไม่ จึงเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางสะพานมัฆวาน ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร

นายเสกสรรค์กล่าวต่อว่า

เมื่อไปถึงบริเวณแยกสะพานมัฆวาน นายจรูญก็ลดกระจกลง แล้วยกนิ้วกลางให้กลุ่มการ์ดของพันมิตร จากนั้นก็รีบกลับรถ เพื่อขับรถมุ่งหน้ากลับไปทางแยก จปร.เช่นเดิม หลังจากนั้นก็ถูกไล่ยิงมาหลายนัด และนายจรูญก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บจนขับต่อไม่ไหว กระทั่งมาจอดอยู่ตรงจุดเกิดเหตุ และถูกเจ้าหน้าที่ สห.คุมตัวเอาไว้ ขณะเดียวกันได้มีนายพีรเดช แสงสว่าง อายุ 31 ปี ขับรถแท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีชมพู ทะเบียน ทย-7691 กรุงเทพมหานคร สภาพกันชนหน้าด้านซ้ายถูกชนจนพัง เดินทางเข้ามาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความว่าถูกรถของนายจรูญเฉี่ยวชนที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ

นายพีรเดช โชเฟอร์แท็กซี่ ให้การว่า
 
ก่อนเกิดเหตุขับรถแท็กซี่จะเข้าไปรับคนที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ โดยตามหลังรถของกลุ่มผู้บาดเจ็บมาจากแยก จปร. เมื่อมาถึงบริเวณสะพานมัฆวานฯ ก็เห็นคนในรถคันดังกล่าว ลดกระจกลงมาแล้วชูนิ้วกลางใส่กลุ่มการ์ดพันธมิตรหลายครั้ง หลังจากนั้นรถคันดังกล่าวก็พยายามจะขับมุ่งหน้าไปทางวัดมกุฎฯ แต่ไปไม่ได้เนื่องจากมียางรถยนต์วางขวางอยู่ จึงรีบกลับรถ จนทำให้ชนกับรถของตนที่ขับตามหลังมา จากนั้นก็รีบเร่งเครื่องขับหลบหนีไป ก่อนจะได้ยินเสียงปืนยิงไล่หลังมา 6-7 นัด

ขณะที่กลุ่มการ์ดพันธมิตร เปิดเผยว่า
 
ก่อนเกิดเหตุ เห็นรถคันดังกล่าวเลี้ยวมาจากทางสะพานพระราม 8 พร้อมเร่งเครื่องมาอย่างแรง เมื่อมาถึงบริเวณหน้าเวทีมวยราชดำเนิน ซึ่งมียางรถยนต์วางขวางทางไว้ รถคันดังกล่าวก็ได้ลดความเร็ว ก่อนที่คนในรถจะตะโกนขึ้นว่า "เดี๋ยวมึงจัดการเลยนะ" ก่อนจะขับมุ่งหน้าไปที่สะพานมัฆวานฯ เมื่อมาถึงคนในรถก็ลดกระจกลงชูนิ้วกลาง และตะโกนให้ของลับใส่กลุ่มการ์ด จากนั้นก็รีบเร่งเครื่องเพื่อจะมุ่งหน้าหลบหนีไปทางวัดมกุฎฯ แต่ไม่สามารถขับออกไปได้ เนื่องจากมียางรถยนต์ขวางไว้ 2 ชั้น

กลุ่มการ์ดพันธมิตร กล่าวต่อว่า
 
หลังจากนั้นรถคันดังกล่าวก็รีบกลับรถเพื่อจะหลบหนี จนไปชนกับรถแท็กซี่ที่มารอรับผู้โดยสารอยู่บริเวณดังกล่าว จากนั้นคนในรถก็ชักปืนขึ้นมากระหน่ำยิงใส่กลุ่มการ์ดพันธมิตรจำนวนหลายนัด ก่อนจะรีบเร่งเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว โดยรถคันดังกล่าวได้ปีนขึ้นไปทางเท้าบริเวณหน้าองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เพื่อเข้าไปยังช่องคู่ขนาน ก่อนที่จะเร่งเครื่องผ่านหน้าเวทีมวยราชดำเนินไป แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ สห.ที่แยก จปร.สกัดจับเอาไว้ได้

ด้าน พ.ต.ท.นพคุณ ประทุมเพ็ชร พนักงานสอบสวน (สบ 3) กล่าวว่า
 
ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้กระทำผิด แต่ในเบื้องต้นจะสอบปากคำพยานทั้ง 4 ปากที่อยู่ในรถของผู้บาดเจ็บ ว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไรถึงได้ขับรถเข้าไปในบริเวณนั้น รวมทั้งจะสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่คู่กรณีด้วย ก่อนจะให้ฝ่ายสืบสวนติดตามหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป